สวัสดีค่ะ พบกับโลลินะคะ ในระหว่างวันหยุดอันแสนยาวนานนี้เพราะภาวะ COVID-19 ระบาด โลลิเชื่อว่าหลายคนอาจเริ่มเบื่อๆ กับการอยู่บ้านบ้างแล้ว แต่ไม่เป็นไรค่ะ! เพราะวันนี้โลลิได้นำบทความสนุกๆ มานำเสนอนักอ่านทุกคนนนน ซึ่งบทความที่โลลิมานำมาให้ในวันนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ ‘ความฝัน’ ค่ะ โลลิเชื่อว่าประเด็นเรื่องความฝันนั้น แม้จะมีมาอย่างยาวนาน แต่ก็ยังเป็นที่น่าพิศวงสำหรับใครหลายๆ คน และคุณรู้รึเปล่า ความฝันน่ะ...สามารถเป็นกุญแจบ่งบอกความเป็นตัวคุณลึกๆ รวมถึงความรู้สึกนึกคิด ที่คุณเองอาจไม่เคยรู้ตัวมาก่อนได้ด้วยนะ! เริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาแล้วล่ะสิ ^^ ถ้าอย่างนั้น เราไปเริ่มผจญภัยกับ ‘The Secret Of Dreams’ กันเลยดีกว่าาา~ Highlight ทำความรู้จักกับความฝันกันเถอะ รู้มั้ย...ทุกฝันนั้นมีความหมาย ฝันบ่งบอกตัวคุณอย่างไร และคุณจะรู้ได้อย่างไร ทำความรู้จักกับความฝัน ‘ความฝัน’ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นวัยไหน เชื้อชาติอะไร และเพศใด เป็นการแสดงออกของความรู้สึกนึกคิด และเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในสมอง คนเรามักจะฝันคืนละ 4-6 ครั้ง และเชื่อว่าคนส่วนใหญ่มักจะลืมความทรงจำเกี่ยวกับความฝัน หลังจากที่ตื่นนอนภายในเวลา 10 นาที ซึ่งสาเหตุนั้น นักวิทยาศาสตร์เองก็ยังไม่สามารถหาคำมาอธิบายแน่ชัดได้ว่าทำไม และมนุษย์นั้นพยายามที่จะทำความเข้าใจกับความฝันมาตลอดพันกว่าปีแล้ว ซึ่งมันถูกตีความไปทางเลขหวยบ้าง เป็นเรื่องของจินตนาการบ้าง เรื่องของการทำนายอนาคตบ้าง แต่ในระยะเวลาหลายทศวรรษนี้ ได้มีนักจิตวิทยาที่มาให้ข้อสันนิฐานในเชิงจิตวิทยาที่เกี่ยวกับความฝัน เช่น Calvin S. Hall : ความฝันคือกระบวนการทางความคิด เขามีแนวคิดว่า ความฝันคือส่วนหนึ่งของกระบวนการทางความคิด และความฝันเป็นเหมือนองค์ประกอบของแนวคิดของคนๆ นั้น G William Domhoff : ความฝันคือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินชีวิต ในงานวิจัยของ G William Domhoff พบว่า ความฝันได้สะท้อนความคิดและความกังวลที่เกิดขึ้นในชีวิตประจําวันของตัวผู้ฝัน ระบบประสาทด้านการรู้คิดเป็นกระบวนการของความฝัน มีผลมาจากกระบวนการทางประสาทและระบบของโครงสร้างทางความคิด (system of schema) รู้มั้ย...