สวัสดีคุณผู้อ่านครับ ผมเชื่อว่าหลายคนคงพอจะเคยได้ยินหรือพอทราบเกี่ยวกับเรื่องการถ่ายทำภาพยนตร์ว่ามันมี 3 ขั้นตอน คือ Pre-Production Production และ Post-Production ใช่ครับ....นั่นคือขั้นตอนหลักๆ และสำหรับภาพยนตร์อินดี้เล็กๆมันก็คงจะมีแค่นั้นแหละครับ แต่สำหรับสตูดิโอใหญ่ การทำงานมันมีขั้นตอนแยกย่อยไปมากกว่านั้นมาก บทความนี้ผมจะมาบอกกล่าวเกี่ยวกับขั้นตอนคร่าวๆของสตูดิโอใหญ่ที่กว่าจะออกมาเป็นภาพยนตร์หนึ่งเรื่องให้เราได้ชมกันในโรงภาพยนตร์ครับภาพ: Brooks Leibee1. พัฒนาโปรเจค สิ่งแรกที่เราจะต้องมีก่อนเลยก็คือ 'บทภาพยนตร์' โดยการพัฒนาสคริปต์ ไม่ว่าจะจากสคริปต์ที่มีอยู่ หรืออาจจะนำมาจากโครงเรื่องของหนังสือ หรือจากโครงร่างเรื่องราวสั้นๆ ซึ่งขั้นตอนการพัฒนาบทตรงนี้อาจจะเริ่มต้นจากการที่ผู้กำกับ หรือ คนเขียนบทนำไอเดียไปเสนอกับทางโปรดิวเซอร์2. Pre-Production หลังจากที่ได้สคริปต์มาแล้ว ขั้นตอนนี้จะเป็นการกำหนดขอบเขตการผลิตต่างๆวางแผนทั้งหมดก่อนที่จะเริ่มถ่ายทำ รวมถึงการหาสถานที่ถ่ายทำและการคัดเลือกนักแสดงด้วย และโปรดิวเซอร์จะจ้าง Line Manager หรือ Production Manager (ผู้จัดการฝ่ายผลิต) เพื่อกำหนดตารางเวลาและงบประมาณสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์ภาพ: Jakob Owens3. Production ขั้นตอนนี้จะมีค่าใช้จ่ายสูงที่สุด ทั้งค่าตัวนักแสดง ผู้กำกับและทีมงานถ่ายทำ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการทำฉาก อุปกรณ์ประกอบฉากและเอฟเฟ็กต์พิเศษ เมื่อจัดเตรียมทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็จะเข้าสู่การเดินกล้องถ่ายทำ การสื่อสารกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสำคัญมาก มันจะทำให้การถ่ายทำเป็นไปอย่างสะดวก และสิ่งสำคัญคือต้องพยายามรักษาเวลาและงบประมาณให้ตรงตามที่กำหนดเอาไว้4. Wrap ขั้นตอนนี้เกิดขึ้นแทบจะทันทีหลังจากการถ่ายทำจบลง เป็นขั้นตอนที่จะรื้อและเก็บคืนทุกๆอย่าง เคลียร์ฉาก เคลียร์สถานที่ ทุกอย่างจะต้องถูกส่งคืนเป็นอย่างดีให้แก่ซัพพลายเออร์ และจะต้องมีบันทึกการถ่ายทำทั้งหมดด้วยภาพ: Jakob Owens5. Post-Production นี่คือขั้นตอนหลังจากการถ่ายทำเสร็จเรียบร้อย (ขั้นตอนอาจทับซ้อนกันได้ เช่น อาจมีการถ่ายซ่อม) ในขั้นตอนนี้จะประกอบด้วยการเช็คฟุตเทจ การตัดต่อ การทำ VFX/SFX การเกรดสี ดนตรี เสียงประกอบและอื่นๆ ซึ่งผู้กำกับและคนตัดต่อจะทำงานร่วมกันจนภาพยนตร์เสร็จ (บางกรณีโปรดิวเซอร์ก็จะมาคุมเอง)6. การเผยแพร่ เมื่อภาพยนตร์เสร็จสมบูรณ์แล้วจะต้องมีการจัดจำหน่ายเผยแพร่ โปรดิวเซอร์จะต้องหาทางทำรายได้ อาจจะมีการทำข้อตกลงการจัดจำหน่ายเพื่อจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ หรือ อาจจะเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Amazon Prime, Netflix และ HBO บ่อยครั้งที่โปรดิวเซอร์และผู้กำกับมักจะทะเลาะกัน ด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น ผู้กำกับต้องการเพิ่มงบถ่ายทำแต่โปรดิวเซอร์ไม่ให้ หรือ โปรดิวเซอร์เข้ามาควบคุมหนังมากไปจนหนังไม่ตรงใจผู้กำกับ ในกรณีแบบนี้ก็อาจจะทะเลาะกันได้ (โดยเฉพาะผู้กำกับที่อีโก้สูง) บางสตูดิโอหากผู้กำกับมีบุญบารเยอะฝ่ายโปรดิวเซอร์จะมีความเกรงใจเป็นพิเศษ และอาจจะยอมมอบสิ่งที่ผู้กำกับต้องการแม้จะเสียงบเพิ่มก็ตาม แต่โดยทั่วไปแล้วโปรดิวเซอร์จะใหญ่กว่าผู้กำกับ เพราะเป็นคนคุมงบประมาณ จึงมีกรณีที่ผู้กำกับลาออกมาแล้วเนื่องจากไม่พอใจโปรดิวเซอร์ สตูดิโอใหญ่ๆก็มักมีกรณีผู้กำกับลาออกจากโปรเจคเหมือนกัน เช่น กรณีของผู้กำกับ Edgar Wright เคยทำโปรเจค Ant-Man แต่เขาลาออกก่อนที่จะเริ่มเดินกล้องด้วยซ้ำ เขาไม่พอใจที่ Marvel พยายามควบคุมโปรเจคเขา โดยได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า "ผมอยากจะทำหนัง Marvel แต่ดูเหมือนพวกเขาไม่อยากจะทำหนัง Edgar Wright" ซึ่งก็ตีความได้ว่าทางสตูดิโอไม่ชอบแนวทางหนังของเขานั่นเอง...อ้างอิง: Wikipedia, Digital Spyภาพ: unsplash