จะเดินทางไปเที่ยวไหนโดยรถไฟ ต้องไปขึ้นสถานีใหญ่ที่สถานีกรุงเทพ อาจจะไม่คุ้นหูกันเท่าไหร่นัก แต่ถ้าบอกว่าไปขึ้นที่หัวลำโพง คงจะคุ้นเคยกันแล้วแหละ แท้จริงแล้วทั้งสองสถานีนี้ ไม่ใช่สถานีเดียวกัน ไปทำความรู้จักสถานีรถไฟอันเก่าแก่ของประเทศไทยกันเลยค่ะ สถานีรถไฟกรุงเทพ หรือที่เราเรียกกันว่า หัวลำโพง เป็นสถานีรถไฟอันเก่าแก่อยู่คู่กับประเทศไทยมาแล้ว 103 ปี ซึ่งก่อตั้งขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ถูกใช้งานในรัชกาลที่ 6 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2549 ปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อปี พ.ศ.2541 ส่วนสถานีหัวลำโพง จริงแล้วๆ ไม่ใช่สถานีนี้ค่ะ แล้วไม่ได้เป็นชื่อเล่นของสถานีกรุงเทพ สถานีหัวลำโพง เป็นของรถไฟเอกชน เส้นทางการเดินรถทางรถไฟสายตะวันเป็นเส้นถนนมุ่งหน้าไปยังคลองเตย หากคิดไม่ออกว่าเมื่อก่อนสถานีตั้งอยู่ไหน ลองนึกภาพตามค่ะ เพียงแค่ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟกรุงเทพ ซึ่งในตอนนี้ถนนพระราม 4 ได้สร้างทับไว้ ตรงบริเวณMRT หัวลำโพงนั่นเลย กลับเข้ามาในสถานีกรุงเทพกันต่อค่ะ ลักษณะของอาคาร ตามเสาต่าง ล้วนแล้วเป็นสถาปัตยกรรมของสถานีรถไฟในประเทศเยอรมนี สังเกตได้จากลักษณะอาคารทรงโค้งครึ่งวงกลมเป็นโดมสูง ประดับด้วยนาฬิกาเรือนใหญโตไว้บอกเวลาให้กับผู้สัญจรไปมา ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของสถานีกรุงเทพนี้ ในโดมกว้างมีพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยวโดยสาร มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ รวมไปถึงเมื่อก่อนยังเป็นโรงแรมรถไฟด้วยค่ะโดยทางขึ้นจะอยู่ที่บริเวณข้างห้องน้ำ ในหนึ่งวันมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมาใช้บริการนับพัน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญ ๆ ของไทย เช่น สงกรานต์ ปีใหม่ หรือวันหยุดยาว จะมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการเป็นทวีคูณ หากใครที่ไม่ได้ทำการจองตั๋วล่วงหน้าไว้ อาจจะได้รับตั๋วยืนแทนก็เป็นได้ บริเวณรอบๆของสถานี มีพนักงานของการรถไฟทำความสะอาดอยู่ตลอดเวลา คอยดูแลความปลอดภัยของรถไฟเข้า-ออกทุกขบวน ในช่วงเช้า ช่วงเวลาเร่งรีบคนก็จะเยอะหน่อยค่ะ รถไฟแต่ละขบวนก็จะออกเวลาไล่เลี่ยกัน มีปลายทางไปยังจังหวัดต่าง ๆ ถ้ามีเวลาว่างมาเยี่ยมชมที่สถานี มีพิพิธภัณฑ์ที่ซ่อนตัวอยู่ข้างหน้าของสถานี พิพิธภัณฑ์นี้จัดแสดงโชว์ ของใช้ต่างๆ เซรามิก ของที่ระลึกจากการรถไฟ เมื่อเข้าไปถึงก็จะเจอกับคุณลุงที่คอยต้อนรับอย่างเป็นกันเอง เราแอบไม่เคาะระฆังดัง เป๊งงง!! ในพิพิธภัณฑ์จะสังเกตเห็นของเก่า อย่างตั๋วรถไฟแบบแข็งหลากสีสันที่ถูกเก็บไว้ในตู้ไม้ ซึ่งเป็นตัวรถไฟเหมาะแก่การสะสมเป็นอย่างมากค่ะ เพราะสมัยนี้ก็เปลี่ยนเป็นดิจิตอลทั้งหมด ส่วนชั้น 2 จัดแสดงเป็นเหมือนแกลอรี่เล็กๆ มีภาพวาดให้ความรู้สึกน่าหวาดกลัวไปด้วย ภาพคำเตือนเรื่องการระมัดระวังเกี่ยวกับรถไฟ โมเดลจำลองรถไฟหัวจักรไอน้ำ ที่เหมือนมากๆ ปัจจุบันรถจักรไอน้ำยังมีให้บริการค่ะ ในหนึ่งปี ประมาณ 4 ครั้ง เป็นรถนำเที่ยวจะใช้เนื่องในวันสำคัญๆ เช่น วันพ่อแห่งชาติ ถ้าเพื่อนๆ คนไหนมีเวลาว่างกันนะคะ ลองหาสักทริปเที่ยวใกล้ๆ กรุงเทพฯ มีเยอะ เหมาะแก่การออกไปเที่ยว ถ้ากลัวร้อนมีทริปสั้น ๆ ไม่ไกลมากจากกรุงเทพฯ จะจัดเป็นแบบ One Day Trip ไปได้ง่ายๆ สบายเลยค่ะ แถมไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย ประหยัดสุดๆ เช่น ถ้าจะเดินทางไปเที่ยวอยุธยา มีรอบรถไฟให้ขึ้นกว่า 20 รอบต่อวัน ในราคาถูกสุดๆ 20 บาท ต้องเก็บกระเป๋าออกไปเที่ยวแล้วแหละ อย่าลืมนะคะจะไปขึ้นรถไฟที่ไหนต้องไปขึ้นที่สถานีรถไฟกรุงเทพค่าาา รูปภาพทั้งหมดโดย : เจ้าของบทความ