ฝนตกก็ไม่เป็นไร ของมันต้องมา อย่ายอม! นั่งเหม่อในรถไฟ ภาพตึกราบ้านช่องรอบกายค่อยๆ จางหายไป เผยบรรยากาศสีเขียวให้ได้เห็น สูดหายใจให้เต็มปอด และพบกับไร่ชาสุดลูกหูลูกตา เมาคง (Mao Kong) ที่ที่จะทำให้คุณลืมความวุ่นวายในเมืองใหญ่และปล่อยใจให้ธรรมชาติบำบัด ฮัลโหล! จบการบรรยายแบบหนังสือชวนเที่ยวกันสักที เขาว่ากันว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น และนั้นคือเรื่องจริงมากค่ะคุณ มาค่ะ เราจะพาไปเที่ยวลุยฝน นั่งจิกเท้าในกระเช้าลอยฟ้าใสทั้งตู้ Mao Kong นั่งกระเช้าขึ้นเขา ใครไม่ตกแต่ฝนตก การเดินทาง นั่งรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำตาลไปลงสถานีสุดท้าย Taipei Zoo แล้วเดินต่อไปอีกหน่อย ออกทางออก 2 Maokong Gondala มีป้ายบอกตลอดไม่ต้องห่วง เราต้องมา Maokong Gondala เพื่อมาขึ้นกระเช้าไปสถานี Mao Kong กระเช้าจะจอด 4 สถานี สถานีที่ 1 Taipei Zoo สถานีที่ 2 Taipei Zoo South สถานีที่ 3 Zhinan Temple สถานีสุดท้าย Maokong (ปลายทางของเรา) ยืนต่อแถวเพื่อซื้อตั๋วนั่งกระเช้า ค่าบริการ ราคาตั๋วนั่งกระเช้าขึ้นไปเมาคงเที่ยวเดียว ไป-กลับ อยู่ที่ TWD260 แต่เราถือบัตร *Klook Fun Pass เขามีเลนเฉพาะให้ เร็วกว่าไปยืนต่อแถวหน้าตู้ ยื่นให้เจ้าหน้าที่ก็จะได้ตั๋วมา มีกระเช้าสองแบบให้เลือก พื้นปกติและพื้นใส * บัตรครอบคลุมการเดินทางสาธารณะทั้งรถไฟและรสบัส เข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งในไทเป ติดต่อได้ที่เว็บไซต์หรือเคาท์เตอร์ Klook (ไม่ได้รับเงินสปอนเซอร์ใดๆ ดีเลยอยากบอกต่อ) ไอ้เรามันก็เด็กนอกเขตเทศบาล มัวแต่ตื่นเต้นพอกระเช้าจอดก็ลงเลย มองรอบตัว เอ้ะ ไม่เห็นจะมีไร่ชาเลยเดินไปถามเจ้าหน้าที่ เขาบอกว่าลงผิดสถานีนะ เอ้าาาาา ทำไงทีนี่เหมือนตั๋วจะเป็นขาเดียวซะด้วย แต่ด้วยบุญอันน้อยนิดที่เคยทำมาได้สงสารพวกเรา เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวแก้ให้ พวกคุณไปยืนรอกระเช้าตรงที่พวกคุณลงได้เลย ดีใจสุดๆ และใช่ค่ะหลังจากนั้นพวกเราไม่ลงสถานีไหนอีกเลย ถึงที่ก็เกือบไม่ลงกลัวพลาด ฮ่าาา ฝนตกตลอดทางแต่ไม่ได้แรงมากนัก พอให้พวกเราเสียวสันหลังกันเล่นๆ ลมพัดเข้ามาที โอ่ยยยย ใจอิแม่บ่ดี กระเช้าก็แอบแกว่งนิดๆ ไปกับแรงลม อากาศตอนนั้นประมาณ 15 องศา ยิ่งสูงยิ่งหนาว ชุดกันฝนเป็นสิ่งที่เราไม่ถอดเพราะช่วยกันลม เพิ่มความอุ่นได้บ้าง ดีกว่าไม่มี และแล้วเราก็มาถึงสถานี Mao Kong กัน ถ้าคุณไปอ่านรีวิวที่นี่จากกระทู้อื่นมาก็คงจะพอรู้ว่ามีไร่ชาสุดลูกหูลูกตา สินค้าท้องถิ่นขายตามสองข้างทาง ร้านชาให้นั่งจิบชา ใช่ค่ะ ทั้งหมดนั้นเราไม่เจอ เพราะฝนตก เขาปิด! ฮ่าาา หัวเราะทั้งน้ำตาสุด ตอนมาทำไมไม่เช็คอากาศ!!! เราก็เดินสำรวจในย่านร้านค้าและถ่ายรูปแชะสองแชะที่เสาไฟเพื่อเตือนตัวเองว่าครั้งนึงได้มาแต่สิ่งที่เราสัมผัสได้คืออากาศบริสุทธิ์มาก เห็นวิวรอบๆ ผู้คนไม่พลุกพล่าน มองไปทางไหนก็เขียวไปหมดเพราะตอนนี้อยู่บนยอดเขา ถ้ามาช่วงที่ฝนไม่ตกคงจะได้เห็นอีกอารมณ์นึง ซึ่งมาตอนฝนตกก็ไม่แย่เสมอไป มองไปรอบๆ ไปสะดุดตาเห็นร้านนึง อยู่ไม่ห่างจากสถานีรถไฟเมาคงเท่าไหร่ คิดว่าน่าจะร้านดังพอตัวเพราะตึกค่อนข้างใหญ่และได้ตำแหน่งวิวดี เข้าไปหลบฝนซดชาสักหน่อยละกัน บรรยากาศข้างในตกแต่งได้ประทับใจ สไตล์ศิลปะไต้หวัน เราก็สั่งเครื่องดื่มแก้คอแห้งซะหน่อยและพลาดไม่ได้คือชาเอกลักษณ์ของที่นี่ ทานคู่กับชีสเค้ก ราคาแอบแรงตามประสาสถานที่ท่องเที่ยวแหล่ะแต่ขอหลบหนาวแปปนึงก่อนลงจากเขา ชาของที่นี่มีกลิ่นเฉพาะ ไม่ขม ดื่มได้เรื่อยๆ อุ่นถึงลำไส้ (รีบซดไปนิด) ซื้อฝากก็เป็นความคิดที่ดี และนี้คือรีวิว เมาคง ไร่ชาในวันที่ฝนตก ถึงจะไม่ได้เจอสิ่งที่ตั้งใจแต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คุ้มค่าไม่ต่างกัน นั้นคือบทเรียนชิ้นใหญ่ว่า จะไปไหน เช็คสภาพอากาศด้วย ปิดท้ายด้วยกิจกรมแก้เครียดบนกระเช้าที่แกว่งไปมาหน่อยๆ ภาพถ่ายโดยนักเขียน