Review หนัง Ford v Ferrari

หลังจากที่เมื่อปี 2013 เราได้ดูหนังแข็งรถ ที่สร้างจากเรื่องจริงของ เจมส์ ฮันท์ และนิคกี้ เลาดา มาแล้ว ในปีนี้ เราจะได้พบกับอีกหนึ่งหนังแข่งรถที่สร้างจากเรื่องจริง ที่เดือด และเข้มข้นไม่แพ้กันใน Ford v Ferrari

หนังจะว่าด้วยเรื่องราวของ แครอล เชลบี้ (แมท เดม่อน) นักออกแบบรถยนต์ และ เคน ไมลล์ (คริสเตียน เบลล์) นักแข่งรถชาวอังกฤษ ที่ต้องมาร่วมมือกันเพื่อสร้างรถยนต์ ที่จะสามาระเอาชนะเฟอร์รารี่ ในการแข่ง 24 Hour of Le Mans ในปี 1966

หลังจากความสำเร็จของ Rush เมื่อปี 2013 ทำให้เป็นข้อพิสูจน์สำคัญที่ว่า หนังแข่งรถ ไม่จำเป็นต้องเป็นหนังแอคชั่นฟอร์มยักษ์ ที่ต้องเน้นฉากวินาศสันตะโร เสมอไป แต่หนังแข่งรถที่สร้างจากเหตุการณ์จริง ที่เต็มไปด้วยฉากเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ที่เต็มไปด้วยฉากพูดคุย และฉากดราม่า ก็สามารถเป็นหนังที่สนุกได้ด้วยเช่นกัน ซึ่ง Ford v Ferrari ได้เป็นอีกข้อพิสูจน์ ที่สามารถไปได้ไกลกว่าที่ Rush เคยทำไว้ แบบที่ไม่ต้องมีข้อสงสัยแต่อย่างใด

ในขณะที่ฉากแข่งรถของหนัง ที่แม้จะไม่ได้มีเยอะ แต่หนังก็ทำออกมาได้ดุเดือด เข้มข้น อย่างน่าชื่นชม หนังมีทั้งการพลิกเกมไปมา ระหว่างการแข่งขัน ที่ทำให้เราได้ลุ้นระทึกกับสถานการณ์ต่างๆ พร้อมทั้งมีงานโปรดักชั่น ที่สมจริง ราวกับกำลังดูการแข่งรถจริงๆ และที่น่าชื่นชมที่สุด คือดนตรีประกอบของ มาร์โค เบลตรามี และ บัค แซนเดอร์ ที่ไม่ได้เพียงเข้ามาเพิ่มพลังให้หนังเรื่องนี้ตลอดทั้งเรื่องเท่านั้น แต่ยังทำให้ฉากแข่งรถของหนังออกมามีพลัง ชวนตื่นเต้น จนทำให้ลุ้นจนแทบลืมหายใจ

ด้านการแสดง ต้องชื่นชม คริสเตียน เบล กับ แมต เดม่อน ที่ทั้งคู่ สามารถร่วมกันแบกรับหนังเรื่องนี้ไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งคู่สามารถรับส่งบทกันไปมา ได้อย่างเป็นธรรมชาติ จนทำให้เราเชื่อในมิตรภาพที่ทั้งคู่มีให้กันอย่างไร้ข้อกังขา แม้ว่าทั้งสองตัวละคร จะมีมิติ และคาแรคเตอร์ที่ต่างกันอย่างสุดขั้วก็ตาม แต่ทั้งสองตัวละครก็ถือว่าเป็นคู่หูที่เท่ที่สุดคู่หนึ่งในปีนี้ ไม่แพ้คู่ของ ลีโอนาร์โด ดิคาร์ปริโอ และ แบรต พิตต์ จาก Once Upon a Time... in Hollywood

Ford v Ferrari ถือว่าเป็นหนังแข่งรถ ชั้นเยี่ยม ที่นานทีปีหน จะมีให้ได้ดูกัน นอกจากนี้หนังยังเป็นมากกว่าหนังแข่งรถทั่วไป เพราะนอกเหนือจากเรื่องของเครื่องยนต์ และความเร็วแล้ว หนังยังมีพาร์ทดราม่าที่เข้มข้น และทรงพลัง โดยเฉพาะเรื่องของมิตรภาพ และการทำตามความฝันของลูกผู้ชาย ที่ถูกตีความออกมาได้เดือด ยิ่งกว่าฉากแข่งรถในหนังด้วยซ้ำ

ขอขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.imdb.com/