วันนี้เราจะพาเข้าไปมหาวิหารโคโลญจน์ ( Köln Dom / Cologne Cathedral ) ทั้งด้านนอก, ด้านใน และด้านบนหอระฆัง ความยิ่งใหญ่ของมหาวิหารแห่งนี้มาจากหลายสิ่งด้วยกัน ซึ่งแต่ละสิ่ง คือ ความเป็นที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสิ่งปลูกสร้างในแบบโกธิคที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศเยอรมนี, เป็นวิหารแบบโกธิคที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตอนบนของทวีปยุโรป มีขนาดความยาว 144.5 เมตร กว้าง 86.25 เมตร และสูง 157.22 เมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศเยอรมนี, เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองโคโลญจน์ การก่อสร้างมหาวิหารโคโลญจน์ เริ่มวางโครงสร้างในปี ค.ศ. 1248 ก่อนที่จะได้ลงมือก่อสร้างจริงในปี ค.ศ. 1520 ซึ่งการสร้างมหาวิหารแห่งนี้ใช้เวลาดำเนินการถึง 632 ปี ก่อนที่จะเสร็จสมบูรณ์ใน ค.ศ. 1880 มีพื้นที่รวม 8,000 ตารางเมตร ซึ่งพื้นที่ด้านในของวิหารจัดว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของโลก และสามารถจุผู้คนได้ถึงสองหมื่นคน ที่สำคัญ คือ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ ในปี ค.ศ. 1996 มหาวิหารโคโลญจน์ เป็นวิหารของคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิค มีหอระฆังทรงสูงสองด้าน คือเหนือและใต้ ภายในตกแต่งด้วยศิลปะแบบโกธิค มีของมีค่าทางศิลปะและวัฒนธรรมหลายชิ้น ที่ประเมินราคาไม่ได้ เช่นไม้กางแขนซึ่งมีอายุมากกว่าสองพันปี สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 10 แกะสลักจากไม้โอ๊ค สูง 6 ฟุต 2 นิ้ว แท่นทำพิธีที่มีอายุหลายร้อยปี, รูปปั้นนักบุญที่ประดับอยู่บนเสาสร้างขึ้นใน ค.ศ. 1300 หน้าต่างที่ประดับด้วยกระจกสี ซึ่งมีพื้นที่มากที่สุด และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 14 และมหาวิหารยังเป็นที่ฝังพระศพของสังฆราช 12 องค์ งานศิลป์ที่แท่นบูชามีชื่อว่า Altar of the Magi มีมาตั้งแต่ใน ค.ศ. 1445 เป็นผลงานของ Stephan Lochner เพื่ออุทิศให้แด่กษัตริย์ สามพระองค์ซึ่งเป็นผู้อุปถัมภ์เมืองโคโลญจน์ ประตูทางเข้ามีงานปูนปั้น งานศิลปะ ของศตวรรษที่ 19 ระฆังของโบสถ์มีทั้งหมด 11 อัน โดยมี 4 อันที่เป็นของเก่าตั้งแต่ยุคกลาง สร้างในปี ค.ศ. 1418 ส่วนอันที่หนักที่สุดมีน้ำหนักถึง 10.5 ตัน ติดตั้งอยู่บนหอระฆังทั้งสองด้าน สามารถขึ้นไปชมได้บนหอระฆัง ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง มหาวิหารโคโลญจน์ได้รับความเสียหายจากการทิ้งระเบิดถึง 14 ครั้ง เพราะเป็นสถานที่ที่เห็นได้ง่ายจากทางเครื่องบินทิ้งระเบิด และได้รับการบูรณะจนแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1956 แต่ยังถือว่าโชคดีที่สิ่งของมีค่าที่อยู่ภายในมหาวิหารไม่ได้ถูกทำลายจากภัยสงคราม ภายในมหาวิหารเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม วันจันทร์ถึงวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 6.00 – 19.30 น. วันอาทิตย์ และวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 13.00-19.30 น. โดยไม่มีเสียค่าเข้าชม หากอยากจะเข้าชมแบบคนน้อย ๆ ให้ไปแต่เช้าค่ะ เพราะสาย ๆ จะมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก การเดินทางมาที่มหาวิหารโคโลญจน์ ง่ายมากค่ะเพราะอยู่ติดกับสถานีรถไฟกลางของเมืองโคโลญจน์เลย เห็นได้อย่างชัดเจนก่อนเข้าเมืองโคโลญจน์อีก เดินออกจากสถานีรถไฟก็ไปที่จัตุรัสหน้าวิหาร แต่หากเราอยากชมวิวแบบมุมกว้างก็ให้เดินข้ามสะพานไปอีกฝั่งของแม่น้ำแล้วมองกลับมา จะได้วิวของมหาวิหาร พร้อมสะพานเรียกว่าอลังการมากค่ะ หากต้องการขึ้นไปบนหอระฆังก็สามารถทำได้ โดยเราต้องเดินขึ้นบันไดทั้งหมด 533 ขั้น ค่าเข้าชม 4 ยูโร บนหอระฆังเรายังสามารถชมวิวเมืองโคโลญจน์จากมุมสูงได้ด้วย โดยเปิดให้ชมตั้งแต่เวลา 9.00 น. ถึงเวลาประมาณ 16.00-18.00 น. ( ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เข้าชม หากเป็นฤดูหนาวจะปิดเร็วกว่าค่ะ ) ความสวยงามและความยิ่งใหญ่อลังการของมหาวิหารโคโลญจน์นั้น เราไม่สามารถบรรยายได้หมดค่ะ ต้องไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง เราชอบเวลาที่แสงแดดส่องผ่านกระจกสีแล้วสะท้อนไปบนเสาหรือบนรูปปั้น เราเองไปเยือนมหาวิหารโคโลญจน์สามครั้งแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่ายังเห็นไม่ครบทุกอย่าง หากมีโอกาสเราจะกลับไปอีกแน่นอนค่ะ ภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน #เที่ยวต่างประเทศ #เที่ยวยุโรป