ถ้าเอ่ยถึงสถานเสาวภาจะเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นสถานที่ผลิตวัคซีน ให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และให้ความรู้เกี่ยวกับเชื้อไวรัสโรคพิษสุนัขบ้ามากว่า 100 ปี และเนื่องจากประเทศไทยมีงูมากมายหลายชนิดทั้งไม่มีพิษและมีพิษเกือบ 200 ชนิด สถานเสาวภาจึงจัดตั้งสวนงูเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับงูควบคู่ไปด้วย โดยตั้งอยู่ตึก 4 มะเสง ภายในสภากาชาดไทย ถนนพระราม 4 (ช่วงตัดกับถนนอังรีดูนังต์) เขตปทุมวัน กรุงเทพฯนอกจากการจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับงูและตู้โชว์งูตัวเป็น ๆ แล้ว สวนงูมีการสาธิตการรีดพิษงูให้ชมทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00 น. และสาธิตการจับงูวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.30 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00 น. โดยค่าผ่านประตูสำหรับผู้ใหญ่ 40 บาท (อายุ 60 ปีขึ้นไปฟรี) นักเรียน/นักศึกษา 20 บาท และเด็ก 10 บาทเจ้าหน้าที่สวนงูโชว์การจับงูชนิดต่าง ๆ พร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับงูนั้น ๆ บริเวณอัฒจันทร์กลางแจ้งหน้าตึก 4 มะเสงโชว์ที่ระทึกใจและเรียกเสียงฮือฮามากที่สุดคือการจับงูพิษร้ายแรง คู่พระ-คู่นาง "งูเห่า-งูจงอาง" ตัวใหญ่และยาวมาก ตั้งท่าพร้อมโจมตีตลอดเวลา ทำเอาผู้ชมกลัว ๆ กล้า ๆ เพราะอยู่ห่างกันเพียง 2 เมตรไฮไลท์หลังโชว์การจับงูคือถ่ายภาพกับงูหลามทอง เป็นครั้งแรกที่ผู้เขียนได้สัมผัสใกล้ชิดกับงูหลามตัวใหญ่ที่หนักมากและลำตัวนุ่มนิ่มคล้ายพลาสติกที่สูบลมไม่เต็ม เหตุผลเดียวคือฝึกเด็กให้กล้า ป้าเลยต้องสู้สู้(ภาพถ่ายโดยเจ้าหน้าที่สวนงู สภากาชาดไทย)ชอบแววตาและท่านอนของเธอมาก งู Green Tree Python อยู่ในตระกูลเดียวกับงูหลามสบตากันแบบใกล้ชิดมีเพียงกระจกกั้น งู Desert Kingsnake สีสันสวยงามเหมือนพลาสติกงูเขียวหางแฮ่มใต้ (Beautiful Pit-Viper) เกล็ดสีเขียวอมฟ้าสลับดำงูเขียวกาบมะพร้าว (Red-tailed Racer) งูไฮเปอร์เลื้อยไปเลื้อยมาจนเหนื่อยแทน มีลิ้นสีฟ้าที่พยายามถ่ายภาพแต่ไม่สำเร็จงูหลาม (Burmese Python/ Javanese Python) มีอยู่ทุกภาคของไทยยกเว้นภาคใต้ เจอตัวใหญ่ขนาดนี้เข่าอ่อนวิ่งหนีไม่ออกงูทางมะพร้าว (Copperhead Rat Snake) นางรักสวยรักงามมาก เขียนตาจนคมโตงูแส้หางม้า (Dog-toothed Cat-eye Snake) หุ่นสเลนเดอร์ผอมแบน ตากลมโตใสซื่อลองจินตนาการว่าแค่กระดูกยังใหญ่และยาวขนาดนี้ หากตัวเป็น ๆ จะน่ากลัวแค่ไหนมีงูดองในโหลแก้วนานาชนิดให้พิจารณาอวัยวะและลวดลายในระยะเผาขนมีโอกาสลองแวะไปเยี่ยมชมสวนงู สภากาชาดไทย ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน (ภาพประกอบทั้งหมดถ่ายโดยนักเขียน "ชีพจรลงเท้า")