หลังจากไม่ได้กินอาหารแบบนั่งกินที่ร้านมานานนับเดือน ในวันแรกที่ ศบค. หรือศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เริ่มผ่อนผันคลายความเข้มงวด อนุญาตให้ร้านอาหารสามารถเปิดให้นั่งกินในร้านได้ (โดยต้องมีการดูแลรักษาระยะห่างและทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์อย่างเข้มงวด) ฉันก็ไม่รอช้า พาครอบครัวไปประเดิมมื้อกลางวันทันที เราขับรถมาจากบางนาตรงเข้ามาในเมือง ฉันชี้ให้หลานชายเลี้ยวขวาเข้าซอยทองหล่อ (สุขุมวิท 55) เพื่อดูว่ามีร้านไหนที่เริ่มเปิดให้บริการแล้วบ้าง ขณะที่สอดส่ายสายตาหาร้านที่เข้าตาอยู่นั้น สายตาทุกคนก็ปะทะเข้ากับร้านเป็ดพะโล้กลางซอยทางขวามือพร้อมกัน เห็นว่าเขาเปิดร้านแล้วมีลูกค้านั่งกินอยู่ข้างใน อ่านป้ายชื่อร้าน “บ๊วยโภชนา” ก็เชื่อใจว่าอร่อยแน่นอน ฉันเองเคยได้ยินชื่อร้าน "บ๊วยโภชนา" มาก่อนหน้านี้แล้ว ชื่อนี้จัดว่าเป็นหนึ่งในเจ้ายุทธจักรเรื่อง “ก๋วยเตี๋ยวเป็ดพะโล้” ร้านดั้งเดิมตั้งอยู่บนถนนบรรทัดทอง และยังมีอีกหนึ่งสาขาที่เหม่งจ๋ายด้วย เฮียเจ้าของร้านรีบเข้ามาต้อนรับ เมื่อเห็นว่าเรามากันสี่คน แกก็ชี้ให้พวกเราแยกโต๊ะกันเพื่อความปลอดภัย มองเข้าไปในร้านเห็นว่ามีแผงกั้นโต๊ะเหมือนเป็นตัวอย่างวางอยู่ที่โต๊ะด้านใน เข้าใจว่าวันนี้เป็นวันแรก ทุกอย่างคงยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น เมื่อลูกค้าคนก่อนหน้ากินเสร็จลุกไป เฮียก็บัญชาการให้พนักงานรีบทำความสะอาดโต๊ะด้วยแอลกอฮอล์ทันที เราสั่งอาหารจานเดียวแยกกันกินเพื่อความปลอดภัย ฉันกับหลานสาวสั่งบะหมี่เกี๊ยวเป็ด (80 บาท) บะหมี่ไข่ของเขาลวกมาเหนียวนุ่ม เนื้อเป็ดสไลด์มาขนาดกำลังดี รสชาติอร่อยนุ่มนวลเคี้ยวง่าย ไม่เหนียวและไม่มีกลิ่นสาป ส่วนเกี๊ยวเป็ดนั้น เฮียบอกว่าคิดค้นขึ้นเอง เป็นเมนูที่ไม่มีทางหากินได้ที่ไหน แป้งเกี๊ยวใช้แป้งที่ทำเส้นบะหมี่ ห่อไส้ที่มาจากเนื้อเป็ดผสมเนื้อหมูปรุงรสมาอย่างพิถีพิถัน ใครมาร้านนี้แนะนำให้ลองสั่งกัน เพราะเป็นสูตรต้นฉบับของร้านนี้เอง ข้าวหน้าเป็ดพะโล้ (60 บาท) คงเป็นจานที่คนสั่งมากที่สุดของร้าน ข้าวนั้นเขาหุงมาเม็ดสวย กินกับเป็ดสไลด์เนื้อนุ่มและน้ำราดรสชาติกลมกล่อม หลานชายสั่งเกาเหลาเป็ดพะโล้ (70 บาท) แอบบ่นว่ารสชาติเข้มไปสักนิด แต่ก็น่าจะพอดีเมื่อกินกับข้าวร้อน ๆ เมนูแนะนำของร้านบ๊วยโภชนาเข้าใจว่าจะเป็น ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นอบหม้อดิน (120 บาท) ซึ่งจะได้น่องเป็ดมาแทะให้ฟิน กินกับน้ำซุปร้อนโฉ่ที่รสชาติจะเข้มข้นขึ้นไปอีกขั้น จานที่ฉันยกนิ้วให้คือ คะน้าน้ำมันหอย (100 บาท) ผักลวกมากรอบ ๆ สด ๆ โรยกระเทียมเจียวมาเต็มที่ ราดน้ำซอสหอมหวาน เป็นจานที่ฉันชอบที่สุดในมื้อนี้ ด้วยความที่เจ้าของร้านอัธยาศัยดี จึงเล่าให้ฟังว่า “บ๊วยโภชนา” นั้นสูตรดั้งเดิมมาจากรุ่นพ่อ สาขาทองหล่อนี้เป็นทายาท เมนูเด็ดนั้นแน่นอนคือ “เป็ด” ซึ่งน่าจะเด็ดทั้งเป็ดพะโล้และเป็ดตุ๋น เฮียเล่าว่ากว่าจะเข้าเนื้ออร่อยแบบนี้ ใช้เวลาเคี่ยวเครื่องเทศกันนานสามคืน เมนูของทางร้านยังมีอีกมากมาย ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 60 บาทไปจนสุดที่ 300 บาท จะบอกว่าราคาเบาก็ไม่ได้ แต่ก็ไม่หนักเกินไปสำหรับคุณภาพอาหารที่ได้มา ลูกค้าย่านนี้สามารถเลือกสั่งกันได้ตามความสะดวก กินไปสนทนาไป เฮียเล่าว่ายอดขายช่วงโควิดลดลงไปมาก ฟังแล้วก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจ และเชื่อว่าไม่ว่าไปนั่งร้านไหนก็คงได้รับฟังเรื่องราวน่าเห็นใจทั้งสิ้นในช่วงนี้ ใครมีธุระแถวทองหล่อ และกำลังเบื่อการห่อกลับไปกินที่บ้านขั้นสุด ลองหยุดแวะชิม “บ๊วยโภชนา” เป็นกำลังใจให้คนค้าขาย ในวันที่สถานการณ์โควิดเริ่มผ่อนคลาย วันที่หลายร้านเริ่มกลับมาจัดโต๊ะเก้าอี้เปิดขายอีกครั้ง ฉันได้แต่ภาวนาว่าทุกอย่างจะกลับไปเหมือนเดิมในเร็ววัน ถ้าเราร่วมแรงร่วมใจกันก็คงอีกไม่นาน ร้านบ๊วยโภชนา พิกัด : 318/1 ซ.สุขุมวิท55 (ทองหล่อ) ถ.สุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 09.30 – 17.30 น. เบอร์โทรศัพท์: 0-2392-7320 เครดิตภาพประกอบ : ผู้เขียนบทความ