" Tokidoki " ภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า Sometimes ที่น่าแปลกใจคือ ต้นกำเนิดของแบรนด์นี้ไม่ใช่ที่ญี่ปุ่น แต่มาจากฝีมือการวาดภาพเรียกได้ว่า ระดับศิลปินจากอิตาลีเลยทีเดียว Simone Legno ตำแหน่ง " Co-Founder / Chief Creative Officer " ในแบรนด์ Tokidoki และ Pooneh Mohajer CEO / Co-Founder of tokidoki แบรนด์เริ่มต้นในปี 2005 ไม่ใช่แค่การวาดตัวการ์ตูน หรือ ออกแบบคาแรคเตอร์น่ารักเป็นซีรีส์ ความหมายของชื่อแบรนด์ Simone เลือกคำนี้จากความหลงใหลในวัฒนธรรมญี่ปุ่นผนวกกับความคิดสร้างสรรค์และฝีมือวาดภาพที่มีมาตั้งแต่ยังเด็ก ชื่อแบรนด์ที่แปลว่า Sometimes มีนัยสำคัญ ขยายความได้ว่า “everyone waits for moments that change one’s destiny " ทุกคนรอบางจังหวะที่จะเปลี่ยนโชคชะตาของตน จากอิตาลี Simone ได้ถูกชวนให้ย้ายมา L.A. เพื่อทำให้แบรนด์ดังระดับโลก ตัวการ์ตูนน่ารัก ๆ ที่เราอาจจะเคยเห็นกันบนกระเป๋า เครื่องประดับ เสื้อผ้า รองเท้า แม้แต่แพคเกจเครื่องสำอาง ของเล่น เหลือเชื่อมากที่ความคิดสร้างสรรค์ออกแบบมาได้หลากหลายขนาดนี้ ครั้งแรกที่ผู้เขียนได้รู้จักกับ Tokidoki คือตอนที่ได้มีโอกาสไปดูงานที่ อเมริกา ปี 2010 ในวันที่เมืองไทยยังไม่มี Sephora ไม่มี Bath&Body Works ไม่มีแม้แต่ Victoria's Secret โอกาสในการดูงานครั้งนั้นทำให้ได้พบกับแบรนด์ที่มีชื่อว่า Tokidoki ซึ่งไม่น่าเชื่อเปลี่ยนบางอย่างในชีวิตของผู้เขียนไปจริง ๆ วันนั้นผู้เขียนได้ซื้อเครื่องสำอางกลับมาจาก Sephora ด้วยความสนใจเหล่าตัวการ์ตูนบนกล่องมากกว่าตัวเครื่องสำอางเสียอีก ในตอนนั้นยังคิดว่าเป็นแบรนด์ญี่ปุ่นแน่ ๆ อนิเมะที่วาดออกมาน่ารักขนาดนี้ แถมชื่อแบรนด์ยังเป็นภาษาญี่ปุ่นซะด้วย ตัวการ์ตูนที่ยังไม่รู้จักชื่อ แบรนด์ที่ยังไม่รู้จักว่าใครเป็นคนออกแบบ และทำยังไงถึงได้ออกมาโลดแล่นบนแพคเกจเครื่องสำอาง ความชอบของผู้เขียนตั้งแต่สมัยเด็กคือการอ่านการ์ตูน วาดการ์ตูน อยากเป็นนักเขียนการ์ตูนแต่ก็ต้องปรับความชอบนั้นให้มาเป็นด้านออกแบบในด้านอื่นแทน ในแต่ละซีรีส์ของกลุ่มการ์ตูน Simone ไม่ได้เพียงแค่วาดขึ้นมาเฉย ๆ แต่ในแต่ละกรุ๊ปมีความหมายแฝงอยู่ อยากจะขอยกกลุ่มแรกขึ้นมาก่อน เป็นตัวการ์ตูนที่ดึงสายตาให้ไปซื้อเครื่องสำอางนั้นกลับมาประเทศไทย ถึงจะเป็นมาสคาร่าที่ปัดแล้วเป็นสีเขียว