ภาพโดย Andrian Valeanu จาก Pixabay Office Syndrome โรค(ไม่)ใหม่ที่ใคร ๆ ก็เป็น ในปัจจุบันนี้รูปแบบในการทำงานนั้นเปลี่ยนไป จากงานที่ต้องอาศัยการขยับ การทำไร่ ทำสวน ที่อาศัยการใช้แรงกายเป็นอย่างมากในแต่ละวัน แต่ในตอนนี้ผู้คนจำนวนมากหันมาทำงานแบบนั่งโต๊ะ เน้นการทำงานในบริษัท วัน ๆ จึงมักอยู่กับคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์เป็นเวลามาก และด้วยไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ความรีบเร่งในสังคมเมืองทำให้วิถีชีวิตเริ่มผิดรูปผิดร่าง ผู้คนมีเวลาออกกำลังกายน้อยลง แต่ต้องกินอาหารที่ไร้ประโยชน์มากขึ้น เทคโนโลยีที่ถูกเพิ่มเข้ามาล้วนเป็นดาบสองคมที่ทำให้เกิดความสะดวกสบายเพียงแค่ปลายนิ้ว แต่นั่นเองที่อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพบางอย่าง ‘Office Syndrome’ คืออาการปวดกล้ามเนื้อที่มักเกิดจากการใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำ ๆ เป็นเวลาติดต่อกันยาวนาน ทำให้เกิดการหดเกร็งหรือกดทับของเส้นประสาทบริเวณนั้นมากเกินไป ซึ่งโดยมากแล้วมักเกิดกับผู้ที่ต้องอาศัยการทำงานในอิริยาบถเดิมซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน เช่น การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ ภาพโดย mohamed Hassan จาก Pixabay การคงไว้ซึ่งอิริยาบถแบบเดิม ๆ นั้นจะนำพามาซึ่งอาการปวด ตึง กล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ ที่สามารถจะพัฒนาไปเป็นอาการเรื้อรังและร้ายแรงขึ้นได้ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธี โดยอาการที่เกิดขึ้น มักจะพบกับ 1.อาการปวดกล้ามเนื้อบริเวณจุด เช่น คอ ไหล่ สะบัก แต่อาจจะระบุตำแหน่งได้ไม่ชัดเจนและอาจมีการปวดร้าวบริเวณข้างเคียงด้วยก็ได้ ซึ่งหากปล่อยไว้นานอาจทำให้ความปวดล้า ทวีความรุนแรงมากขึ้น 2.อาการที่เกิดจากการที่ระบบประสาทถูกกดทับ ซึ่งระบบประสาทนั้นจะเป็นระบบที่สำคัญมากต่อร่างกาย เป็นตัวสั่งการระบบอื่น ๆ รวมถึงการทำงานของอวัยวะด้วย หากเกิดการกดทับที่นานเกินไป อาจก่อให้เกิดอาการ เช่น อาการชา อาการอ่อนแรง 3.อาการปวดศีรษะที่เกิดจากความเครียด ความวิตกกังวล และอาจลุกลามไปถึงระบบการมองเห็นได้ ซึ่งอาการดังกล่าวเกิดขึ้นจากการใช้สายตาติดต่อกันนานเกินไป ภาพโดย PublicDomainPictures จาก Pixabay 4.เกิดอาการตึงและชาตามอวัยวะต่าง ๆ ซึ่งมักจะเกิดจากการอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ วิธีป้องกัน 1.ควรพักร่างกายจากการทำงานบ้าง มีการออกกำลังกายตามที่เหมาะสมแก่สถานการณ์ อาจะมีการผ่อนคลายและยืดกล้ามเนื้อ รวมทั้งการผ่อนคลายทางความคิด จะช่วยให้เราเกิดความปลอดโปร่งและกระฉับกระเฉง ภาพโดย Heike Frohnhoff จาก Pixabay 2.การนั่งทำงานในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น การปรับความสูงของโต๊ะ เก้าอี้ การปรับจอให้อยู่ในระดับสายตา จะทำให้กล้ามเนื้อไม่ต้องทำงานหนักและฝืนทำงานแบบผิดท่าผิดทาง 3.หมั่นออกกำลังกาย มีการยืดเหยียดที่เหมาะสม หรือไม่เช่นนั้นก็ควรหาเวลาว่างเข้ายิมออกกำลังกายหรือ เล่นโยคะดูบ้าง จะเห็นได้ว่าอาการที่เกิดจาก Office Syndrome นั้นไม่ใช่อาการที่ร้ายแรงแต่อย่างใด แต่เชื่อว่าหากปล่อยไว้เป็นเวลานานอาจเป็นบ่อเกิดของอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ก็หันมาลุกจากจอคอมแล้วขยับร่างกายกันหน่อยเถอะจ้ะพี่ๆน้องๆ