ทุกความฝันนั้นมีความหมาย การฝันของทุกคนนั้น แม้ว่าจะมีเรื่องราวแตกต่างกันไป แต่โลลิเชื่อว่ามันจะมีบางความฝันที่พอเราไปบอกเพื่อนว่าเราฝันแบบนี้ และก็พบว่าเพื่อนเองก็ฝันแบบเดียวกับเราเหมือนกัน! โลลิเองก็เป็นค่ะ นั่นก็เพราะว่าความฝันนั้นก็มีรูปแบบบางอย่างของมันที่เหมือนกัน มาดูกันเถอะว่ามีฝันเรื่องอะไรบ้าง ฝันว่าหล่นจากที่สูง : เคยไหมคะ ฝันว่าหล่นจากที่สูงๆ ไม่ว่าจะเป็นตึกสูงๆ หรือภูเขา โลลิเองก็เคยเป็น มันจะรู้สึกวูบหน่อยๆ โลลิเชื่อหลายคนเป็นกันค่ะ นักจิตวิทยา Ian Wallace กล่าวว่า มันเป็นสัญลักษณ์ความกลัวที่จะสูญเสียการควบคุม เมื่อคุณรู้สึกไม่สามารถควบคุมบางสิ่งในชีวิตของคุณได้ ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่คุณไม่พร้อม ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องของปัญหาต่าง ๆ ในชีวิต เช่น การเรียน งาน ความสัมพันธ์ สุขภาพ ฝันว่าถูกไลล่า : อันนี้โลลิเป็นบ่อยมากค่ะ T^T ชอบฝันว่ามีซอมบี้ไลล่า ปีศาจ หรืออะไรทำนองนี้บ่อยมาก และจะรู้สึกเหนื่อยสุดๆ ใครเป็นบ้างงง ฝันนี้เป็นสัญลักษณ์ของความรู้สึกไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงแต่คุณพยายามเลี่ยงที่จะนึกถึงมัน หรือแม้เป็นส่วนหนึ่งของบุคลิกภาพของคุณที่คุณไม่ต้องการยอมรับมัน แต่ในบางทฤษฎีบอกว่า การฝันว่าวิ่งหนีใครบางคนนั้น เป็นเพียงเสียงสะท้อนของสัญชาตญาณดั้งเดิมที่อยู่ในยีนของเรา เกิดอุบัติเหตุการขับรถ : หากคุณฝันว่า คุณขับรถแล้วควบคุมรถไม่อยู่ ซึ่งในทางจิตวิทยานั้น รถก็เหมือนตัวขับเคลื่อนในการเดินทางของชีวิต หากฝันเช่นนี้นั่นหมายความว่า คุณกำลังรู้สึกว่าชีวิตช่วงนั้นของคุณไม่เป็นไปดั่งใจ เหมือนควบคุมอะไรๆ ให้เป็นไปตามที่คิดไม่ได้ ซึ่งดูเหมือนคุณไม่มีความสุขเอาซะเลย ความฝันนี้มักเกิดขึ้นบ่อยในผู้หญิงเมื่อรู้สึกกำลังจะสูญเสียความสัมพันธ์หรือใครบางคน ฝันว่าลอยหรือบินได้ : อันนี้โลลิเคยฝันบ่อยมากสมัยเด็ก แต่พอโตมาก็ฝันน้อยลง ในฝันก็รู้สึกสนุกดีนะ แต่จริงๆ แล้วมันเป็นสัญลักษณ์ของความรู้สึกขาดอิสระ รู้เหมือนมีสิ่งมาคอยกีดขวางสิ่งที่อยากทำ หรือเป็นความรู้สึกที่คุณอยากได้ อยากมี อยากเป็นมากกว่าที่เป็นอยู่ คล้ายๆ ความรู้สึกของการขัดอกขัดใจ ฝันว่าไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า : โลลิเคยเป็นอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว นักจิตวิทยา Ian Wallace กล่าวว่า “ความฝันนี้หมายความว่าคุณรู้สึกอ่อนแอในงานใหม่หรือความสัมพันธ์ใหม่ของคุณ และกลัวว่าคนอื่นจะรู้จุดอ่อนและข้อเสียของคุณ” ฝันว่ามีครรภ์ : รู้ไหมคะว่าฝันนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในผู้หญิงอย่างเดียว แต่ผู้ชายก็สามารถฝันว่าตั้งครรภ์ได้ด้วย! นักจิตวิทยา