เป็นสีชมพู อายไลเนอร์สี ๆ อายชาโดววิ้ง ๆ สีที่แทบไม่ได้ใช้แน่ ๆ ใน ชีวิตประจำวัน ภาพที่แนบมานี้ถ่ายเอาไว้นานมากแล้วปัจจุบันเครื่องสำอางก็ยังใช้ไม่หมด และก็คงหมดอายุไปแล้ว แต่ใครจะทิ้งของน่ารัก ๆ แบบนี้ลง มาสคาร่าสีเขียว สีม่วง ยังมีอายไลเนอร์สีชมพูอีกต่างหาก(ของสะสมของผู้เขียนเอง) ผ่านไปเป็น 10 ปีทั้งกล่อง และตัวเครื่องสำอางยังเก็บไว้อย่างดี กลายเป็นของสะสมไปเลย ถ้าถามว่าทำไมยังเก็บไว้ Tokodoki ทำให้รู้ว่า การ์ตูนไม่ใช่แค่ การ์ตูนถ้าเราใส่คุณค่า และ มีที่มาสำหรับแต่ละตัว และยิ่งเป็นวงกว้างมากขึ้นถ้ามี " โอกาส " อย่างที่แบรนด์ได้ร่วมมือกันออกแบบสินค้ากับ แบรนด์เนมอื่น ๆ ผ้าปูที่นอนในภาพ คือห้องนอนผู้เขียนเองค่ะ ไม่ต้องสงสัยเลยใช่ค่ะ เครื่องนอน ToTo x Tokidoki ลาย Donutella กำลังคิดว่าจะทยอยซื้อเฉพาะลายที่ชอบ :) เสน่ห์ของ Tokidoki อยู่ที่เรื่องราวของตัวการ์ตูน ในแต่ละ ซีรีส์ที่ออกมา ทุกกลุ่มมีเรื่องราว ความน่าสนใจอีกอย่างคือนอกจากจะเป็นแบรนด์แล้ว Tokidoki ยังมีโอกาสจับมือร่วมงานกับ แบรนด์มีชื่อ อีกมากมาย อย่างไม่น่าเชื่อและ ไม่ว่าจะร่วมงานกับดีไซเนอร์ หรือ แบรนด์ อื่น Signature ที่แสนชัดเจนของแบรนด์ ทำให้ยังดูรู้เสมอ Tokidoki ไม่เคยทำให้เสน่ห์ของแบรนด์หายไปเลย ขอแนะนำแก๊งตัวละครก่อนดีกว่า หลังจากบรรยายมายาวเหยียด แน่นอนว่า ผู้ที่วาดเหล่าการ์ตูนน่ารัก ๆ เหล่านี้ขึ้นมาจากอิตาลี ชื่อแต่ละแก๊งพอจะสัมผัสได้คร่าว ๆ ถึงการผสมเสียงของภาษาอิตาลีลงไปเกิดเป็นชื่อที่มีเอกลักษณ์ขึ้นมา เหล่ากระบองเพชรแสนน่ารักนี้มีความหมาย นำกลุ่มโดย แซนดี้ที่สวมชุดกระบองเพชร ตัวการ์ตูนเหล่านี้สื่อถึง เด็ก ๆ ที่รู้สึกว่าโลกน่ากลัว และ โหดร้าย เราต้องมีอุปกรณ์ป้องกันตัวโดยทุกคนใส่ชุดกระบองเพชร นัยสำคัญก็คือ กระบองเพชรสื่อถึง ชีวิต แหล่งน้ำ เด็ก ๆ ที่ต้องการ การปกป้อง Donutella (โดนัทเทลล่า) เดินทางมาจากดวงดาวที่ใช้น้ำตาล และ ของหวาน เป็นเชื้อเพลิงในการเดินทางผ่านทางช้างเผือก ในการหาแหล่งเติมเชื้อเพลิง โดนัทเทลล่า ค้นพบดาวที่เรียกว่าโลก และ พบว่ามีน้ำตาล ของหวาน มากมายและตัดสินใจว่าที่นี่จะเป็นที่อยู่ใหม่ของเธอ และ เพื่อน เธอจึงตัดสินใจอยู่ที่โลกและไม่จากไปอีกเลย ช่างเป็น มนุษย์ต่างดาวที่น่ารักอะไรขนาดนี้ ผู้เขียนชอบสีชมพูมากค่ะเลยจัดชุดที่นอนลาย