คนเราเกิดมามีรูปร่างหน้าตาที่ไม่เหมือนกัน มีสภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงไม่เท่ากัน มีภูมิต้านทานโรคที่ต่างกัน ฯลฯ ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ของแต่ละคน เราก็เป็นคนหนึ่งที่มีโรคประจำตัว คือ โรคภูมิแพ้ และโรคหืด ซึ่งโรคภูมิแพ้นี้ เราได้รับการถ่ายทอดมาจากแม่ และเมื่อเรามีลูก ลูกเราก็เป็นภูมิแพ้เช่นกันค่ะ เราเป็นภูมิแพ้หนักมาก เป็นทุกฤดูกาล อากาศร้อนจัดภูมิแพ้ก็จะขึ้น โดยมีอาการคันยิบ ๆ ที่ตา น้ำตา น้ำมูกไหล ตาบวมแดง มีตุ่มขึ้นรอบของตา จาม ฯลฯ และเมื่ออากาศหนาว ก็จะจามต่อเนื่องเป็นชั่วโมง หรือบางครั้งอากาศปกติมาก แต่ถ้าสระผมตอนเช้า เราก็จะจามตลอดทั้งวัน จามหนักมาก แม้ว่าจะรับประทานยาแก้แพ้ต่อเนื่องกันก็ไม่หยุดจาม ต้องอาศัยความอดทนอย่างเดียว จนกว่าจะหยุดจามในช่วงเย็น // ขอบพระคุณภาพประกอบจาก : www.freepik.com // ด้วยความที่เป็นภูมิแพ้หนักมาก ทำให้มีโรคหืดเป็นของแถมมาด้วย แค่อากาศเปลี่ยนแปลง เราก็ป่วยด้วยโรคประจำตัวทั้ง 2 โรคนี้ จำได้ว่า ตอนเด็ก ๆ เราต้องไปพบคุณหมอบ่อยมาก ซึ่งในสมัยนั้นวิธีการรักษา คือ การรับประทานยาขยายหลอดลม กว่ายาจะออกฤทธิ์ก็แทบจะขาดใจ เพราะหายใจไม่ออก เนื่องจากอาการของโรคภูมิแพ้ คือ หลอดลมตีบ ทำให้การหายใจเอาออกซิเจนเข้าสู่ปอดเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่เรายังโชคดีมาก ที่เติบโตทันวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่ ซึ่งรักษาอาการหืดโดยใช้ยาพ่นเข้าทางลำคอ เมื่อพ่นไปแล้วรอสักพักเดียว ยาจะออกฤทธิ์ช่วยขยายหลอดลมได้อย่างรวดเร็ว ทำให้หายใจได้สะดวกขึ้น และสามารถกลับมาทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ // ขอบพระคุณภาพประกอบจาก : www.freepik.com // ทั้งภูมิแพ้และหืดทำให้คุณภาพการใช้ชีวิตของเราค่อนข้างแย่ ต้องหยุดเรียนไปหาหมอบ่อย ๆ ดังนั้น เมื่อเติบโตขึ้น เราจึงไปพบคุณหมอเฉพาะทาง เกี่ยวกับโรคระบบทางเดินหายใจ เพื่อขอรับคำแนะนำจากคุณหมอเรื่องการรักษาโรคภูมิแพ้ และโรคหืด คุณหมอบอกว่า การรักษาที่ผ่านมา เป็นเพียงการรักษาอาการเฉพาะเวลาที่มีอาการป่วย แต่ไม่ได้เป็นการรักษาที่ต้นเหตุของปัญหา ดังนั้น คุณหมอจึงแนะนำให้เราทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง (Allergy skin test) ผลการทดสอบพบว่า เราแพ้เกือบทุกอย่างที่ทำการทดสอบ เช่น เกสรดอกไม้ ไรฝุ่น แมงสาบ ผ้าไหม ฯลฯ แต่โชคดีที่ไม่แพ้อาหาร ทุกอย่างกินได้ตามปกติ ซึ่งคุณหมอแนะนำให้หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้เหล่านั้น ซึ่งจะช่วยให้อาการภูมิแพ้ของเราลงน้อยลง และที่สำคัญจะช่วยลดการเกิดอาการของโรคหืดได้ด้วย จากนั้น คุณหมอแนะนำให้ใช้ยาพ่น 2 ตัว ตัวแรกพ่นจมูก ตัวที่สองพ่นลำคอ เพื่อลดการอักเสบของระบบทางเดินหายใจ คุณหมอแนะนำว่า ถ้าระบบทางเดินหายใจปกติ เราก็จะมีอาการหอบจากโรคหืดน้อยลง และเนื่องจากตัวยามีส่วนผสมของสเตียลอยด์จึงต้องมีการประเมินผลการรักษาเป็นระยะ ซึ่งเราโชคดีมากที่ใช้ยาแค่ช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่อาการป่วยก็ทุเลาลง ส่วนลูกชายของเราเคย Admit ด้วยอาการหลอดลมไว และอาการหืด มาตั้งแต่อายุ 4 เดือน ดังนั้น จึงอยู่ในความดูแลของคุณหมอด้านระบบทางเดินหายใจมาโดยตลอดค่ะ ช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว คุณหมอจะอนุญาตให้พ่นยาได้ แต่ในช่วงฤดูร้อน คุณหมอแนะนำให้รับประทานยาแก้แพ้อากาศแทน จนปัจจุบัน เรากับลูกชายไม่เป็นโรคหืดอีกแล้ว เหลือเพียงโรคภูมิแพ้ที่จะมาเยี่ยมเยียนเป็นบางครั้งค่ะ // ขอบพระคุณภาพประกอบจาก : www.freepik.com // โรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ มาเยี่ยมเยือนเราได้เสมอ ขอให้หมั่นสังเกตอาการของตัวเอง และคนในครอบครัว แล้วจูงมือกันไปปรึกษาคุณหมอเฉพาะทางนะคะ คุณหมอจะช่วยให้การรักษา พร้อมทั้งคำแนะนำ ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยของเราจากหนักให้เป็นเบาได้นะคะ