ไวรัสอู่ฮั่น,ไวรัสโคโรน่า,โควิค-19 ชื่อไหนกันแน่? “ไวรัสอู่ฮั่น” คือชื่อที่ไม่เป็นทางการในช่วงเริ่มต้นของการระบาด เนื่องจากตัวไวรัส ระบาดมาจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน “โคโรน่าไวรัส” คือชื่อของตัวไวรัส แต่ไวรัสตัวนี้นั้นมีหลายสายพันธุ์ ปัจจุบันค้นพบแล้ว 6 สายพันธุ์ ตัวที่เคยระบาดมาแล้วก็จะเป็น เมอร์ส (MERS) และซาร์ส (SARS) ส่วนที่กำลังเป็นข่าวล่าสุดโควิค-19 คือ “สายพันธุ์ที่ 7” ชื่อโคโรน่ามาจากการที่ลักษณะของตัวไวรัสนั้นเหมือนมงกุฎ ในภาษาลาติน corona แปลว่า crown หรือมงกุฎ สามารถติดเชื้อได้ทั้งคนและสัตว์ “โควิค-19” (COVID-19) คือชื่อล่าสุดที่ใช้อยู่ในปัจจุบันของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังระบาดอยู่ในตอนนี้ ตั้งชื่อโดยองค์การอนามัยโลก ดังนั้นไวรัสอู่ฮั่น,ไวรัสโคโรน่า,โควิค-19 ทั้งหมดคือไวรัสชนิดเดียวกัน แพร่เชื้อ ผ่านการ ไอ จาม ละอองน้ำมูกและเสมหะ รวมถึงการสัมผัสมือและสิ่งต่างๆที่ปนเปื้อนไวรัส เช่นเดียวกับไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจ อย่างไข้หวัด และไข้หวัดใหญ่ อาการของโรค คือ มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูกไหล หายใจเหนื่อยหอบ ถ้ามีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์ไว้ก่อน (ระยะฟักตัวของโรค 1-14 วัน หรืออาจจะยาวนานถึง 27 วัน) ความหน้ากลัวของไวรัสตัวนี้คือ ยังไม่มียารักษาที่ทำให้หายได้โดยตรง ทำได้เพียงประคับประคองโรคตามอาการเท่านั้น และถ้าเชื้อแพร่กระจายเข้าไปทำลายปอดได้ จะทำให้เชื้อแพร่กระจายลุกลามมากขึ้นและเร็วขึ้น จนถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้ เนื่องจากยังไม่มียา ไม่มีวัคซีนป้องกันโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ เราจึงควรเน้นเรื่องการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันเป็นหลัก 7 ข้อ ปฏิบัติห่างไกลไวรัสโคโรน่า 1.หมั่นล้างมือด้วยสบู่ เจลล้างมือแอลกอฮอล์อยู่เสมอ ทั้งก่อนและหลังทานอาหาร รวมถึงเมื่อสัมผัสสิ่งสกปรกอย่างลูกบิดประตู ปุ่มกดบนตู้เอทีเอ็ม ปุ่มลิฟต์ ราวบันได ลงจากรถเมล์ หรืออื่นๆ และไม่ควรนำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก ถ้าไม่จำเป็น ภาพจาก : เจ้าของบทความ 2.ใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน เป็นจากป้องกันการแพร่เชื้อจากคนอื่นมาสู่ตัวเอง และจากตัวเองออกไปสู่คนอื่น จะทำให้โอกาสติดเชื่อน้อยลง เพราะเชื้อไวรัสนี้ติดต่อผ่านทางลมหายใจ สารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก น้ำลาย และควรจะใส่หน้ากากอนามัยให้ถูก ให้เอาด้านสีออกด้านนอกเพราะด้านนอก (ด้านสี) ป้องกันน้ำได้ หรือ เรียกว่า วอเตอร์พรูฟ (Waterproof) เวลาไอ หรือจาม จะป้องกันไม่ให้ไอน้ำซึมเข้าไปได้ และให้เอาด้านที่มีขดลวดขึ้นข้างบน กดขดลวดให้แนบชิดกับสันจมูก หน้ากากอนามัยควรปิดตั้งแต่จมูก ปาก ลงไปถึงคาง และควรเปลี่ยนหน้ากากอนามัยใหม่อยู่เสมอ ภาพจาก : pixabay.com 3.หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่หรือ สถานที่แออัดที่มีคนพลุกพล่าน ไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยที่ไอ จาม ภาพจาก : pixabay.com 4.ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น พวกสิ่งของส่วนตัว ผ้าเช็ดตัว เช็ดหน้า แก้วน้ำ เป็นต้น 5.ควรทานอาหารปรุงสุก งดทานอาหารดิบ และเนื้อสัตว์ป่า 6.ติดตามข่าวสารข้อมูลที่น่าเชื่อถือจากกระทรวงสาธารณสุข อยู่ตลอดเวลาตามติดสถานการณ์อย่างไม่นิ่งนอนใจ 7.หากกลับมาจากต่างประเทศหรือมีอาการ หากมีอาการป่วยมีไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้สวมหน้ากากอนามัยและรีบไปพบแพทย์ทันที!! หรือโทรแจ้งสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 เพื่อให้รถจากสถานพยาบาลมารับ และหากกลับมาจากต่างประเทศต้องแจ้งให้หมอทราบเพื่อตรวจ จะได้ไม่เดือดร้อนผู้อื่น รู้วิธีป้องกันตัวเองอย่างนี้แล้ว โอกาสเสี่ยงติดโรคก็ลดน้อยลง สุขภาพของเรา เราต้องดูแลเอง อย่าลืมปฏิบัติกันด้วยนะ ปล.ด้วยความเป็นห่วง^^ #เด็กหัวการค้าIntrend #UTCCเด็กหัวการค้า