หลายคนคงเห็นกันแล้วว่าวิกฤตโควิด-19 นี้มันรุนแรงมากขนาดไหน บางคนบอกอาการก็คล้ายกับการเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา ๆ บางคนก็บอกไม่ได้รุนแรงมากไม่ต้องตื่นตระหนก แต่ท้ายที่สุดแล้วผลกระทบมันรุนแรงเกิดความคาดหมายของหลายคนไปอย่างมาก หลายธุรกิจต้องรีบปรับตัวกันแบบวินาทีต่อวินาที หลายธุรกิจต้องยอมที่จะเลิกจ้างพนักงานหลายชีวิตเพื่อยื้อธุรกิจไว้ให้นานที่สุด บางที่ก็อาจจะลดเงินเดือนพนักงานลงเพื่อให้ทุกคนอยู่รอดในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจแบบนี้ แต่ก็ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบเพราะยังรวมไปถึงทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจากพิษภัยของโรคระบาดจนทำให้สร้างบาดแผลขนาดใหญ่ของเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้น นั่นจึงเป็นที่มาของคนทำธุรกิจในยุคนี้ที่นอกจากพิษเศรษฐกิจต้มยำกุ้งแล้วก็มาเจอพิษเศรษฐกิจโรคไวรัสโควิด-19 นี่แหละ ที่ทำให้หลายธุรกิจต้องปรับตัว บางที่แย่ถึงขนาดต้องปิดตัวกิจการลงไป บางที่ก็แค่ต้องปรับตัวอย่างเช่น "ไปรษณีย์ไทย" ที่ดูเหมือนจะได้รับผลกระทบแต่ก็ไม่เชิงว่าจะกระทบหมดซะทีเดียว อีกทั้งในช่วงหลังที่มีการปิดชั่วคราวของหลายสถานที่ตามคำสั่งรัฐ ก็ยิ่งทำให้คนส่วนมากต้องอยู่แต่ภายในบ้านจึงมียอดสั่งซื้อของออนไลน์สูงเพิ่มมากขึ้น ยิ่งทำให้ไปรษณีย์ไทยยิ้มออกได้ในช่วงนี้นั่นเอง ในตอนนี้ที่มาตรการรักษาความสะอาดมีเพิ่มสูงขึ้นเท่าตัว ทำให้ไปรษณีย์ต้องมีจุดบริการให้กับลูกค้าทุกคนที่มาใช้บริการยังสถานที่แห่งนี้เพื่อความสะอาดและปลอดภัยให้มากที่สุด อีกทั้งเป็นการป้องกันไม่ให้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย เราจึงเห็นว่าในแต่ละจุดจะมีมุมของเจลล้างมือตั้งไว้ให้บริการลูกค้าอยู่หลายจุดบริการ เพื่อให้ลูกค้าได้ทำความสะอาดทุกคนหลังจากสัมผัสสิ่งของต่าง ๆ นั่นเอง ในส่วนของการต่อคิวความเป็นระเบียบก็ต้องมีเพิ่มขึ้นเหมือนที่รณรงค์ Social Distance เพื่อเว้นระยะห่างของผู้คนที่มาใช้บริการเพื่อไม่ให้ใกล้ชิดกันมากจนเกินไป เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้ออีก ทำให้เราได้เห็นสิ่งแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นของบ้านเรา และนั่นก็อาจจะเป็นสัญญาณเตือนที่ดีที่จะทำให้เราทุกคนรู้จักรักตัวเองกันมากขึ้น ใส่ใจเรื่องรายละเอียดของสุขอนามัยมากขึ้นอีกนั่นเอง นอกจากในส่วนของจุดบริการรับฝากของตรงเคาเตอร์แล้ว