เมื่อปีที่แล้ว เราและเพื่อนได้มีโอกาสดู Yogee New Waves แสดงสดครั้งแรกในเมืองไทย พร้อมกับวง The Fin. ที่ Voice Space โดยมีวงเปิดอย่างวงอินดี้ไทยขวัญใจคนรุ่นใหม่ (และรุ่นเก่า) อย่าง Somkiat ต้องขอบอกเลยว่าค่ำคืนนั้นเป็นคืนที่สนุกมากจนลืมไม่ลงเลยทีเดียว คนดูอย่างเราก็ได้แต่หวังว่าพวกเขาทั้งสองจะมีโอกาสกลับมาเล่นให้คนไทยฟังอีกครั้งในอนาคตจนเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Promoter เจ้าประจำอย่าง Seen Scene Space ผู้ที่ได้พาพวกเขามาแสดงโชว์ในเมืองไทยครั้งที่แล้ว ได้ประกาศว่าจะพา Yogee New Waves มาทำการแสดงอีกครั้ง โดยครั้งนี้เป็นการทัวร์อัลบั้มล่าสุดของพวกเขา แต่เราเชื่อว่าทางวงจะทำการขนเพลงฮิตรวมถึงเพลงที่ทุกคนอยากฟังจากอัลบั้มเก่า ๆ มาเล่นให้คนไทยได้ฟังกันอย่างเต็มอิ่มแน่นอน แถมงานนี้พ่วงด้วยวงเปิดอย่าง YEW และ Seal Pillow วงดนตรีเจ้าบ้านคุณภาพที่จะมาช่วยอุ่นเครื่องกันก่อนINTROขอเกริ่นก่อนว่าจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรารู้จักวงดนตรีวงนี้ คงหนีไม่พ้นช่วง 2014–2015 ซึ่งเป็นช่วงที่ซีนดนตรีอินดี้จากต่างประเทศเข้ามามีบทบาทในประเทศเราอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากฝั่งอเมริกาและเอเชียด้วยกันเอง ไม่ว่าจะเป็นเกาหลีหรือญี่ปุ่น โดยมี Yogee New Waves เป็นหนึ่งในนั้นสำหรับเรา อัลบั้มแรก Paraiso เป็นหนึ่งในอัลบั้มที่เราชอบที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ มันฟังเพลินทั้งอัลบั้มจริง ๆ ตั้งแต่ Track แรกอย่าง Megumi no Amen จนถึง Track สุดท้าย Camp และเพื่อเป็นการต้อนรับการกลับมาอีกครั้งของพวกเขา เราจึงเตรียมตัวทำการบ้านก่อนด้วยการไล่ฟังเพลงตั้งแต่อัลบั้มแรกจนถึงอัลบั้มล่าสุดอย่าง Blueharlem แบบครบทุกเพลงโดยไม่ข้ามเลยแม้แต่เพลงเดียว!และจากที่ได้ฟังไปทั้งหมด 3 อัลบั้มรวด ทำให้เราได้พบว่าความสามารถทางด้านดนตรีของวงนี้นั้นมันเป็นของจริง นี่ไม่ใช่แค่วงดนตรีที่มาแล้วหายไปแน่นอน ไม่อยากเชื่อเลยว่าพวกเขาได้พัฒนาแบบก้าวกระโดดถึงขนาดนี้ ความมีชั้นเชิงในด้านดนตรี ลูกเล่นและเทคนิคต่าง ๆ ถูกถ่ายทอดผ่านบทเพลงในอัลบั้มของพวกเขาอย่างลงตัวให้ตายเถอะ สิ่งเหล่านี้มันช่างกระตุ้นให้เราอยากดูคอนเสิร์ตในตอนนี้เลยจริง VERSEและแล้ววันที่เรารอคอยก็ได้มาถึง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน 2019 ที่ผ่านมา สถานที่จัดในรอบนี้เป็นสถานที่ใหม่อย่าง LIDO CONNECT โดยส่วนตัวเราได้มีโอกาสเคยดูที่ Venue นี้แล้วครั้งหนึ่งนั่นคือโชว์ของ Julie Byrne ที่จัดโดย Have You Heard? เราชอบความเป็น Slope ของพื้นที่ตรงนี้ ทำให้เราเต็มอิ่มกับการดูคอนเสิร์ตได้โดยที่ไม่มีการบังกันเกิดขึ้นแน่นอน (เพราะพื้นที่มันเป็นทางลาดลงไป) แถมซาวน์ก็ดีด้วยตาราง Time Schedule ของวันนี้เริ่มตั้งแต่ 19:00 ไปจนถึง 23:00 ทำให้เราแน่ใจว่าสามารถเดินทางกลับบ้านด้วย BTS ได้ทันเวลาแน่นอน (ขอบคุณผู้จัดที่คำนึงถึงเวลาการเดินทางของผู้ชมด้วยนะฮะ) เราเลยรีบมาตั้งแต่หกโมงครึ่ง เพื่อมาแลก Wristbands และเพื่อดู Merch ที่ทางศิลปินเอามาขาย ต้องบอกเลยว่าสวย ๆ ทั้งนั้น แต่ด้วยสภาพทางการเงินที่ไม่เอื้ออำนวย เลยอดไปตามระเบียบฮะ T-Tเริ่มกันที่วงเปิดแรกของงานนี้ได้แก่ YEW ระหว่างที่วงได้ทำการ Performance ไปเรื่อย ๆ เรารู้สึกได้เลยว่าทางวงได้รับอิทธิพลมาจาก HYUKOH เต็ม ๆ ดนตรีของพวกเขามีส่วนผสมของทั้ง J-Indie และ K-Indie เป็นอีกหนึ่งโชว์ที่สนุกมาก ใส่แบบสุดตัวกันตั้งแต่เพลงแรกเลย เริ่มต้นโชว์ด้วย โอ้ที่รัก และต่อด้วย Let You GoSummer และ กังฟู ถูกเล่นมาเป็นลำดับถัดไป กรู๊ฟสนุก ๆ ที่ฟังแล้วชวนโยก ทำเราเต้นจนเหนื่อยตลอดทั้ง 4 เพลงเลย ต่อมาเป็นเพลงช้าอย่าง ก้อนหิน (unreleased) นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเพลงที่เราชอบเช่นกัน รู้สึกเลยว่ามีกลิ่นความเป็น Post-Rock จาง ๆ ใครอกหักมาฟังเพลงนี้นี่คือตายแน่นอน รอทางวงปล่อยเพลงนี้ออกมาอยู่นะฮะต่อด้วย พูด เพลงที่โคตรเดือด เราชอบจังหวะสัดส่วนของกลองในเพลงนี้มาก และ รองเท้า มีสำเนียงความเป็น Math-Rock เบา ๆ ปิดท้ายด้วย ลมที่ลา เพลงที่ทำให้เรารู้จักวงนี้เมื่อปีที่แล้ว มาในวันนี้ได้มีโอกาสได้ฟังสดซะที ไม่ทำให้ผิดหวังเลยจริง ๆอยากจะบอกว่านี่คืออีกหนึ่งวงดนตรีของบ้านเราที่น่าจับตามองที่สุดวงหนึ่งเลย ด้วยลักษณะการเล่นสดรวมถึงเนื้อหาและการเรียบเรียงดนตรีในแต่ละเพลง ถ้าใครได้มีโอกาสดูวงนี้จะไม่ผิดหวังเลยจริง ๆ เชื่อเราเถอะ เรารอคอยอัลบั้มเต็มอยู่นะ Pre - Chorus วงเปิดวงที่สองในค่ำคืนนี้ได้แก่ Seal Pillow จากค่าย Parinam Music ด้วยตัวแนวเพลงที่เป็น Indy Pop ฟังเพลิน สบาย ๆ เริ่มทำให้มีผู้คนไปจับจองพื้นที่หน้าเวที เต้นไปกับบทเพลงของพวกเขากันอย่างไม่เคอะเขินมากนัก ทางวงได้ขนเพลงต่าง ๆ มาให้ฟังกันอย่างจุใจ ทั้งเพลงเก่าและใหม่สลับวนกันไปเรื่อย ๆ เป็นอีกโชว์ที่สนุกมากเช่นกัน (พอดีตอนที่วงนี้แสดงเป็นเวลาสองทุ่ม ตอนนั้นหิวมากฮะ เลยทำให้ได้ดูแค่ไม่กี่เพลงก็ต้องออกไปหาอะไรกินก่อนเพราะทนไม่ไหวจริง) Chorus เป็นเวลาสามทุ่มตรง พวกเขาทั้ง 6 คนก็ได้ขึ้นมาเวทีและทำการ Sound Check เบา ๆ ให้เราโยกตาม และทันทีที่ Kengo (นักร้องนำ) หันหน้ามาหาคนดูแล้วพยักหน้า ก็เป็นสัญญาณที่ว่า Yogee New Waves พร้อมทำการแสดงให้ทุกท่านได้รับชมแล้วเริ่มต้นโชว์กันด้วยเพลงจากอัลบั้มล่าสุดอย่าง Summer of Love ต่อด้วยอีกหนึ่งเพลงโปรดของเราในอัลบั้มแรกที่มี Intro