สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ กลับมาพบกันอีกแล้วนะคะกับบทความเกี่ยวกับเกมส์ ROV ซึ่งวันนี้เรามีเทคนิคในการเดินเกมส์มาฝากกันค่ะสำหรับเกมส์ ROV เราจะมีฮีโร่ที่เลนอยู่ 5 ตำแหน่งด้วยกัน ได้แก่Jungle หรือฟาร์มป่าCarry หรือ เลนมังกรใหญ่Dark Slayer หรือ ออฟเลน หรือเลนดาร์คสเลเยอร์Mage หรือ เลนกลางSupport / Roaming / Tankซึ่งในแต่ละตำแหน่งก็จะมีหน้าที่หลักที่แตกต่างกันไป เนื่องจากความสามารถของฮีโร่ในแต่ละตัวนั้นสามารถทำบางอย่างได้ดี บางอย่างไม่สามารถทำได้ ดังนั้นการเลือกตำแหน่งให้ครบกับฮีโร่ที่มีความเหมาะสมก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ทีมชนะ ซึ่งจุดนี้เป็นพื้นฐานที่ผู้เล่นเกมส์แนว MOBA ต้องทำความเข้าใจแล้วทีมจึงจะสามารถไปต่อได้ค่ะเมื่อเราทราบแล้วว่าแต่ละตำแหน่งเป็นอย่างไร วันนี้จึงจะมาแนะนำเทคนิคสำหรับฮีโร่ในตำแหน่ง "เมจ" ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ของทีม ที่หากเอาไปลองใช้ดูล่ะก็มั่นใจได้เลยค่ะว่า ไม่ถูกทีมด่าแน่นอน จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยต้นเกมส์ ในช่วงต้นเกมส์ถือเป็นช่วงสำคัญของเกมส์ที่อาจจะส่งผลต่อการแพ้ชนะได้ หากต้นเกมส์ได้เปรียบและเล่นได้ดีไปเรื่อย ๆ ชัยชนะก็อยู่แค่เอื้อม ดังนั้นในช่วงต้นเกมส์ตำแหน่งที่มีบทบาทสำคัญที่สุดคือเมจและซัพพอร์ต สำหรับเมจอย่างเรานั้นต้นเกมส์จะเป็นตัวที่ทำดาเมจให้กับทีมได้ และสามารถเดินไปไหนมาไหนได้ง่ายที่สุดเพราะตำแหน่งเมจนั้นอยู่ตรงจุดกึ่งกลางของแผนที่ สิ่งหลัก ๆ ที่เราต้องดูช่วงต้นเกมส์มี 3 อย่าง คือ1. ป่า โดนฝั่งตรงข้ามเข้ามาป่วนมั้ย หากฮีโร่ฝั่งศัตรูเข้ามารบกวนตำแหน่ง Jungle ของเรา เราจำเป็นจะต้องเข้าไปช่วยเหลือร่วมกับซัพพอร์ต เพราะป่าจะเป็นตัวปิดดาเมจสำคัญในช่วง 1:30 นาที ซึ่งมักจะเป็นเวลาในการปะทะของไฟต์แรก เพราะเป็นเวลาที่ป่าทั้ง 2 ฝั่งฟาร์มเสร็จ ซึ่งจะทำให้มี Level 4 พร้อมใช้ Skill Ultimate นั่นเอง ดังนั้นหากตัวป่าทีมเราโดนฝั่งตรงข้ามเข้ามาปั่นป่วน เลเวลของตัวป่าเราจะไม่ถึง 4 ทำให้มีโอกาสในการแพ้ไฟต์แรกสูงมาก และจะส่งผลต่อการเงินของทีมทำให้เกมส์เล่นยากเมื่อเรารู้ตัวว่าป่าโดนป่วน