เมื่อหลายอาทิตย์ก่อนทุกคนก็คงจะทราบกันดีว่ามีการแพร่ระบาดของโควิด-19เป็นรอบที่3ของประเทศไทยเราซึ่งนั้นก็ทำให้ร้านค้าหรือแม้แต่ห้างสรรพสินค้าต่างๆเงียบเหงากันลงเป็นอย่างมาก....แม้แต่ร้านอาหารตามข้างทางก็เงียบเหงาไปตามๆกัน นั้นก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เศรษฐกิจทั่วทั้งหดตัวและก็แย่ไปตามๆกันรวมถึงประเทศไทยของเราก็เช่นกันซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ก็มีผลกระทบเป็นอย่างมากกับตลาดทุน(ตลาดหุ้น)ซึ่งก็ทำให้หุ้นในหลายบริษัทล่วงลงตามๆกันเป็นแถวและก็เป็นเหตุให้ดัสนีล่วงลงอย่างหนักตามที่เคยๆเป็นมาซึ่งสาเหตุหลักๆก็น่าจะเป็นเพราะว่าบริษัทเกิดขาดทุนเพราะขายสินค้าหรือเปิดให้บริการไม่ได้หรือแม้แต่เกิดความกลัวจากนักลงทุนที่เก็งกำไรเทขายหุ้นของบริษัทนั้นๆออกมาก็เป็นได้.... ซึ่งเมื่อเริ่มมีแรงเทขายหุ้นออกมาเมื่อนักลงทุนรายย่อยเริ่มเห็นท่าไม่ค่อยดีก็เริ่มมีการเทขายหุ้นออกมาตามๆกันซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนรายย่อยต่างพากันขาดทุนกันเป็นแถวซึ่งนั้นมันก็ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไรนะครับ.......หรือแม้แต่บางครั้งที่มีแรงซื้อก็เช่นกัน เหล่าบรรดานักลงทุนรายย่อยก็แห่ตามๆกันซื้อ โดยมีความหวังว่าหุ้นตัวนั้นจะขึ้นหรือว่าไปต่อได้ แต่เมื่อหุ้นตัวนั้นไม่ได้ขึ้นอย่างที่หวังกันไว้ก็พากันเทขายอีก สุดท้ายก็พากันซื้อๆขายๆตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันศุกร์ หรือแม้แต่ซื้อเช้าขายเที่ยงซื้อบ่ายขายเย็นอะไรประมาณนี้ ซึ่งสุดท้ายก็ไม่ได้อะไรเลยยิ่งช่วงเวลาที่วิกฤตอย่างนี้ยิ่งแย่ตามๆกัน เพราะหุ้นไม่มีใครที่สามารถรู้ได้เลยว่าจะขึ้นหรือลงวันไหนและเวลาไหน ผมจึงอยากบอกว่า อยากให้นักลงทุนทุกท่านใจเย็นๆ วิเคราะห์ทบทวนดูพื้นฐานให้ดีๆ และรอบครอบกันก่อนแล้วค่อยพากันตัดสินใจ เพราะถ้าตัดใจสินใจผิดพลาดไป คนที่เจ็บก็คือตัคของเราเองเพราะสิ่งที่เสียไปนั้นคือเงินของเรา.....เรานักลงทุนต้องใจพากันใจเย็นๆเพราะเราคือนักลงทุนไม่ใช่นักพนันอย่าพากันเอาการลงทุนเป็นการพนันเลยเพราะเราลงทุนในธุรกิจดังนั้นเราต้องค่อยเป็นค่อยไปกันนะครับทุกคน........ “จงสร้างธุรกิจยักษ์ให้ด้วยมือของคุณของนั้นคือการสร้างพอต์การลงทุนของเราให้ใหญ่พอจนสามารถเลี้ยงเราและครอบครับของเราได้อย่างไม่ต้องทำงานให้เหนื่อย”ขอบคุณรูปภาพจาก คุณชายต้น (ผู้เขียน)