Donutella มา 1 ชุดจากเครื่องนอน ToTo (>///////<) " จนกว่าความตายจะพรากเรา " น่ารักแบบดาร์ค ๆ เรื่องราวของ Adios และแฟนสาว Ciao Ciao (Adios และ Ciao ถ้าแปลแล้วจริงๆจะหมายความว่า ลาก่อน แต่ Ciao ใช้ในการทักทายแทน สวัสดี เช่นกัน ) กับน้องแมว Skeketrino (มาจากคำว่า Skeleton ละคะ) หลังจากที่ Adios ใช้เวลา 500 ปีอยู่ใน นรกจู่ ๆ ปิศาจที่นั่นก็เห็นความดีในตัวของ Adios ขึ้นมาจึงไล่ให้ขึ้นมาใช้ชีวิตเดินทางไปบนโลกกับ แมว และ แฟนสาว ของเขาเพื่อสอนให้คนรู้คุณค่าของการมีชีวิต (เฉียบบบบไปอีก) แก๊ง " มูเฟีย " นำทีมโดย Mozzarella จะคอยคุ้มครองเด็กดี จากเด็กที่ชอบแกล้งคนอื่นจะฉวยเอานมกล่องจาก มื้อเที่ยงของเด็กไม่ดีซะ แล้วเอาไปให้เหล่าเด็กดีแทน เพราะเชื่อว่า นม คือพลังที่จะช่วยให้เด็ก ๆ เติบโตมาเป็นคนดีและปกป้องตัวเองได้ มูเฟีย จะเป็นกำลังใจให้เด็กดี กลุ่มพั๊งค์ร็อคที่เป็นการรวมตัวกันของเด็กๆ เพื่อปลุกชีวิตให้กับเครื่องเล่น คาราโอเกะ ที่ถูกทิ้ง พื้นที่ซ้อมวงของเหล่า Punkstar มีถึงสี่ชั้นพื้นที่กว้างขวางมาก เพื่อให้ทุกคนได้ฝึกในสิ่งที่ตัวเองชอบ ตั้งแต่เล่นดนตรี ไปจนถึง สเกตบอร์ด หลังจาก Unicorno ผ่านน้ำตกมหัศจรรย์จากม้าน้อยโพนี่ธรรมดา ก็กลายเป็นม้ายูนิคอร์น เหล่ายูนิคอร์นเดินทางไปมาระหว่างดินแดนมหัศจรรย์ และ โลกมนุษย์ ยูนิคอร์นกำลังเป็นคาแรคเตอร์ที่ตอนนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมในไทยเช่นกัน ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัส ผู้เขียนได้ค้นพบว่าในไทยมี Official store ของ Tokidoki ที่ Terminal 21 (หวังว่าตอนนี้จะกลับมาเปิดทำการแล้ว) ผู้เขียนเลยได้ซื้อเสื้อ Unicorno มา 1 ตัว เสื้อยืดราคาหลักพัน ด้วยตัวละครของแบรนด์ แต่ผ้าใส่สบายมาก ๆ ยอมรับเลย ส่วนใหญ่จะพบเห็นเหล่าการ์ตูนบนโปรเจคร่วมมือกับแบรนด์อื่น แต่ ร้านที่ตั้งอยู่ที่ Terminal21 อโศก เป็นของแบรนด์ Tokidoki โดยตรง แอบเศร้าที่พลาดข่าวว่าวันเปิดตัว ร้าน Simone Legno มาแจกลายเซ็นซะด้วย ช่างไม่มีโชคซะจริง ๆ (TT TT) เหล่า Mermicorno ครึ่งยูนิคอร์นและเมอร์เมดหลังจากบินผ่านดาวตกที่แตกตัวกลายเป็นสายน้ำเปล่งประกาย เปลี่ยนเหล่าดวงดาวเป็น ปลา แมงกะพรุน และเปลี่ยน Unicorno เป็น Mermicorno ซึ่งเดินทางมาจนถึงโลกของเราจนกลายเป็นข่าวลือว่า