จุดบริการที่นั่งรอก็ต้องเว้นที่นั่งไว้เหมือนกัน โดยห้ามนั่งใกล้กัน ซึ่งจะมีป้ายแปะเอาไว้ว่างดให้บริการ ซึ่งตอนที่เราได้เข้าไปสำรวจก็เห็นถึงความร่วมมือกันของทุกคนเป็นอย่างดี โดยไม่มีใครนั่งตรงจุดที่แปะป้ายเอาไว้ มีเพียงแต่นำของไปวางก็เท่านั้น ซึ่งก็เป็นอีกภาพที่เราทุกคนรู้สึกว่าคนไทยทุกคนมีจิตสำนึกที่ดี ที่จะร่วมด้วยช่วยกันเพื่อให้เชื้อนี้หมดไปจากประเทศไทยของเรา ซึ่งนี่ก็เป็นเพราะนิสัยของคนไทยที่น่ารักและมีจิตสำนึกที่ดีนั่นเอง จะเห็นได้ว่าถึงแม้จะมีโรคไวรัสระบาดเกิดขึ้นก็ยังมีผู้คนที่ต้องการมาใช้บริการยังไปรษณีย์ไทยกันอยู่ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่การขายสินค้าออนไลน์สามารถกอบโกยรายได้ได้มาก ก็ทำให้พ่อค้าแม่ค้าต่างก็ต้องมาใช้บริการยังขนส่งไปรษณีย์ไทย เพื่อส่งสินค้าไปให้กับลูกค้าปลายทางได้ในราคาที่ถูกและรวดเร็ว ป้ายแปะเอาไว้เพื่อไม่ให้ลูกค้าที่มาใช้บริการยังไปรษณีย์ไทยได้นั่งใกล้กันนั่นเอง เพื่อเป็นการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 นั่นเอง ทั้งนี้ถึงแม้เราจะได้เห็นรูปแบบการให้บริการของไปรษณีย์ไทยที่เปลี่ยนไปตามวิกฤตที่เกิดขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามการให้บริการของไปรษณีย์ไทยก็ยังมีอัตราการเติบโตที่สูงมากกว่าธุรกิจอื่น ๆ ในช่วงวิกฤตไวรัส Covid-19 เพราะด้วยการส่งสินค้าที่มาจากธุรกิจค้าขายออนไลน์มีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่มีการประกาศเคอร์ฟิว ทำให้ร้านค้าหลายร้านต้องอยู่ในสภาวะขาดทุน บางรายถึงขนาดต้องปิดกิจการ โดยเฉพาะร้านในห้างสรรพสินค้าที่ได้รับผลกระทบมากเช่นกันเพราะถูกสั่งให้มีการปิดห้างสรรพสินค้าชั่วคราว ทำให้หลายร้านที่อาศัยอยู่ในนั้นต้องออกมาเปลี่ยนรูปแบบการขายโดยใช้สื่อออนไลน์โดยส่วนมาก ทำให้ต้องมาใช้บริการการขนส่งเพื่อให้มีรายได้ในช่วงนี้ ซึ่งผู้คนส่วนมากในช่วงนี้ต้องอาศัยอยู่แต่ภายในบ้านทำให้การซื้อสินค้าที่จำเป็นนั้นยากขึ้น จึงต้องสั่งซื้อออนไลน์แทน และเพื่อป้องกันการติดเชื้อบางรายจึงอาศัยช่องทางออนไลน์ในการซื้อสินค้าเข้าบ้านมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการพบเจอผู้คนส่วนมากนั่นเอง ทั้งนี้ถึงแม้ไปรษณีย์ไทยยังสามารถไปต่อได้ในช่วงวิกฤตนี้แต่เราก็ยังจะต้องจับตาดูสถานการณ์กันต่อไปว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นอีกหลังจากนี้ และเราทุกคนก็ต้องเตรียมรับมือกับทุกอย่างที่จะเข้ามาอย่างเช่นวิกฤตนี้ด้วยนั่นเอง เขียนบทความและถ่ายภาพโดยผู้เขียนเอง