ฮัลโหล ๆ วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำบุญกันค่า แถมยังเป็นการทำบุญที่ไม่ต้องใช้เงินด้วยนะจ้ะ (งงไปดิ 555) เพราะวันนี้เราจะพาไปบริจาคเลือดกัน!!! อย่างที่ทราบกันว่าในช่วงสถานการณ์โควิด19 ทำให้เหล่าอาสาบริจาคเลือดที่เดิมก็มีไม่ค่อยจะพอกับความต้องการอยู่แล้ว ยิ่งจำนวนน้อยยยยลงไปอีก ทำให้เลือดสำรองไม่พอจนถึงขั้นวิกฤต ชนิดว่าทางสภากาชาดออกมาเชิญชวนประชาชนให้ออกมาบริจาคกันวันละไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบเข้าเรื่องดีกว่า สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่จะบริจาคเลือดได้ ง่าย ๆ เลยก็คือเป็นผู้มีสุขภาพดีค่ะ เพื่อที่จะได้เลือดที่สมบูรณ์ที่จะส่งต่อให้กับผู้ที่ต้องการ และเพื่อความปลอดภัยของตัวผู้บริจาคเลือดเช่นกัน รายละเอียดตามนี้เลยอายุระหว่าง 17 ปี - 70 ปีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวน้ำหนักมากกว่า 45 กก. (อันนี้เราผ่านแน่นอน 555)นอนหลับพักผ่อนเพียงพอในคืนก่อนวันที่มาบริจาคโลหิต (ส่วนตัวเราจะนอนให้ได้ 7-8 ชม.ขึ้นไป)สตรีอยู่ระหว่างมีรอบเดือน บริจาคโลหิตได้ แต่ต้องสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโลหิตประจำเดือนมากกว่าปกติ ไม่มีอาการอ่อนเพลียใด ๆก่อนบริจาคโลหิต ควรงดอาหารไขมันสูง เช่น ข้าวมันไก่ ข้าวข้าวหมู ของทอด ของหวาน แกงกะทิต่าง ๆดื่มน้ำมาก ๆ ในเช้าวันที่มาบริจาคโลหิตสำหรับวันนี้เราจะพาไปบริจาคเลือดกันที่สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังค์นะคะ ถ้ามาไม่ถูกก็ปักหมุด Google Maps มาได้เลย มีที่จอดรถอยู่จำนวนหนึ่ง แต่วันเสาร์อาทิตย์อาจจะหาที่จอดยากหน่อยนะคะ มาถึงเดินเข้ามาด้านในเลย มองบนไว้จะมีป้ายแขวนอยู่บอกขั้นตอน 1 2 3 4จุดที่ 1 กรอกแบบฟอร์มผู้บริจาคโลหิตไม่ว่าจะเป็นผู้บริจาคครั้งแรกหรือเคยบริจาคอยู่แล้ว ก็ต้องเข้ามากรอกข้อมูลตรงนี้ทุกครั้งนะคะ ด้านหน้าเป็นข้อมูลทั่วไป ด้านหลังจะเป็นรายการเกี่ยวกับสุขภาพของเราให้เลือกตอบ พิเศษสำหรับช่วงโควิด19 ทางสภากาชาดไทยจะให้เรากรอกข้อมูลประเมินความเสี่ยงเรื่องโควิด19 เพิ่มอีกนิดนึง อย่าลืมลงชื่อทุกอย่างให้เรียบร้อยเพื่อเป็นการยืนยันข้อมูลด้วยนะจ้ะจากนั้นมองซ้ายมองขวาสักหน่อย จะเห็นเครื่องวัดความดัน เดินเข้าไปวัดได้เลยไม่ต้องรอให้ใครมาช่วยทั้งนั้น เสียบแขนเข้าไปให้ศอกวางตรงจุด กด START จากนั้นก็จะมีกระดาษบอกความดันของเราออกมา เอาแผ่นนี้แนบกับฟอร์มข้อมูลอันแรก เดินไปที่จุดที่ 2 เลยจุดที่ 2 ลงทะเบียนผู้บริจาคโลหิตจุดนี้อยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าค่ะ พนักงานเค้าก็จะนำข้อมูลของเราเข้าระบบให้เรียบร้อย สำหรับผู้บริจาคโลหิตครั้งแรกก็จะได้รับบัตรผู้บริจาคโลหิตตรงนี้ จากนั้นเดินไปทางขวา กดบัตรคิวแล้วรอเรียกค่ะจุดที่ 3 พบแพทย์ (จุดคัดกรองผู้บริจาคโลหิต)เมื่อถึงคิวเราแล้ว