David Bedrick กล่าวว่า “การตั้งครรภ์เป็นสัญลักษณ์ของสิ่งใหม่ที่กำลังเติบโตภายในตัวเรา” ดังนั้น ถ้าหากคุณฝันว่ากำลังตั้งครรภ์ นั่นหมายถึงคุณกำลังมองหาสิ่งใหม่ๆ มาเติมเต็มชีวิตของคุณ ฝันว่าทำข้อสอบไม่ได้: ถ้าหากว่าคุณฝันว่าทำข้อสอบไม่ได้ ซึ่งในกรณีนี้ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนเท่านั้น และสัญลักษณ์ของมันก็หหมายถึง คุณกำลังวิตกกังวล เครียดก่อนเข้านอน นักจิตวิทยาจะสัญนิฐานก่อนว่า คนที่ฝันอะไรประมาณนี้นน่าจะเป็นคนที่ชอบความสมบูรณ์แบบในชีวิต (Perfectionist) มันจึงจำเป็นอย่างมากที่คุณควรทำตัวเองให้ผ่อนคลายก่อนนอน ฝันว่าไปเรียน ทำงานสาย หรือไปไม่ทันนัด: ผู้เชี่ยวชาญด้านความฝัน Michael R. Olsen กล่าวว่า ความฝันนี้เป็นสัญลักษณ์ของความกลัวที่จะพลาดสิ่งที่สำคัญในชีวิตของคุณ เหมือนจิตใต้สำนึกคุณกำลังเตือนว่า คุณควรที่จะทบทวนเวลา และแบ่งเวลาให้ดี มันจะเกิดขึ้นเมื่อในชีวิตจริงคุณรู้สึกเหมือนมีเวลาไม่พอ กำลังทำอะไรไม่ทัน ฝันถึงสถานที่แปลกๆ ที่คุณไม่รู้จัก : อันนี้สนุกค่ะ เพราะความฝันนี้เกี่ยวข้องกับการรู้จักตัวเอง ถ้าเมื่อใดที่คุณฝันว่าคุณกำลังอยู่ในห้องที่คุณไม่รู้จัก นั่นหมายถึงคุณไม่รู้จักตัวเองดีพอ หรือตัวตนของคุณที่คุณละเลยซึ่งอาจเป็นพรสวรรค์ของคุณเอง ฮันแน่ ใครที่ฝันแบบนี้ลองกลับมาคิดดูซิว่าคุณมีอะไรดีๆ ซ่อนอยู่ในตัวที่คุณไม่เคยสนใจมันรึเปล่าาาา ลองทำความรู้จักกับตัวเองดูนะ ^^ เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ยยย มีความฝันแบบไหนในนี้ที่ทุกคนเคยฝันกันบ้างงง ลองมาเช็คดูดีๆ นะว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า...แล้วคิดว่า หลังจากอ่านบทความในส่วนนี้แล้ว พอจะเข้าใจอารมณ์และความคิดของตัวเองมากขึ้นไหมคะ ^^ ฝันบ่งบอกตัวคุณอย่างไร และคุณจะรู้ได้อย่างไร เพราะความฝัน ไม่ใช่แค่สิ่งที่คุณตื่นมาแล้วก็ลืม ตอนนี้ทุกคนคงเข้าใจมันอย่างถ่องแท้มากขึ้นแล้วใช่ไหมคะว่าการที่คุณฝันแบบนั้นมันมีอะไรเชื่อมโยงกับตัวคุณ หรือคุณกำลังมีความคิดความรู้สึกอย่างไรอยู่ในช่วงนี้ที่คุณอาจไม่รู้ตัว โลลิหวังว่ามันจะทำให้คุณเข้าใจตัวเองมากขึ้น จริงๆ มันมีแนวคิดจากคนๆ หนึ่งที่โลลิยังไม่ได้กล่าวถึงแต่เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก เพราะแนวคิดของเขาไม่ได้ทำให้เราแค่เข้าใจสภาวะของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเข้าใจถึงตัวตนลึกๆ ของเราด้วย คนๆ นั้นคือ Carl Gustav Jung ผู้มีแนวคิดเกี่ยวกับความฝันคือ archetype (ต้นฉบับ) และ collective unconscious (จิตใต้สำนึกที่ถูกสั่งสมมาจากบรรพบุรุษ) โดยสำหรับ Jung แล้ว ความฝันไม่ใช่แค่ความคิด หรือประสบการณ์จากการดำเนินชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังมีพฤติกรรมที่สั่งสมมาจากบรรพบุรุษด้วย เช่น ลักษณะความเป็นชายในเพศหญิง ลักษณะความเป็นหญิงในเพศชาย หรือแม้แต่สัญชาตญาณดิบเถื่อนแบบสัตว์ที่ซ่อนไว้ ลองสังเกตุดูตัวเองสิคะ ว่าตัวเองมีความเป็นเพศตรงข้ามอยู่ในตัว หรือเคยแอบมีความคิดด้านลบที่ขัดศีลธรรมโผล่มาในหัวบ้างรึเปล่า โลลิว่าจริงๆ แล้วทุกคนก็คงรู้สึกอยู่ตลอดเพียงแต่ไม่มั่นใจ ไม่ได้สนใจ หรือไม่ยอมรับใช่ไหมล่ะ แล้วนักจิตวิทยา หรือนักจิตบำบัดสามารถไขปริศนาเกี่ยวกับความฝันที่เชื่อมโยงกับตัวเราได้หรือไม่? ปัจจุบัน แม้มีทฤษฎีและแนวคิดด้านจิตวิทยามากมายมารองรับ แต่ใช่ว่าผู้เชี่ยวชาญอย่างพวกเขาจะสามารถตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับความฝันได้อย่างแน่นอนเหมือนบวกลบเลขที่มีคำตอบตายตัวอยู่แล้ว เพราะคุณและนักจิตวิทยาต่างมีเรื่องราวในชีวิตที่แตกต่างกัน พวกเขาก็เป็นเหมือนแสงสว่างที่จะช่วยชี้นำให้ตอบข้อสงสัยได้ แต่สุดท้ายกุญแจสำคัญที่จะแก้ไขปริศนาให้คุณก็คือ ‘ตัวคุณเอง’ เพราะคุณเป็นผู้มีคลังข้อมูลของตัวคุณเองมากที่สุด โดยนักจิตวิทยาหรือจิตบำบัดจะทำหน้าที่โดยการชวนคุยเพื่อให้เราเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวเองในเรื่องที่เราอยากเล่า แล้วเขาจะช่วยนำทางเราให้เราค่อยๆ เชื่อมโยงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงเข้ากับความหมายของความฝันให้มาเจอกันและเกิดเป็นบทสรุปได้ ทีนี้คุณก็จะเข้าใจตัวเองในที่สุด ยิ่งถ้าหากคุณฝันร้ายบ่อย หรือเอาแต่ฝันร้ายต่อกันซ้ำๆ จึงจำเป็นอย่างมากที่คุณจะต้องให้คำตอบกับมันเพื่อแก้ไขเหตุการณ์ในชีวิตจริง เนื่องจากจิตใต้สำนึกมันกำลังให้สัญาณเตือนกับคุณอยู่ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ทุกคนได้รู้จักและเข้าใจเกี่ยวกับ The Secret Of Dreams มากขึ้นรึเปล่า ความฝันนี่มันช่างน่าพิศวง น่าค้นหาสุดๆ ไปเลยเนอะ >< หลังจากอ่านบทความนี้ทุกคนก็ลองไปนั่งวิเคราะห์ความฝันตัวเองกันเล่นๆ ก็ได้นะ อิอิ แต่อย่าหมกมุ่นกับความฝันจนลืมโลกแห่งความจริงไปนะคะ สำหรับวันนี้โลลิต้องขอตัวลาทุกคนไปก่อน ถ้าชอบบทความของโลลิก็ฝากกดแชร์ด้วยนะคะ // กราบงามๆ ภาพวาดโดยนักเขียน ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก http://realmetro.com/dreams-in-psychology/ By. Loli