จะพบเห็นเหล่า Mermicorno ได้ในคืนที่มี จันทรุปราคา เรื่องราวแฟนตาซี ชวนฝันกับเหล่า Mermicorno เหมือนนิทานแอนเดอร์สัน ในยุคโมเดิร์นนิด ๆ ความตั้งใจในการครีเอตเรื่องราว วาดคาแรคเตอร์ออกมาในแต่ละกลุ่มคือ เสน่ห์เฉพาะตัวที่ไม่ว่าตัวละครจะไปร่วมมือกับแบรนด์ไหน ๆ ยังไงก็แทบไม่พลาดที่จะบอกได้ว่า นี่แหละ Tokidoki ในที่นี้ขอยกตัวอย่างบางส่วนเพิ่มเติมที่ Tokidoki ได้เคยร่วมงานกับแบรนด์ดัง ๆ ซึ่งใครหลายคนได้อ่านแล้วต้องร้อง อ๋ออออ แน่นอน เป็นการร่วมงานกันที่ค่อนข้างลงตัวเลยทีเดียว เมื่อ Kitty พบกับ Tokidoki ด้วยการออกแบบในสไตล์ของ Simone เพิ่มความขบถให้แก่ เด็กหญิง คิตตี้ทำให้นอกจากการเป็น เด็กผู้หญิงที่สูงเท่าแอปเปิ้ล 1 ลูก คิตตี้พัฒนาแฟชั่น และ สไตล์ขึ้นอีกระดับ ค่อนข้างผสานความหวาน น่ารัก และ เท่ห์ ไว้ได้อย่างลงตัวโดยที่ความชัดเจนของทั้ง สองแบรนด์ไม่กลืนกันในขณะเดียวกันก็ไม่กลบประกาย และ ความโดดเด่นของกันและกัน การร่วมโปรเจคครั้งนี้เราเลยได้เห็นงานออกแบบมากมาย ที่ทำให้ คิตตี้ น่าสนใจและมีเสน่ห์ขึ้นอีกหลายเท่าตัวทีเดียว Karl ตำนานแห่งโลกแฟชั่นการออกแบบในครั้งนี้ เรียกว่าเป็นโปรเจคที่ร่วมมือกับ Karl โดยออกแบบด้วยความเคารพ และ เป็นการถ่ายทอด Karl ในมุมมองของ Tokidoki ได้ดีทีเดียว รายละเอียดเล็กน้อยเช่น น้องแมวชูเพตต้า หรือ ท่าทาง สีสันที่เป็นเอกลักษณ์ของ Karl ทางแบรนด์ก็จับใจความหลักไว้ได้ดีทีเดียว เคยเห็นหุ่นโชว์ที่ Central World ครั้งหนึ่ง เสียดายที่ถึงอยากจะเป็นเจ้าของสักชิ้น ด้วยความเป็น Karl Lagerfeld ราคาย่อมไม่มีทางธรรมดาแน่ ๆ ( T T) แต่สินค้าได้ออกมาสมศักดิ์ศรี ดีไซเนอร์ในตำนานแล้ว อู้วววววววววววว Marvel เห็นก็ตาลุกวาวเป็นแมงมุมสไปเดอร์แมนตัวนั้นแล้ว Tokidoki ทำออกมาได้ทั้งน่ารัก และ เท่ห์ มากในเวลาเดียวกัน เหล่าAvenger น่ารัก น่าสะสมมาก ทั้งเสื้อ หมวก ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าได้เข้ามาวางขายในไทยหรือเปล่า แม้แต่ตัวละคร Dare devil ทาง Tokidoki ก็เก็บรายละเอียดไว้ ถ้าวางขายในไทย ผู้เขียนคงอดไม่ได้ ซื้อเก็บไว้เป็นของสะสมที่มีค่าทางใจแน่นอน เรียกได้ว่าจากที่กล่าวมายังเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง มีอีกหลาย ๆ แบรนด์ ที่ได้ร่วมโปรเจคกับ Tokidoki นอกจากจะมีสินค้าของตัวเองแล้ว