ให้เราดูว่าฮีโร่ของเรามีความสามารถจะเข้าไปช่วยเหลือได้หรือไม่ โดยดู 3 ปัจจัย 1. มีเพื่อนตำแหน่งอื่นมาช่วยมั้ย ทั้งซัพพอร์ต แครี่ หรือออฟแลน 2. ฝั่งตรงข้ามมากันกี่คน 3. ฮีโร่เมจของเรามีสกิลในการสตั๊นหรือสโลว์ศัตรูมั้ย และป่าของเรามีดาเมจมั้ยถ้าดูแล้วเรามีความได้เปรีบมในทั้ง 3 ข้อก็ให้เดินไปช่วยเพื่อนทันที เมื่อช่วยไล่ศัตรูไปได้แล้วเราจึงค่อยกลับมาจัดการกับครีปในเลนกลางของเรา เช่น ฝั่งตรงข้ามมากัน 2 คน ส่วนเราเองเล่น Alester ซึ่งมีสกิล 1 ในการสตั๊นศัตรู และซัพพอร์ตกำลังเดินมาช่วย ก็ให้เข้าไปช่วยป่าก่อนได้ แต่ถ้าดูแล้วเราเสียเปรียบกว่า เช่น เราเล่นฮีโร่ที่ไม่มีสกิลสตั๊นเลย และฝั่งตรงข้ามมากันเยอะ เพื่อนเราก็ไม่ได้เดินมา หรืออยู่ไกลกว่าจะเดินมาถึงน่าจะไม่ทัน ก็ให้เราเลือกจัดการกับครีบเลนกลางเพื่อให้ฮีโร่ตัวเองเลเวล 2 ก่อนเพื่อให้มีสกิลในการจัดการศัครูมากขึ้น และเป็นการรอเพื่อนตำแหน่งอื่นเดิมมาช่วยได้ทัน แต่ในระกว่างนั้นก็ควรส่งสัญญาน "ถอย" ให้ป่าเรารู้ด้วยว่าเรายังไม่พร้อมไปช่วยจริง ๆถ้าเราดู 3 ปัจจัยนี้ออก เกมส์จะมีความได้เปรียบคือเราจะไม่เข้าไปตายฟรีถ้าหากเราอ่านเกมส์แล้วประเมินออกว่าทีมเรายังสู้ไม่ได้ เพราะเราจะเห็นได้บ่อยว่า เมื่อตำแหน่งป่าโดนฝั่งตรงข้ามเข้ามาป่วน เมจจะเดินมาช่วย ป่าเห็นเพื่อนมาก็สู้ทั้ง ๆ ที่ความสามารถของฮีโร่ยังไม่พอจะสู้ สุดท้ายก็กลายเป็นสูญเสียมากกว่าที่ควรจะเป็น แต่ถ้าทีมเราได้เปรียบแต่เราไม่รู้ว่าทีมเราได้เปรียบ ก็จะกลายเป็นเสียโอกาสชิงความได้เปรียบมาให้ทีมค่ะ เมจในช่วงต้นเกมส์ถือว่าเป็นดาเมจสำคัญที่พลิกไฟต์ได้เลย ดังนั้นการตัดสินใจตรงนี้จึงสำคัญมากนั่นเอง2. ไฟต์แรกของเกมส์ เนื่องจากโดยส่วนใหญ่ไฟต์แรกจะเกิดที่เลนมังกรใหญ่เนื่องจากเป็นเลนของแครี่ ซึ่งมีพลังชีวิตต่ำและในช่วงต้นเกมส์ดาเมจไม่รุนแรงมากจึงเป็นตำแหน่งที่ดึงดูดให้ฮีโร่ป่าที่มีดาเมจมากกว่าและเลเวลสูงกว่าให้เข้ามาจัดการ เมจอย่างเราต้องพยายามเคลียร์ครีบเลนกลางให้เร็วที่สุดเพื่อหากเกิดไฟต์กัน เราจะได้เดินไปเติมเลนมังกรใหญ่ให้ทันโดนไม่เสียเงินที่จะได้จากครีบเลนไป และป้อมกลางไม่ถูกโจมตีในขณะที่เราไม่อยู่ หากเราเดินไปทันในขณะทีเมจอีกฝั่งยังต้องเคลียร์ครีบเลนกลางอยู่จะทำให้ทีมเรามีคนมากกว่า สู้ได้ง่ายกว่า หรืออีกวิธีหนึ่งคือ แม้ว่าเราจะเคลียร์ครีบในเลนได้ช้าเพราะความสามารถของฮีโร่เรา ก็ให้ทำให้เมจฝั่งตรงข้ามเหลือ HP น้อย เพียงแค่นี้เมจฝั่งตรงข้ามก็ไม่สารถเดินไปเติมไฟต์ได้แล้วเพราะฮีโร่ที่เคลียร์ครีปได้ช้ามักจะมีดาเมจที่สูง จัดการฮีโร่ได้ง่ายกว่า3. อย่าตาย อย่าทิ้งป้อม อย่าแช่เลน คนที่เล่นเมจส่วนใหญ่มักจะโดนเพื่อนร่วมทีมตำหนิอยู่บ่อย ๆ ทำให้ตัวร้อนไปตาม ๆ กัน โดนเรื่องที่มักจะโดนว่าคือ เมจชอบทิ้งเลน ไม่ก็เมจไม่เดินมาช่วยเลยแช่แต่เลน หรือบางทีเดินไปช่วยแต่ตายระหว่างทางก็จะโดนว่า เมจแจก ซึ่งคนเล่นก็มักจะน้อยเนื้อต่ำใจว่า ใช่สิ! ทำอะไรก็ผิดไปหมด วิธีแก้คือ ให้เราดูก่อนว่าฮีโร่เรามีความสามารถแบบไหน ถ้าเคลียร์ครีปได้ไวกว่าฝั่งตรงข้าม ก็ให้พยายามเดินไปเติมเลนที่จะมีทีมไฟต์เกิดขึ้นเพราะถึงเราจะอยู่ในเลนก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ให้ไปช่วยเติมดาเมจเพื่อน แม้ว่าจะเป็นการปล่อยสกิลครั้งเดียวก็อาจส่งผลให้ไฟต์ชนะได้ หลังจากนั้นก็ค่อยรีบกลับมาเลน จากรูป Alester เป็นเมจที่เคลียร์ครีปได้ไวกว่า Liliana ทำให้มีโอกาสวิ่งไปเลนมังกรใหญ่ซึ่งโดนป่าฝั่งตรงข้ามเข้ามาโจมตีซึ่งเมื่อมาถึงก็สามารถใช้สกิลใส่ฮีโร่ศัตรูโดยที่ศัตรูใส่สกิลกับเพื่อนเราไปหมดแล้วทำให้เราสามารถจัดการได้โดยง่ายแต่ถ้าเราดูแล้วว่าฮีโร่เราไปไหนมาได้ไม่ได้สะดวกขนาดนั้น เคลียร์ครีปก็ช้า ก็ให้หาช่องใส่ดาเมจกับเมจฝ่ายตรงข้าม เช่น ดักอยู่ในพุ่มขณะที่เมจอีกฝั่งเดินกลับเลน เพียงแค่นี้เราก็ทำให้เมจฝั่งศัตรูไม่กล้าเดินในไฟต์ต่อไปแล้ว เราก็จะไปเติมในไฟต์ต่อไปได้สบาย ๆ ในขณะที่เมจฝั่งตรงข้ามต้องกลับไปเติม HP แค่นี้เราก็ไม่ถูกขังในเลนแล้วค่ะและสุดท้ายคือ อย่าตาย วิธีป้องกันตรงนี้การเดินอ้อมค่ะ ถ้าเรารู้ว่ามีโอกาสที่จะโดนดักเก็บระหว่างทางได้ ก็ยอมเสียเวลาเดินอ้อมนิดนึง และจำไว้ว่าอย่าเดินกลางน้ำตัวคนเดียวเด็ดขาด แค่นี้เราก็สามารถเซฟตัวเองได้กลางเกมส์หลังจากผ่านช่วงต้นเกมส์มาได้ กลางเกมส์เป็นช่วงเวลาที่ต้องเดินไปเรื่อย ๆ ไม่มีการแบ่งเลนใครเลนมันแล้ว กลางเกมส์เมจควรจะเดินไปกับซัพพอร์ตเพื่อคอยจ่ายดาเมจในแนวหลัง เมจต้องจำไว้เสมอว่าตัวเองนั้นมีพลังชีวิตน้อยแค่ไหน เมจอาจจะไม่ต้องเดินคู่กับซัพพอร์ตก็ได้ อาจไปกับป่าเพื่อจ่ายดาเมจแบบนัดเดียวจบก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ให้พยายามรักษาระยะห่างระหว่างตัวเองกับศัตรูให้ได้มากที่สุด อย่าเดินนำเพราะเมจคือดาเมจหลัก หากทีมขาดเมจเท่ากับทีมขาดดาเมจ เพราะซัพพอร์ตฝั่งตรงข้ามมักจะออกไอเทมป้องกันซึ่งส่วนใหญ่เป็นการป้องกันกายภาพก่อน จะออกกันดาเมจเวทก็มักจะเป็นชิ้นที่ 4 ที่ 5 ขึ้นไป ทำให้กลางเกมส์เมจจะมีหน้าที่หลักคือจ่ายดาเมจใส่ซัพพอร์ตฝั่งตรงข้ามเพื่อให้ป่าหรือออฟเลนฝั่งเราเข้าไปถึงฮีโร่แนวหลังของศัตรูได้ ท้ายเกมส์กลางเกมส์ว่าแรงแล้ว ท้ายเกมส์แรงกว่า เมจที่ไอเทมครบ ๆ ไม่กี่สกิลก็สามารถจัดการแทงค์ได้ ดังนั้นฮีโร่ทุกตัวก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเมจ แต่สิ่งที่สำคัญในช่วงท้ายเกมส์คือ ฮีโร่ทุกตัวมีพลังโจมตีที่สูงเพราะได้ไอเทมครบกันหมด ดังนั้นเมจจึงต้องระวังตัวเองมากกว่าช่วงกลางเกมส์เพราะหากโดนเพียงสกิลเดียวจากศัตรูก็อาจถึงแก่ชีวิตได้ เมจจะตกเป็นเป้าหมายหลักของป่าและออฟเลนทันทีเพราะหากฝั่งศัตรูกำจัดเราได้ก็จะมีโอกาสจัดการเพื่อนเราง่ายขึ้นเพราะไม่ต้องกลัวดาเมจเวทย์ที่มาจากเราแล้ว ดังนั้นท้ายเกมส์จึงเป็นช่วงที่ต้องเล่นอย่างมีสติมาก หากแพ้เพียงครั้งเดียวอาจหมายถึงจบเกมส์ได้เลย ซึ่งการไฟต์ในช่วงท้ายเกมส์ต้องอาศัยประสบการณ์ล้วน ๆ แล้วล่ะค่ะว่าสถานการณ์ไหนต้องทำอย่างไรสำหรับการเดินเกมส์ของเมจก็จะเห็นได้เลยค่ะว่า เมจเป็นดาเมจสำคัญของทีมซึ่งแน่นอนว่าในช่วงต้นเกมส์คือเวลาที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่แค่เมจอย่างเดียวแต่เป็นเวลาสำคัญของทุกคนในทีมเพื่อชิงความได้เปรียบมาให้ได้ แต่แม้ว่าจะเสียเปรียบเมจอย่างเราก็ห้ามยอมแพ้เพราะตัวเราถือดาเมจที่สำคัญอยู่ในมือ หากกลางเกมส์เราสามารถเดินกับเพื่อนและชนะไฟต์ได้ แม้เพียง 1 หรือ 2 ไฟต์ก็จะทำให้รูปเกมส์เปลี่ยนได้ เกมส์สามารถพลิกไปพลิกมาได้เสมอ ถ้าเราพยายามก็ย่อมสามารถชนะได้แน่นอนค่ะ