His Life - The Musical ละครเพลงชีวิตของ "ผู้ที่รักคุณมากยิ่งกว่าตัวเขาเอง"ละครเวทีที่ถ่ายทอดเรื่องราวความจริงจากพระคัมภีร์ไบเบิ้ล เสมือนตัวอักษรที่บันทึกไว้นั้นมีชีวิตด้วยตัวละคร ฉาก เครื่องแต่งกาย ที่จะนำพาให้เราย้อนเวลากลับไปในดินแดนแห่งพันธสัญญา เอกสารประกอบการรับชมเรื่องราวที่แสนยิ่งใหญ่นี้ ได้เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว และได้เปิดทำการแสดงให้ได้ชมกันแบบฟรี ๆ ถึง 8 รอบด้วยกัน ในระหว่างวันที่ 15-18 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งการแสดงทุกรอบบัตรก็ SOLD OUT เลยจ้า เต็มหมดทุกที่นั่ง ทุกรอบเลยนะคะผู้คนล้นหลามเราได้มีโอกาสไปดูในรอบวันที่ 17 สิงหาคม ซึ่งเป็นรอบบรรยายภาษาอังกฤษ ก็จะมีชาวต่างชาติจูงลูก จูงหลานมาชมกันแน่น GMM Live House กันเลยทีเดียวบัตรชมการแสดงHis Life - The Musical เปิดทำการแสดงมาแล้วทั่วโลก และมีผู้ชมมากกว่า 40 ล้านคน!และเป็นละครเพลงที่ได้รับรางวัลในหลายสาขา ได้แก่- รางวัลการกำกับการแสดงยอดเยี่ยมแห่งปี- รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จาก Dove Awards เดอะนิวยอร์กไทมส์ และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมายHis Life - The Musical ได้ถูกยกย่องให้เป็น "สื่อที่ดีงาม มีคุณค่าและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตได้อย่างงดงามมากกว่าแค่เรื่องราวทางศาสนา ละครเพลงชุดนี้นำความเพลิดเพลินและความสุขมาสู่ทุกคนในครอบครัว"ก่อนเริ่มทำการแสดงตลอดระยะเวลาในการแสดงอนุญาตให้ถ่ายภาพนิ่งโดยไม่ใช้แฟลชได้นะคะ แต่ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพเคลื่อนไหวค่ะก่อนเริ่มทำการแสดงนั้น ทางคณะนักแสดงจะออกมาร่วมกันร้องเพลงและเต้นรำ โดยให้ผู้ชมมีส่วนร่วมไปพร้อม ๆ กันค่ะแอบเห็นหลายคนเต้นจนลืมลูก ลืมหลานที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันไปเลย 555ไม่ต้องกลัวจะร้องไม่ได้ เพราะมีซับคาราโอเกะให้ร้องตาม^^พอการแสดงใกล้จะเริ่มขึ้น เรารู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ เลย เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ดูการแสดงละครเวที ถึงแม้จะได้ดูในรอบภาษาอังกฤษ ก็ไม่ได้กังวลว่าจะดูไม่รู้เรื่อง เพราะว่าเคยร่ำ เคยเรียนวิชาคริสตศาสนามาบ้างค่ะและในฉากที่มีการประสูติของพระเยซู / ราตรีสงัด (NATIVITY / Silent Night) เราซาบซึ้งไปกับเสียงร้องของนักแสดง และเผลอร้องเพลงตามไปอย่างไม่รู้ตัว นึกถึงตอนเด็ก ๆ ที่ครูสอนให้ร้องเพลงนี้ในคืนวันคริสต์มาสSilent Nightยอมรับว่าทั้งฉาก แสง สีเสียง เสื้อผ้า หน้าผม คือทุกอย่างมันดีจริง ๆ ด้วยเนื้อหาชีวิตของพระเยซูคริสต์ตั้งแต่การประสูติจนถึงเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ ตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมงเต็ม รู้สึกทึ่งในการแสดงของนักแสดงทุกคนมาก ๆ เลยโดยเฉพาะคุณ Adam Richards ผู้ที่รับบทเป็น "Jesus" เขาทำให้เราเชื่อสนิทใจเลยว่า เขาคือพระเยซูจริง ๆเหมือนจนขนลุกฉากสำคัญที่น่าประทับใจอีกฉากหนึ่งที่ไม่กล่าวถึงคงไม่ได้นั่นก็คือ ฉากอาหารมื้อสุดท้าย / ชาโลม "สันติสุข" (THE LAST SUPPER / Shalom)งดงามราวกับภาพวาดฉากที่สำคัญและสุดแสนสะเทือนใจที่สุด ก็คือ ฉากการตรึงกางเขน / ชีวิตพระองค์เพื่อชีวิตฉัน (CRUCIFIXION / His Life for Mine)ฉากที่พระเยซูถูกตรึงกางเขน ซึ่งคุณอดัมแสดงออกมาถึงความเจ็บปวดได้ดีเยี่ยม...รู้สึกเศร้าใจมาก ๆ เลยค่ะบีบหัวใจสุดแล้วฉากนี้ต้องขอบอกว่า...ขอบคุณทีมงานทุกท่านของ His Life - The Musical Live in Bangkok ที่ทำให้พวกเราได้มีส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในจำนวนผู้ชมหลายสิบล้านคนทั่วโลก ที่ได้มีโอกาสรับชมการแสดงที่มีคุณค่าเช่นนี้His Life - The Musical Live in Bangkok ปิดฉากกันไปด้วยรอยยิ้ม และความประทับใจอย่างที่สุดเลยค่ะ