แต้จิ๋ว เมืองที่อาจนับได้ว่ามีชาวจีนที่อพยพมายังประเทศไทย มากเป็นอันดับต้นๆของประเทศ วันนี้จะมาแนะนำที่ท่องเที่ยวในเมืองแต้จิ๋ว ซึ่งมีคนเขียนถึงไม่มากนัก เมื่อเรามาถึงสนามบินแห่งเมืองเจียหยาง เราก็หารถบัสของสนามบินตรงเข้าเมือง เฉาโจว หรือ แต้จิ๋ว ด้วยราคา 20 หยวน เพื่อหาที่พักในเขตเมืองเก่า ใกล้กับสวนสาธารณะเฉาโจว ในบริเวณนี้จะเต็มไปด้วยร้านอาหาร โดยเฉพาะร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อวัว อันลือชื่อ ที่อยู่ตรงข้าม ประตูทางเข้าของสวนแห่งนี้ หาโอกาสมาทานกันครับ ขอบอกอร่อยมาก ราคาชามละ15 หยวนเริ่มต้น เมื่อทานกันอิ่มแล้ว เราสามารถเดินย่อยอาหารได้ทั้ง ในสวนสาธารณะ ที่มีศาลเจ้าให้เข้าไปกราบสักการะถึง 2 แห่ง หรือ จะเดินเล่นอีกฝั่งที่เป็นชุมชน เมืองเก่า ที่มีบ้านเก่าทรงเก๋ และร้านกาแฟ ให้เราสามารถเข้าไปเดินชม(บางหลังต้องเสียค่าบัตรผ่านประตู) หรือนั่งดื่มกาแฟ ผ่อนคลายอารมณ์ ได้อย่างดี ก่อนที่จะเข้าไปพักผ่อนในโรงแรม เพื่อเตรียมตัวเดินทางสู่ เขาเฟิ่งหวงดินแดนปลูกชาชื่อดั่ง ของเมืองแต้จิ๋วแห่งนี้ ในเช้าวันรุ่งขึ้น ตื่นเช้าขึ้นมาเรารีบจัดแจงกระเป๋าเพื่อนำมาฝากไว้กับทางโรงแรม และรีบออกไปหาอาหารเช้าทานกัน ก๋วยเตี๋ยวหลอด ที่ทำขึ้นมาสดใหม่ เนื้อแป้งนุ่ม ทานกับต้มเลือดหมูใส่ผักจิงจูฉ่าย และห่านพะโล้ อร่อยมากๆจะหาโอกาสไปทานอีกแน่นอน เมื่อทานอาหารเสร็จ เราจึงว่าจ้างรถแท็กซี่แบบเหมาไปส่งเราที่ หมู่บ้านเขาเฟิงหวง ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากเมืองแต้จิ๋วประมาณ 60 กม. ในราคา 120 หยวน เมื่อมาถึงหมู่บ้านเฟิงหวง ที่ตั้งอยู่ด้านล่างของเขา เราต้องนั่งรถบัส ของอุทยานขึ้นไปบนเขา โดยเสียค่าบัตรรวมคนละ 40 หยวน สำหรับการขึ้นลงเขาแบบเหมารวมค่าผ่านประตู พวกเรามาลงยังที่พักบนเขาแห่งนี้ ซึ่งมีโรงแรมแห่งเดียวในอุทยาน จึงทำให้ค่าพักมีราคาสูงพอควร. ตกคืนละ600 หยวน พร้อมอาหารเช้า 2 ที่ เมื่อนำสัมภาระเข้าเก็บยังที่พักเรียบร้อย ทางโรงแรมก็จะมีรถ รับและส่งเราไปยังประตูทางเข้าที่ท่องเที่ยวบนภูเขา จนถึง18.00 น. จากทางเข้าเราต้องเดินขึ้นเขาไปบนยอดราวๆ 2 - 3 กม. ตลอด 2 ข้างทางจะเต็มไปด้วยไร่ชา และทะเลสาบบนยอดเขาแห่งนี้ พร้อมทั้งมีจุดชมวิว ที่เรียกว่า ที่นั่งของรัชทายาท ให้เราได้วัดใจขึ้นไปนั่ง และยืนชมวิว เมื่อกลับลงมาถึงโรงแรม หาอาหารเย็นทานกัน ขอบอกว่าอาจเรียกว่าโดนมัดมือชก เพราะมีที่จำหน่ายอาหารเพียงแห่งเดียวในโรงแรม และมีราคาค่อนข้างแพงพอควร อีกหนึ่งไฮไลต์ของที่แห่งนี้คือ การตื่นขึ้นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ซึ่งก็ทำให้เราไม่ผิดหวังเลย เมื่อชมเสร็จเราก็มาทานอาหารเช้าของโรงแรม เป็นแบบสไตล์จีน อาจไม่ถูกปากนักสำหรับคนไทย แต่ก็พอไหวสำหรับเรา สายหน่อยพวกเราก็นั่งรถบัสลงเขา มายังหมู่บ้านด้านล่างเพื่อหาซื้อใบชา เป็นของฝาก ก่อนเดินทางกลับเข้าเมือง เฉาโจว ด้วยการเหมารถแท็กซี่ มาส่งยังที่พัก(โรงแรม) และเที่ยว สะพานวัวคู่ กับวัดไคหยวน กำแพงเมือง และเมืองเก่าหน้าวัด ซึ่งเป็นที่เที่ยวยอดนิยมที่ทัวร์ ต่างๆนิยมพานักท่องเที่ยวมากัน ก่อนเดินทางต่อไปยังเมือง ซัวเถา เพื่อเยี่ยมญาติ และเดินทางกลับประเทศ ไว้ในโอกาสหน้า ผมจะนำเรื่องเล่าน่าสนใจในสถานที่อื่นๆ มาเล่าให้ฟังอีกนะครับ เครดิตภาพทั้งหมด ผู้ถ่ายเป็นคนถ่ายเองครับ