โศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน จากเหตุระเบิดที่ท่าเรือเมื่อเย็นวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างร้ายแรง จนถึงขณะนี้ข่าวสารจากสำนักต่าง ๆ รายงานออกมาว่ามีผู้เสียชีวิต 78 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 4,000 ราย สาเหตุของการระเบิดครั้งนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้กรุงเบรุตเป็นที่รู้จักมากขึ้น เช่นเดียวกับบทความนี้ที่จะพาไปสำรวจดินแดนแห่งนี้ที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานหลายคนคงพอจะรู้ว่า กรุงเบรุต (Beirut) เป็นเมืองหลวงและเมืองท่าที่สำคัญของประเทศเลบานอน แม้จะเป็นเมืองที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่ความจริงแล้วดินแดนบนแผ่นดินตะวันออกกลางแห่งนี้ มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานกว่า 5,000 ปี สันนิษฐานว่าเคยมีผู้คนอาศัยอยู่ตั้งแต่ยุคหิน แต่เริ่มพบหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรในสมัยที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ จารึกเทลล์ เอลอมานาร์ ของอียิปต์โบราณ ทำให้เราได้รู้ว่า เบรุตเคยเป็นศูนย์กลางทางการศึกษาและกฎหมาย มีความรุ่งเรืองถึงขีดสุดในขณะที่ถูกปกครองโดยจักรวรรดิโรมันหลังจากโรมันสิ้นสุดอำนาจ จักรวรรดิออตโตมันได้เข้ามาปกครองดินแดนแห่งนี้เป็นเวลายาวนาน ซึ่งนั่นทำให้กรุงเบรุตกลายเป็นเมืองที่เบ่งบานท่ามกลางสงคราม หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จักรวรรดิออตโตมันพ่ายแพ้ให้กับฝ่ายสัมพันธมิตร พื้นที่ทั้งหมดจึงถูกแบ่งแยกเป็นส่วน ๆ เพื่อไม่ให้กลับมารวมกันได้อีก เดิมทีประเทศเลบานอนในปัจจุบันเคยอยู่รวมกับประเทศซีเรีย แต่ถูกฝรั่งเศสแยกออกมาแล้วตั้งเป็นประเทศใหม่ มีกรุงเบรุตเป็นเมืองหลวง ตลอดการปกครองของฝรั่งเศส เมืองแห่งนี้มีความเจริญเติบโตถึงขีดสุด จนได้ชื่อว่าเป็น 'ปารีสแห่งตะวันออกกลาง' กันเลยทีเดียวหากให้นึกชื่อประเทศในโลกตะวันออกกลางที่มีความรุ่งเรือง หากเป็นสมัยนี้เราคงนึกถึงดูไบ แต่ช่วงที่ฝรั่งเศสปกครองเลบานอน ดูไบแทบจะกลายเป็นเบบี๋หรือเป็นตัวอ่อนที่ยังไม่คลอดออกมาเลยด้วยซ้ำ กรุงเบรุตเป็นศูนย์กลางของตะวันออกกลางโดยแท้จริง ธนาคารอาหรับ การลงทุนประเภทค้าขาย หรือแม้กระทั้งบริษัทก่อสร้างมารวมกันอยู่ที่นี่ทั้งหมด ทำเลที่ตั้งของกรุงเบรุตที่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้เรือเดินสมุทรต้องมาจอดเทียบท่า เพราะเป็นเขตการค้าปลอดภาษีที่ใหญ่ที่สุดในแถบตะวันออกกลางเลยก็ว่าได้เท่านั้นยังไม่พอ ผู้คนที่ไปร่ำเรียนยังมหาวิทยาลัยในกรุงเบรุตยังถือว่าเป็นนักเรียนหัวกะทิ เพราะสถาบันการศึกษาระดับโลกมากมาย ต่างแข่งขันกันขยายวิทยาเขตมายังดินแดนแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยอเมริกันแห่งเบรุตที่มีชื่อเสียงด้านแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซนต์โจเซฟของฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยอะเล็กซานเดรียของอียิปต์ อีกทั้งรัฐบาลเลบานอนก็ยังทุ่มเทงบประมาณสร้างมหาวิทยาลัยของตัวเองอีกด้วย แต่ก็อย่างที่ได้บอกไป ทุกครั้งที่ประเทศแห่งนี้กำลังเติบโตชนิดฉุดไม่อยู่ ก็ต้องมีสงครามมาเป็นกำแพงสำคัญที่ทำให้การเติบโตนั้นหยุดชะงักลงช่วงปี 1974-1976 เกิดสงครามกลางเมืองที่มีสาเหตุมาจากเรื่องศาสนา สงครามระหว่างศาสนาคริสต์และอิสลามบานปลายเป็นวงกว้าง จนประเทศข้างเคียงอย่างปาเลสไตน์และอิสราเอลเข้ามามีส่วนร่วมด้วย กรุงเบรุตแตกออกเป็นสองฝ่ายมาจนถึงปัจจุบัน ความขัดแย้งดังกล่าวกระทบไปทุกมิติ แม้กระทั่งการประกวดนางงามจักรวาล เพียงแค่นางงามจากเลบานอนถ่ายภาพคู่กับนางงามจากอิสราเอล ก็เป็นประเด็นดราม่าใหญ่โตระดับประเทศกันเลยทีเดียวยังมีอีกหลายครั้งที่กรุงเบรุตต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ความไม่สงบ สงครามกลางเมือง การก่อการร้าย และล่าสุดคือเหตุระเบิดที่รุนแรง ด้วยทำเลที่ตั้งในตะวันออกกลางที่ต้องพัวพันกับเรื่องเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา นับว่าเป็นอีกเมืองที่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ มีสถาปัตยกรรมที่งดงามและมีเรื่องราว แต่น่าเสียดายที่สิ่งเหล่านั้นมักถูกบั่นทอนไปด้วยความไม่สงบอยู่บ่อยครั้ง ต้องขอแสดงความเสียใจกับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และร่วมกันเป็นกำลังใจให้ชาวเลบานอน ได้ผ่านพ้นวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปได้โดยเร็วที่สุดบทความอื่นที่น่าสนใจ พาชมความงาม น้ำตกบาตาร่า จอร์จ ( Baatara Gorge ) เลบานอน สวยจนอยากไปเยือนเครดิตรูปภาพ- รูปภาพหน้าปก โดย Piotr Chrobot : UNSPLASH- ภาพประกอบที่ 1 โดย Rashid Khreiss : UNSPLASH- ภาพประกอบที่ 2 โดย Djedj : PIXABAY- ภาพประกอบที่ 3 โดย Djedj : PIXABAY- ภาพประกอบที่ 4 โดย Djedj : PIXABAY- ภาพประกอบที่ 5 โดย Djedj : PIXABAYข้อมูลประกอบบทความ- Labanese Civil War : Brittannica- What We Know About the Explosion in Beirut, Lebanon : The New York Times