เข้าไปในห้องจะมีการเจาะเลือดเพื่อวัดความเข้มข้นของโลหิตที่ปลายนิ้ว เจ็บนิดหน่อย จุดนี้คุณหมอจะให้ยาธาตุเหล็กมาให้ด้วยคนละ 1 ถุง ให้ทานหลังจากบริจาคเลือดทุกวันไปเรื่อย ๆ จนกว่ายาจะหมด จากนั้นไปพบแพทย์ต่อ เพื่อสอบถามเรื่องสุขภาพเบื้องต้นเรานิดนึงค่ะ สำหรับจุดนี้จะเป็นการคัดกรองผู้บริจาคโลหิต เพราะถ้าเรานอนน้อยหรือความเข้มข้นของเลือดเราไม่พอ เราก็จะไม่สามารถบริจาคเลือดได้ค่ะ จุดนี้ต้องตอบคำถามคุณหมอตามความจริงนะคะ ทั้งหมดก็เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้บริจาคเลือดเอง เพื่อนเราเคยโกหกคุณหมอไปว่านอนเต็มอิ่ม พอบริจาคเสร็จเป็นลมไปเลยนะคะจุดที่ 4 บริจาคโลหิตใกล้ถึงจุด Climax ของเรื่องแล้วค่ะคุณผู้ชม เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้น 2 เลยค่ะ จากนั้นกดบัตรคิวรอเรียกเข้าไปในห้องบริจาคโลหิต เมื่อเข้าไปแล้วจะมีคิวย่อยต่ออีกนิดนึง เป็นคิวเจาะแขนซ้าย หรือ แขนขวาค่ะ โดยส่วนตัวแล้วเราจะเจาะแขนซ้าย เพราะหลังจากบริจาคเลือดแล้วเค้าจะให้งดยกของหนัก งดออกแรง จากนั้นก็ฟังเสียงคุณพยาบาลเรียกได้เลยเมื่อเข้าไปในห้อง คุณพยาบาลจะทวนชื่อนามสกุลและกรุ๊ปเลือดอีกทีเพื่อให้ถูกต้องแน่นอน แล้วก็เริ่มขั้นตอนเลย มัดแขน หาเส้นเลือด และ "เจาะ" ส่วนตัวแล้วไม่แนะนำให้มอง 5555 มองไปทางอื่นได้เลยไม่ต้องเขิน ความเจ็บแค่จี๊ดเบา ๆ ค่ะ จากนั้นก็บีบตัวบีบเพื่อให้เลือดไหลออก แนะนำให้บีบเป็นเรื่อย ๆ เป็นจังหวะ ๆ บีบไปประมาณ 15 นาทีเลือดก็น่าจะเต็มถุงเรียบร้อยค่ะ คุณพยาบาลก็จะมาจัดการปิดปากถุง และดึงเข็มออก ตรงนี้จะจี๊ด ๆ อีกครั้งนึง แล้วก็เสร็จเรียบร้อยจ้า นอนพักสักแป๊บให้แน่นอนว่าอาการปกติดีแล้วค่อยลุกนะคะจุดที่ 5 ห้องพักผ่อนรางวัลแด่คนทำดีมาแล้วค่ะ หลังจากเสียเลือดไปแล้ว ก็ต้องมาเติมความหวานให้กระชุ่มกระชวยสักหน่อย เดินดิ่งเข้าไปข้างในเลยค่ะ จะมีอาหารว่างกรุบกริบ ซึ่งจะสลับกันในแต่ละครั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นซาลาเปา ขนม ไข่ต้ม หรือถ้าโชคดีจะมีข้าวเหนียวหมูค่ะ (อร่อยมากอันนี้ เรียกว่าเป็นเหนียวหมูในตำนาน 5555) แต่ที่มีประจำแน่นอนก็คือโอวัลตินนั่นเอง มีทั้งร้อนทั้งเย็น คือก็รู้ว่าชงเองที่บ้านก็ได้ แต่ไม่รู้ทำไมเวลากินหลังบริจาคเลือดแล้วมันรู้สึกอร่อยกว่า 5555 จบไปแล้วกับขั้นตอนการบริจาคเลือดที่สภากาชาดไทย หลังจากนี้ก็พักผ่อนเยอะ ๆ งดออกกำลังกายหนัก ประมาณ 24 ชั่วโมง และอย่าลืมกินน้ำมาก ๆ ด้วยนะคะ เพราะร่างกายเราเสียเลือดไปมากอยู่ อีกอย่างที่ลืมไม่ได้คือยาธาตุเหล็กที่คุณหมอให้มาตอนเจาะเลือดปลายนิ้ว อันนั้นต้องกินนะคะ สำคัญมาก เพราะถ้าเราบริจาคเลือดอย่างต่อเนื่องไปโดยไม่บำรุงอะไรเลย จะเสี่ยงเป็นโลหิตจางค่ะ*** ดูแลตัวเองให้ดี แล้วอีก 3 เดือนข้างหน้ามาบริจาคเลือดกันใหม่เด้ออออออออ (มาก่อน 3 เดือนเค้าไม่ให้บริจาคนะจ้ะ เดี๋ยวไม่ดีกับสุขภาพ) ภาพถ่ายโดย: ผู้เขียน