SHAKARIKI 432” นาเบะอารมณ์ดี ตำนานโอซาก้ากว่า 18 ปี อิรัชชัยมาเสะ~ เสียงกล่าวต้อนรับสดใสของพนักงานพร้อมรอยยิ้มทักทายที่เรามักได้ยินอยู่เสมอยามเมื่อ เราก้าวเข้าไปในร้านอาหารญี่ปุ่น แน่นอน ว่าวันนี้ผมจะพาเพื่อนๆ ไปพบกับร้านอาหารญี่ปุ่นอารมณ์ดี ที่นอกจากจะมีอาหารคุณภาพดีแล้วยังชวนให้มีรอยยิ้มในทุกช่วงเวลาที่อยู่ในร้านนี้อีกด้วย SHAKARIKI 432 (ชาคาริคิ 432) ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะ อิมพอร์ตจากเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ถ้าถามว่าทำไมถึงชื่อร้านนี้ นั่นก็เพราะคำว่า “ชาคาริคิ” ในภาษาญี่ปุ่นนั้นมีความหมายว่า “ความตั้งใจจริง” ซึ่งทางเจ้าของร้านต้องการสื่อถึงความตั้งใจและใส่ใจในเมนูอาหารแต่ละจานที่เสิร์ฟ ส่วนหมายเลข “432” ในภาษาญี่ปุ่นอ่านว่า “ชิ-มิ-ซึ” ซึ่งก็เป็นนามสกุลของเจ้าของร้าน พอรวมกันแล้วจึงเปรียบเสมือนความตั้งใจของเจ้าของร้านที่ต้องการให้ลูกค้าทุกคนได้ทานอาหารที่ดี และมีคุณภาพนั่นเอง ปัจจุบันร้าน Shakariki 432 มีสาขาทั่วกรุงเทพฯ มากกว่า 20 สาขา สำหรับสาขาที่ผมพาไปในวันนี้ตั้งอยู่ที่ตึก True Digital Park ซึ่งทางร้านแอบบอกมาว่าเป็นสาขาล่าสุด ก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 เดือน 1 เมื่อต้นปีนี้เอง (พ.ศ.2562) ด้วยความที่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะ หรือก็คือร้านอาหารที่เหมาะกับการนั่งชิล หรือพบปะสังสรรค์กันนั่นเอง จึงทำให้ที่ร้านมักเต็มไปด้วยบรรยากาศครื้นเครงในยามเย็น อีกทั้งบรรยากาศภายในร้านถ้าเรามองไปรอบๆ ก็จะพบกับเจ้า “โมอายหลับตา” แอบทำหน้าตามีพิรุธอยู่ในทุกๆ ที่ทั้งหน้าร้าน บนโต๊ะ หรือแม้กระทั่งบนจานอาหารของเรา ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของร้านก็หนีรอดพ้นสายตาของเจ้าโมอายนี่ไม่ได้เลยสินะ อารมณ์ขันของเจ้าของร้านยังไม่ได้มีแค่เจ้าโมอายหลับตามาสคอตของร้านเท่านั้น แต่ถ้าเรามองไปรอบๆ ก็จะพบโปสเตอร์ล้อเลียนหนัง อนิเมชั่น เต็มไปหมด เรียกได้ว่าถ้าคุยกับเพื่อนแล้วยังอารมณ์ไม่ดี ลองหันมองรอบๆ ดูสิ รับรองอารมณ์ดีขึ้นแน่นอน :) ที่ร้านไม่ได้มีจุดเด่นแค่เพียงคอนเส็ปต์ของร้านเท่านั้น แต่เมนูของที่นี่ก็ถือว่าโดดเด่นไม่แพ้กัน สำหรับใครที่กำลังนึกว่า ร้านนี้จะมีอะไรให้เราได้ทานบ้าง ไม่ต้องนึกเลยครับ ที่ Shakariki 432 นั้น มีเมนูอาหารญี่ปุ่นครอบจักรวาลมากๆ ตั้งแต่ซาชิมิ หม้อไฟนาเบะ แกงกะหรี่ สาเก ฯลฯ เรียกได้ว่าที่นี่แทบจะยกเกาะญี่ปุ่นมาไว้ตรงหน้าโต๊ะของเราเลยทีเดียว และสำหรับเมนูที่ทางร้านแนะนำ แบบต้องมาถึงแล้วต้องทานให้ได้ ไม่งั้นกลับไปแล้ว “จะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง!” ก็คือ นาเบะหม้อไฟ นั่นเอง และนาเบะที่ผมเลือกมาในวันนี้ก็คือ นาเบะหมูซุปน้ำใส (Miild Clear Soup) (320 บาท) หม้อไฟร้อนๆ กับน้ำซุปใสรสชาติหวานนุ่ม หอมกลิ่นซุปชาบูอ่อนๆ แทรกเข้ากับเนื้อผัก เสิร์ฟมาพร้อมหมูสามชั้นนุ่มๆ สไลด์มาแบบบาง แทบละลายในปากเลยทีเดียว และเมื่อของคาวเสร็จแล้วก็มาต่อกันที่ของหวานอย่าง Sparkling Jelly Ikezo Yuzu (100 บาท) เครื่องดื่มเยลลี่ซ่ารสส้มยูซุ เติมความสดชื่นด้วยสาเกและเยลลี่นุ่มๆ แกล้มกับเมนูคาวได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าไม่เพียงแต่มีเมนูอาหารรสชาติดีให้ได้เลือกทานกันแต่ยังเคล้าไปด้วยบรรยากาศสนุกๆ อารมณ์ขัน และความครื้นเครงของร้านที่เจ้าของร้านตั้งใจมอบให้ สุดสัปดาห์นี้หากใครอยากไปปลดปล่อยตัวเองหรืออยากรับประทานอาหารญี่ปุ่นดีๆ พร้อมกับก๊วนเพื่อน อย่าลืมลองแวะไปที่ร้าน Shakariki 432 กันได้นะครับ