How to ให้สภาพแวดล้อมช่วยเราทำงาน

คุณทราบหรือไม่ว่า สิ่งแวดล้อมรอบตัวเรานั้นมีอิทธิพลต่อการทำงานอย่างมากมายมหาศาล บางทีเราอาจจะลืมไปแล้วว่า บรรยากาศรอบกาย ผู้คนรอบข้างและเสียงรบกวนต่าง ๆ นั้นมีส่งผลต่องานของเรา ให้ต้องใช้พลังงานมากขึ้นหรือน้อยลงตามสภาพแวดล้อมเหล่านั้น

จะดีกว่าหรือไม่ หากเราสามารถใช้พลังงานน้อยลงต่องานหนึ่งชิ้น โดยไม่ต้องกลับบ้านแล้วมาเหนื่อยเกินทนจนสลบคาเตียงนอน หรือต้องรีดสมาธิขั้นสูงสุดออกมาเพื่อทำงานหนึ่งอย่างยากลำบาก ผู้เขียนขอนำเสนอ ให้ใช้สภาพแวดล้อมช่วยเราในการทำงานด้วยอีกแรง

รูปภาพจาก pexels.com

ว่ากันด้วยตรรกะบ้าน ๆ สมมุติว่าเราเลือกที่จะไปทำงานเขียนหนังสือในร้านหมูกระทะ ซึ่งมีเสียงรบกวนตลอดเวลา มันคงต้องใช้พลังงานเกินแรงพอสมควรแน่ เพราะงานเขียนหนังสือเป็นงานที่ต้องการบรรยากาศสงบ ๆ ให้ความคิดโลดแล่นและเขียนได้อย่างลื่นไหล ซึ่งเป็นคนละสถานที่กันอย่างสิ้นเชิง

กดดัน กดดัน เครียด โอ้ยเครียด! รู้ซึ้งเลยจริง ๆ ที่เขาเล่าว่า เหนื่อยงานไม่เท่าเหนื่อยคนน่ะ ฉะนั้นถ้าเปลี่ยนสภาพแวดล้อมไม่ได้ทั้งหมด ก็อาจจะต้องเปลี่ยนเจ้าแว่นตาที่มองโลกของเราบ้าง ลองหาหนังสือจำพวกในหมวดจิตวิทยาเราจะเห็นมุมมองที่มากกว่าปกติ และพยายามสร้างบรรยากาศเท่าที่เราจะสบายใจที่สุดก็ได้นะ

รูปภาพจาก pexels.com

ลองดูด้วยวิธีง่าย ๆ เช่นหาดอกไม้มาวางไว้ข้าง ๆ โต๊ะทำงานดีไหม หรือหารูปภาพที่เรามองแล้วรู้สึกสบายใจ เพราะเวลามนุษย์มองธรรมชาติอันแสนสบายตาก็จะเกิดความรู้สึกสงบขึ้นมาได้โดยง่าย หรือลองเปิดเพลงคลอเบา ๆ ระหว่างทำงาน ค้นกูเกิ้ลหาเพลงที่ช่วยเสริมสมาธิก็ช่วยเราได้เยอะนะ เปลี่ยนออกไปเดินเล่นในช่วงเวลาว่าง ๆ ให้จิตใจที่ฟุ้งซ่านยุ่งเหยิงของเราหย่อนคลายหายกังวลลงบ้างก็ดีเหมือนกัน

แต่อย่างว่างานแต่ละงานก็อาจจะต้องการบรรยากาศในการทำงานไม่เหมือนกัน บางงานก็ต้องการความกระตือรือร้น บางงานต้องการความสงบ นั่นเป็นสิ่งที่เราต้องเลือกสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมกับการทำงานของเรา เพราะสภาพแวดล้อมนั้นทั้งช่วยและขัดขวางตัวเราได้เหมือนกัน เราจึงต้องรับเมื่อกับมันเท่าที่เราจะทำได้