วันนี้เราจะมาแนะนำให้รู้จักกับสวนดอกไม้ที่อยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบคาวากูชิโกะ และทะเลสาบยามานากาโกะ ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาทะเลสาบทั้งห้า สวนนี้มีชื่อว่า สวนฮะนะโนะ มิยะโกะ (Hanano Miyako Park) มีพื้นที่ 187 ไร่ สวนฮะนะโนะ มิยะโกะ จะมีดอกไม้สลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาให้ชมตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นดอกทิวลิปกว่า 30 ชนิด จำนวนมากกว่า 170,000 ในช่วงเดือนเมษายน ถึงเดือนพฤษภาคม, ดอกบานชื่นหลากสี เป็นล้านดอก และดอกทานตะวัน 220,000 ดอก ในเดือนสิงหาคมถึงกันยายน และดอกไฮเดรนเยียร์ในฤดูร้อน, ดอกคอสมอสในฤดูใบไม้ร่วง และในช่วงเมษายน ยังสามารถชมดอกซากุระ ที่ปลูกอยู่บริเวณรอบๆ สวนได้ด้วย ในวันที่อากาศดี ๆ ไม่มีเมฆเราสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิจากสวน ฮะนะโนะ มิยะโกะ แห่งนี้ได้ โดยมีฉากหน้าเป็นทุ่งดอกไม้ สวนแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบสูง จึงทำให้อากาศดีทั้งปีแม้แต่ในหน้าร้อน ในสวนแบ่งเป็นหลายโซนให้เราได้เลือกเดินตามความชอบเลยค่ะ โซนนี้มีดอกไม้หลากสี ด้านหลังเป็นทิวสน โซนดอกบานชื่น ดอกทานตะวัน โซนน้ำตกเมียวจิน (Myojin) เป็นน้ำตกสูง 10 เมตร ยาว 80 เมตร หากมากันเป็นครอบครัวที่มี เด็ก ๆ ที่นี่ก็มีสนามเด็กเล่นและมีเครื่องเล่นต่าง ๆ ในบริเวณใกล้ ๆ กับน้ำตก และยังเป็นที่สำหรับปิคนิคด้วย ทั้งบริเวณศาลา หรือใต้ร่มไม้ เพราะในบริเวณนี้ร่มรื่นมากค่ะ ในบริเวณใกล้ ๆ น้ำตกนี้เป็นที่ปลูกดอกไฮเดรนเยียร์หลากสี ซึ่งจะออกดอกในหน้าร้อน ที่สวนนี้ยังมีโรงเพาะชำ และขายต้นไม้และพันธุ์ไม้ด้วย รวมทั้งยังมีกิจกรรมเก็บดอกบานชื่น และข้าวโพดด้วย สำหรับคนที่ต้องการหาประสบการณ์เป็นชาวไร่ สุดท้ายคือ โดมเรือนกระจก ซึ่งในโดมกระจกนี้มีไม้ดอกไม้ประดับอยู่ในโดมนี้มากกว่า 130 สายพันธุ์ หรือประมาณ 8,000 ต้น โดยเฉพาะกล้วยไม้ หลายพันธุ์สวย ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ ในโดมยังมีร้านขายของที่ละลึก และร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย การเดินทางมาที่สวนนี้ หากนั่งรถไฟมาจากโตเกียวก็ให้มาลงที่สถานีฟูจิซัง แล้วเดินออกมาทางด้านหลังสถานีเพื่อไปต่อ "รถฟูจิโกะ บัส" โดยสามารถซื้อตั๋วรถบัสได้จากที่สำนักงานขายตั๋วแล้วข้ามมารอรถบัสฝั่งตรงข้าม จากสถานีรถบัสไปที่สวนให้ลงที่ป้ายหน้าสวนได้เลยค่ะ ชื่อป้ายว่า “Hana no Miyako Koen” อยู่ฝั่งเดียวกันกับสวนเลยค่ะ จากสถานีรถบัสมาที่สวนก็เป็นระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร หรือประมาณ 30 นาที พอเรามาถึงหน้าสวน ก็จะเห็นสวนดอกไม้รอต้อนรับอยู่ ตอนที่เราไปจะเป็นดอกบานชื่นหลากสีค่ะ เราสามารถซื้อตั๋วได้ที่ทางเข้าสวน และด้านใกล้ ๆ กับโดมจะมีตู้ล้อคเกอร์ สำหรับฝากของด้วย หากใครไม่ต้องการเดินก็มีจักรยานให้เช่าสำหรับขี่ในสวนค่ะ ค่าเข้าชมสวน: ราคา 300 เยน – 500 เยน (แล้วแต่ช่วงเวลา/ในฤดูหนาวเข้าฟรี) เราไปเดือนสิงหาคม จ่ายไป 500 เยนค่ะ เวลาเปิดบริการ: เวลา 8:30 -17:30 น. (16 เม.ย. -15 ต.ค.) เวลา 9:00 – 16:30 น. (16 ต.ค. – 15 เม.ย.) หากเดินเล่นที่สวนแล้วมีเวลาเหลือ ๆ เราสามารถนั่งรถบัสจากหน้าสวนไปลงที่สถานีคาวากูชิโกะ เราก็ไปรอรถบัสฝั่งตรงข้ามกับสวน เรายังมีเวลาเหลือ ๆ ก็ไปเดินเล่นใกล้ ๆ กับสถานีรถไฟคาวากูชิโกะ เป็นการฆ่าเวลาก่อน หลังจากนั้นค่อยนั่งรถไฟกลับโตเกียวจากที่สถานีคาวากูชิโกะได้เลย ซึ่งจะสะดวกมากเพราะว่าเป็นต้นสถานี เราใช้บริการรถไฟ Fuji Excursion ซึ่งเป็นรถด่วนที่ไม่ต้องไปเปลี่ยนขบวน ที่ JR Otsuki และไม่ต้องจ่ายค่ารถไฟเพิ่มด้วยค่ะ ถือว่าสะดวกและเร็วมากและยังใช้ Tokyo Wide Pass ได้ด้วย และเราสามารถจองที่นั่งไว้ล่วงหน้าได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ถ้าเป็นวันหยุดหรือช่วงเทศกาลควรจะจองที่นั่งล่วงหน้าไม่อย่างนั้นจะไม่มีที่นั่งค่ะ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งสวนดอกไม้สวย ๆ ในญี่ปุ่นที่สามารถไปเที่ยวได้หลาย ๆ ฤดู และเป็นอีกหนึ่งความประทับใจของเราในทริปเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูร้อนที่ผ่านมาค่ะ เพราะเที่ยวได้สบาย ๆ แบบไม่ร้อนแม้จะเดินเล่นกลางทุ่งในเวลากลางวัน @ภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน #เที่ยวต่างประเทศ #เที่ยวญี่ปุ่น