ยังมีโอกาสร่วมออกแบบกับ แบรนด์ ดัง ๆ อีกมากมาย ทำให้ผู้เขียนหันมาวาดการ์ตูนอีกครั้ง แต่ไม่ใช่ในแบบมังงะ ญี่ปุ่นจ๋า แต่เป็นในแบบสไตล์ของผู้เขียนเองแม้จะออกแนว info graphic มากกว่าก็ตาม แบรนด์ Tokidoki ไม่ใช่แค่แบรนด์ที่วาดตัวละครขึ้นมา สร้างสินค้า แล้วขาย แต่ Tokidoki เป็นแรงบันดาลใจในแนวคิดของ Character design มีความ graffiti อยู่ในทีเป็นงานศิลปะที่เข้าถึงง่าย น่าสะสม สมแล้วที่ Tokidoki จะเป็นแบรนด์ระดับโลกเพราะสิ่งที่ทำให้ทั้งโลกเชื่อมกันได้แม้ไม่ได้พูดภาษาเดียวกันนั่นก็คืองานศิลปะ ในงานหนังสือที่จัดขึ้นที่ เมืองทองธานี เมื่อปี หรือ 2 ปีก่อน ผู้เขียนได้พบกับหนังสือ ที่รวบรวมเหล่าแบรนด์ ที่มีรากฐานมาจากการวาดการ์ตูนไว้ในเล่มแน่นอนว่า Tokidoki เป็น หนึ่งในหนังสือเล่มนั้นมีอีกหลายแบรนด์เลยทีเดียวที่ เกือบจะเป็นได้เหมือน Tokidoki แต่อาจจะเพราะความชัดเจนในคาแรคเตอร์ของแบรนด์มาก ๆ จึงไม่ได้มีโปรเจคร่วมกับแบรนด์อื่น ๆ เหมือนที่ Tokidoki มีโอกาส เพราะด้วยคาแรคเตอร์ที่ Simone ออกแบบสามารถต่อยอดไปเป็นอะไรก็ได้ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แพคเกจเครื่องสำอาง เครื่องประดับ เมื่อมองคาแรคเตอร์เหล่านั้นบนสินค้า สินค้านั้นดูมีชีวิตชีวา และ เหมือนจะบอกเราว่า " พาเรากลับไปด้วยซิ " นั่นคือความมีชีวิตชีวา และ เสน่ห์ที่ไม่มีใครเหมือน เป็นแบรนด์ในดวงใจของผู้เขียนแบรนด์หนึ่งเลยทีเดียว ถ้าถามว่าได้เรียนรู้อะไรจาก Simone Legno ความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ ลายเส้นที่เป็นของตัวเอง เป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถพรากไปจากคุณได้ และ เชื่อสิว่า การวาดภาพ วาดการ์ตูนจินตนาการนั้น พาคุณไปได้ไกลกว่าที่คิด อดนึกถึงวลีหนึ่งของ อัฉริยะของโลกไม่ได้เลย " จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ " อัลเบิร์ต ไอสไตน์ กล่าว เชื่อว่าที่กล่าวเช่นนั้น ก็เพราะ จินตนาการไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งมีเพียงเจ้าของจินตนาการเท่านั้นที่รู้ว่าสิ่งที่คิด ถ้าลงมือทำแล้วคำว่าข้อจำกัด หรือ ขอบเขต หรือ คำว่า ทำไม่ได้ ไม่ใช่สิ่งสำคัญเลย ถ้าคุณเชื่อในตัวเองและคว้าโอกาสไว้ ถ้าสนใจแบรนด์ลองเข้าไปดูเพิ่มเติมที่ https://www.tokidoki.it/ ภาพจาก Tokidoki