5 อาการและปัจจัยเสี่ยงทางดวงตา ดวงตาถือว่าเป็นอวัยวะสำคัญ แต่คนส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยตระหนักหรือเห็นความสำคัญนั้น จะมาดูแลอีกทีตอนที่รู้สึกว่ามีปัญหาเสียแล้ว ปัจจุบันนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจัยที่ 5 ของคนเรานั้นเป็นมือถือไปแล้ว ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมา หลายคนก็หยิบมือถือก่อนเพื่อเช็คความเป็นไปในโลกโซเซียล แม้กระทั่งถือเข้าไปในห้องน้ำ กินข้าว เดินทาง เมื่อไปถึงที่ทำงานก็ทำงานติดต่อกันหลายชั่วโมงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ จนกระทั่งก่อนนอนก็ยังอัพเดทหรือดูความบันเทิงผ่านหน้าจออีกเป็นเวลานาน ทำให้ดวงตาทำงานหนักในแต่ละวัน คนในยุคสมัยนี้ใช้ดวงตาหนักขึ้นกว่าคนสมัยก่อน เพราะด้วยความทันสมัยและการเข้ามาแทนที่ในด้านต่าง ๆ ของเทคโนโลยี และรวมถึงภาวะหรือมลพิษในสิ่งแวดล้อมรอบตัว ทำให้ดวงตามีโอกาสเสี่ยงกับการเสื่อมได้เร็วขึ้น ซึ่งปัจจัยเสี่ยงของดวงตามี 5 ประการ ดังนี้ตาล้า เกิดจากใช้ดวงตาต่อเนื่องเป็นเวลานาน เช่น อ่านหนังสือ มองแสงสว่างจากหน้าจออีเล็กทรอนิกส์เป็นเวลานาน ขับรถ ใช้มือถือในที่มืดหรือแสงน้อยอาการตาแห้ง ขาดน้ำตามาหล่อเลี้ยงดวงตา เกิดจากการทำงานหน้าจออีเล็กทรอนิกส์นานเกินไป ส่งผลให้เกิดการไม่สบายตา เช่น เคืองตา แสบตา ส่งผลโดยตรงทำให้ผิวกระจกตาอักเสบตาพร่ามัว มองเห็นภาพไม่ชัดเจน มักพบกับผู้ทำงานกับอุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ มือถือ แท็บเล็ต จะมีอาการตาพร่ามัว ปวดศีรษะตาเสื่อมจากการทำลายของแสง ซึ่งมีทั้งแสงสีน้ำเงินจากรังสียูวีและจากอุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นผู้ที่อยู่กลางแดดเป็นเวลานาน โดยไม่มีเครื่องป้องกัน และผู้ที่ใช้สายตาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ มือถือ แท็บเล็ต เป็นเวลานาน จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้กับดวงตาในการเสื่อมเร็วขึ้น และอาจส่งผลระยะยาวในการเป็นต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อมตาบอดกลางคืน การปรับสายตาในที่มืดใช้เวลานานมากกว่าปกติ เกิดจากการขาดวิตามินเอวิธีถนอมดวงตาไม่ให้เสื่อมก่อนวัย อาการส่วนใหญ่ทางดวงตาสามารถป้องกันได้จากโภชนาการและการรักษาที่ถูกต้อง เช่น กินอาหารที่อุดมด้วยสารสกัดจากบิลเบอร์รี สารสกัดจากดอกดาวเรือง สารสกัดจากผลแบล็คเคอร์เรนต์ ผักโขม วิตามินเอ เป็นต้น และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างจะช่วยลดหรือยืดระยะเวลาของการเสื่อมของดวงตาออกไปได้นานขึ้น เช่นหยุดพักสายตาทุกๆ 20 นาที จากหน้าจออีเล็กทรอนิกส์ หรือพักสายตาเป็นระยะจากการอ่านหนังสือ ด้วยการมองออกไปไกลๆบริหารกล้ามเนื้อตาแบบง่ายๆ เมื่อมีอาการอ่อนล้าป้องกันดวงตาจากการทำกิจกรรมกลางแจ้งหรืองานอันตรายรักษาความสะอาดของคอนแทคเลนส์ (สำหรับผู้ใส่คอนแทคเลนศ์) ล้างเครื่องสำอางด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับดวงตาโดยตรง เพราะรอบบริเวณดวงตาเป็นผิวที่บอบบาง ถ้าไม่ใข่ผลิตภัณฑ์เฉพาะอาจมีอาการแพ้ได้หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เพราะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่อประสาทต่อเสื่อมจากอายุ โรคต้อกระจกนอนหลับพักผ่อนอย่างพอเพียงตรวจตาเป็นประจำอย่างน้อยปีละครั้ง ควรดูแลใส่ใจดวงตาของคุณสักนิด เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงและอาการที่กล่าวมาข้างต้น แล้วคุณจะใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ยิ้มกับโลกอันสดใสพร้อมกับดวงตาคู่สวยของคุณเขียนโดย รัฐชญาภาพปกจาก https://pixabay.com / pic : 1 https://www.pexels.com// pic2 : https://www.pexels.com/ pic3 : https://pixabay.com