หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบทำขนมเป็นงานอดิเรก มีความคิดแปลกใหม่เสมอ และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เชฟขนมหวาน หรือ Pastry Chef อาจจะเป็นอาชีพที่เหมาะกับคุณมากก็เป็นได้ แต่กว่าจะได้มาเป็นพาสทรี้เชฟ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องเริ่มฝึกกันตั้งแต่ลักษณะนิสัย ถึงการสร้างองค์ความรู้ที่เหมาะสมกันเลยทีเดียว วันนี้เราจะพาไปเรียนรู้ขั้นตอนการเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะเป็นพาสทรี้เชฟกัน1. ตัดสินใจให้ได้ก่อนว่าอยากเรียนตามสถาบัน หรือเรียนรู้จากการเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการทำงานจริง ตรงจุดนี้จะคล้าย ๆ กับของ Baker หรือคนอบขนม เนื่องจากสามารถเลือกชะตาชีวิตเองได้เลยว่าจะเสียเงินแล้วเข้าไปเรียนกับสถาบันต่าง ๆ โดยสถาบันจะสอนเทคนิคต่าง ๆ ให้ รวมถึงทฤษฎีการคิดคำนวณและการบริหาร การจัดซื้อให้ด้วย ซึ่งจะได้เทคนิคเยอะ ในเวลาอันสั้น แต่จะขาดประสบการณ์ในการทำงานจริงและความคล่องตัวในการทำงานจริงต่ำ โรงเรียนในเมืองไทยที่เป็นที่นิยมได้แก่ Le cordonbleu และสวนดุสิต อีกทางเลือกคือการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง โดยการสมัครงานและเรียนรู้จากหน้างาน วิธีนี้จะเหนื่อย หนัก นาน แต่ได้เงิน วิธีการทำบางอย่างอาจไม่ตรงตามตำราเรียน พวกนี้ต้องอาศัยทักษะและไหวพริบอย่างมากเพื่อที่จะเติบโตในสายงาน หากเลือกทางนี้ต้องเริ่มตั้งแต่เป็นผู้ช่วยในครัว หรือ Pastry cook กันเลยทีเดียวภาพโดย skeeze จาก Pixabay 2. เลือกทำงานในสายที่ใช่ การเป็นพาสทรี้เชฟนั่น ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการทำขนม คนที่รักจะเป็นพาสทรี้เชฟยังต้องเลือกอีกว่าตนเองนั้นถนัด และชอบในสายงานไหน เช่น สายโรงแรม สายร้านอาหาร สายโรงงาน เป็นต้น ซึ่งการทำงานเป็นพาสทรี้เชฟให้กิจการที่แตกต่างกัน ก็ย่อมมีการปฏิบัติที่แตกต่างกันด้วย เช่น หากเป็นพาสทรี้เชฟสายโรงงาน จะต้องคำนึงถึงการเคลื่อนย้ายขนม บรรจุภัณฑ์ของขนม รวมถึงวิธีการเก็บรักษาขนมก่อนที่จะคำนึงถึงความสวยงามเสมอ แต่หากเป็นสายโรงแรมหรือร้านอาหาร ส่วนใหญ่จะคำนึงถึงรูปร่างหน้าตาและรสชาติของขนมเป็นอันดับแรกภาพถ่ายโดย Daria Shevtsova จาก Pexels3. พัฒนาฝีมือและขยับฐานะจากพาสทรี้กุ๊กให้เป็นพาสทรี้เชฟ คำว่า”เชฟ”นั้น ใช่ว่าจะได้มาโดยง่าย ต้องผ่านการฝึกฝน เรียนรู้การคิดคำนวณ และการดูแล การจัดการต่าง ๆ มากมาย ทั้งนี้แต่ละคนอาจใช้เวลาพัฒนาจากการเป็นกุ๊กไปสู่เชฟไม่เท่ากัน โดยส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 3 – 5 ปี ภาพโดย skeeze จาก Pixabay 4. อย่าหยุดการเรียนรู้และพัฒนาตนเองไปเรื่อย ๆ เนื่องจากเทรนด์ของขนมเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ และมีวิทยาการใหม่ ๆ เข้ามา พาสทรีเชฟจึงต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา อีกทั้งยังต้องทดลองสูตรใหม่ ๆ และสั่งสมประสบการณ์ให้มากขึ้นเรื่อย ๆจะเห็นได้ว่าเส้นทางการเป็นพาสทรี้เชฟนั้น ไม่ได้เป็นกันง่าย ๆ เลย แต่หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รักในการทำขนมและอยากทำในสิ่งที่คุณรักทุกวัน อาชีพนี้ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียวภาพปกโดย Pietro Jeng จาก Pexels