ชวนคุ้นหูอย่าง Summer ตอนนี้ผู้ชมหลายคนเริ่มทนไม่ไหว ต้องลุกขึ้นมาเต้นกันหน่อยละ บางคนก็โดดลงไปเต้นที่หน้าเวทีเลยก็มี ดีใจที่เห็นหลายคนเริ่มสนุกกันมากขึ้นฮะCAN YOU FEEL IT และ to the moon ถูกเล่นเป็นลำดับถัดมา ต่อจากนั้นก็ซัดยาวอีก 3 เพลงรวดได้แก่ Good Night Station / Suichutoshi และ emeraldเอาละครับ ต่อจากนี้คือความบันเทิงที่สุดในงานละ เพราะเป็นช่วงพูดคุยกัน โดยสมาชิกในวงทุกคนต่างหยิบโพยขึ้นมาอ่านเป็นภาษาไทยกันทุกคน เรียกเสียงหัวเราะจากคนไทยได้เป็นอย่างดี น่ารักมาก ๆ ฮะ สนุกมากClimax Night เป็นหนึ่งในเพลงที่สร้างชื่อให้กับวง ก็ถูกหยิบยกขึ้นมาเล่นเช่นกัน (ตอนได้ยิน intro เพลงนี้เราก็กรี๊ดแล้วจ้า ดีใจมาก เพลงโปรดของฉัน) ต่อด้วยเซ็ตคอมโบอีก 4 เพลงรวดแบบไม่พักยกกันเลย Sunset Town / Fantastic Show / Bluemin’ Days และ Ride on Wave เป็นอันจบโชว์ แยกย้าย เดินลงจากเวทีไปและแน่นอนครับตามธรรมเนียม แค่นี้มันยังไม่พอหรอกนะ ยังไม่สาแก่ใจเลย ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันยืนปรบมือพร้อมกับส่งเสียงเรียกให้พวกเขากลับขึ้นมาบนเวทีอีกครั้ง ไม่นานนักพวกเขาทั้ง 6 ก็ได้กลับขึ้นมาบนเวทีและได้กล่าวขอบคุณสำหรับผู้จัด รวมถึงคนดู พร้อมกับบอกว่าถ้ามีโอกาสได้กลับมาที่เมืองไทยอีก จะกลับมาอย่างแน่นอนส่งท้ายค่ำคืนนี้แบบจริง ๆ ด้วย HOW DO YOU FEEL? และ Good Bye ทันทีที่เพลงจบ ทุกคนต่างวิ่งกรูออกไปรอที่โต๊ะลงทะเบียนด้านนอก เพราะช่วงเวลาต่อจากนี้เป็นช่วงเวลาแจกลายเซ็นสำหรับแฟน ๆ นั่นเอง ภาพรวมสำหรับวันนี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโชว์ที่เราประทับใจที่สุดในปีนี้เลยก็ว่าได้ ด้วย Performance ของทางวงที่เหมือนพาเราเข้าไปดำดิ่งในบทเพลงของพวกเขา แถมยังมีการบอกด้วยว่าโชว์ครั้งนี้ในไทยถือเป็น Special Set เพราะมีมือ Percussion และ Keyboard มาร่วมแสดงด้วย ยิ่งทำให้อินยิ่งขึ้นไปอีกประกอบกับ Vibes บรรยากาศภายในงาน เนื่องจากว่ามีแฟน ๆ ที่เป็นคนญี่ปุ่นเยอะมาก แอบมีความรู้สึกได้ฟีลเหมือนดู Live House ที่ญี่ปุ่นเลย ยิ่งตอนเพลงสุดท้ายที่ Kengo กระโดดจากเวทีลงมาโซโล่กีตาร์ท่ามกลางคนดูนี่คือ Magic Moment เลยจริง ๆอีกหนึ่งความประทับใจที่อดพูดถึงไม่ได้คือ นี่เป็นอีกหนึ่งงานเลยนะที่ไม่ค่อยเห็นมีใครยกมือถือขึ้นมาถ่ายเลย เป็นเพราะว่าทุกคนในงานสนุกกันมาก เอ็นจอยสิ่งที่อยู่ตรงหน้ากันจริง ๆ ขอชื่นชมจากใจฮะ เราชอบความรู้สึกแบบนี้มากเลยอนึ่ง ขออนุญาตยืมรูปภาพประกอบบางส่วนจาก Seen Scene Space ครับ ขอบคุณมากครับแล้วพบกันใหม่ในคอนเสิร์ตหน้า ขอบคุณและสวัสดีครับ#YogeeNewWaves #BlueharlemTour #YogeeNewWavesLiveinBangkok2019 #YEW #Sealpillowband #SeenSceneSpace