วัดเทพธิดาราม วรวิหาร .... วัดในกรุงเทพ ที่เราได้ยินชื่อกันบ่อย แต่บางท่านอาจไม่เคยรู้ว่าตั้งอยู่ที่ไหน และอาจไม่เคยไปด้วยซ้ำ วัดนี้มีประวัติมากมาย วัดเทพธิดาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ตั้งอยู่ริมถนนมหาไชย ใกล้ๆวัดราชนัดดา เป็นวัดที่พระปราค์ทั้งสี่ทิศ มีบุษบกรองรับพระประธานที่สวยงามมาก รวมถึงจิตกรรมฝาผนังสวยงามวิจิตร ศิลปโดยช่างสมัยรัชกาลที่3 เป็นวัดที่กวีเอกของไทย ท่านสุนทรภู่ เคยพำนักเมื่อครั้งที่บวชเป็นพระภิกษุ ช่วง พศ. 2383-2385 ซึ่งปัจจุบันกุฎิของท่านได้ถูกปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์สุนทรภู่ ให้คนรุ่นหลังเข้าขม หาความรู้ได้ และ เป็นวัดที่มีภิกษุณี มากที่สุดในโลกอีกด้วย วัดนี้สร้างจากความรักของพ่อที่มีต่อลูกสาว โดยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่3) ทรงสร้างเพื่อเฉลิมพระเกียรติให้พระธิดาของพระองค์ คือ กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ หรือ องค์หญิงวิลาศ แล้วพระราชทานชื่อว่าวัดเทพธิดาราม เดิม ชื่อว่าวัดบ้านพระยาไกรสวนหลวง สร้างในปี พศ 2379 และสร้างเสร็จเรียบร้อยในปี พศ 2582 โดยใช้ชื่อจากผู้ที่ถวายที่ดินสร้างวัด ที่เดิมเป็นทุ่งไร่ ทุ่งสวน เจ้าของเดิมชื่อพระยาไกร จึงตั้งชื่อตามเจ้าของที่ก่อน ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดเทพธิดาราม (อัปสรสุดาเทพ) หรือ วัดของลูกสาว ไฮไลท์เด่น 1. พระพุทธเทววิลาส หรือ หลวงพ่อขาว หรือ พระหยกขาว พระประธานในพระอุโบสถ ปางมารวิชัย เป็นพระที่ทำจากหยกขาวใสบริสุทธิ สวยงามมาก เล่ากันว่าเป็นพระคู่กับพระแก้วมรกตที่อัญเชิญมาจากเมืองลาว 2. วิหารภิกษุณี แห่งเดียวในโลกที่ปดิษฐานรูปหล่อหมุ่พระอริยสาวิกา หรือรูปหล่อภิษุณี ที่หล่อด้วยดีบุก ถึง 52 องค์ อายุเกินร้อยปี โดยทั้ง 52 องค์จะมีอาริยบทที่แตกต่างกัน ประดิษฐานหน้าแท่นเบื้องหน้าองค์พระประธานในอุโบสถ วิหารภิษุณี เป็นสัญลักษณ์ ของผู้หญิงที่บรรลุธรรม เป็นพระอรหันต์ คู่ควรต่อการกราบไหว้ หมายถึงสตรีผู้สูงศักดิ์ 3. หอไตร ซึ่งได้รับรางวัลดีเด่นจากยูเนสโก เป็นมรดกทางวัฒนธรรม งายช่างฝีมือแบบดั้งเดิม เป็นหอไตรที่สวยงามด้วลักษณะทงสถาปัตยกรรมไทย ที่มีอิทธิพลจากจีน (รัชกาลที่ 3 ทรางชอบค้าขายกับชาวจีน) 4. กุฏิสุนทรภู่ ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์สุนทรภู่ กวีเอกของไทย แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ที่เก็บรักษาเครื่องใช้เก่าสมัยที่ท่านบวชเป็นภิกษุ และพำนักอยู่ที่วัดนี้ และ รวบรวมสื่อความรู้ ทัศนโสต สื่อเทคโนโลยี ที่เกี่ยวข้องกับผลงานของท่านเพื่อเป็นแหล่งค้นคว้า หาความรู้ และ มีพระมัคคุเทศ ให้บรรยาย แนะนำ อย่างดี ท่านสามารถเช่า เปลี่ยนเครื่องแต่งกายในสมัยนั้นได้ โดยติดต่อเจ้าหน้าที่ด้านหน้าอาคารพิพิธภณฑ์ได้เลย ศิปการตกแต่งในวัดได้รับอิทพลผสมผสานศิลปจีน โดยช่างฝีมือสมัยรัชการที่ 3 สรรสร้างสะท้อนถึงความเป็นหญิง อ่อนช้อย และ รูปปั้น สัญลักษณืต่างๆในวัดก็สะท้อนความเป็นหญิง สำหรับสถาปัตนกรรมรวมๆ จะมีความอ่อนช้อย รายละเอียดต่างๆสะท้อนยุคสมัยนิยม ตกแต่งประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ ไม่มีช่อฟ้า ในระกาและหางหงส์ ซึ่งเป็นพระราชนิยมในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชการลที่ 3) และการสร้างวัดในสมัยนั้น เรายังพบเห็นรูปปั้น หงส์ หมายถึงเจ้าแห่งสัตว์ปีก หมายถึง สตรีสูงศักดิ์ ที่มาพร้อมความสวยงาม มีคุณธรรมและความดีงาน (ฮองเอา) ที่มีความคู่ควรกับ มังกร (ฮ่องเต้) ตามความเชื่อของจีน หากมีเวลาหรือผ่านไปแถวนั้น ลองไปเที่ยวชม สัมผัสสถาปัตยกรรมสมัยรัชกาลที่ 3 ได้นะคะ บริเวณนั้นมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายเลยคะ ข้อมูลทั่วไป ตั้งอยู่แขวง สำราญราษฎร? เขตพระนคร กรุงเทพฯ เป็นอารามหลวงชั้นตรี เข้าชมฟรี เปิด 8:00 - 17:00 เพิ่มเติม ด้านข้างวัดมีร้านอาหารอร่อยๆเยอะเลยคะ เช่น ร้านข้าวต้มเป็ด ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ และตรงข้ามฝั่งถนนมหาไชยแนะนำผัดไทยพิศมัย ถ้าช่วงเย็นสามารถจองคิวเพื่อลองชิมไข่เจียวเจ้ไผ่ มิชลินสตาร์ สตรีทฟูด ได้นะคะ (รับเงินสดเท่านั้น ไข่เจียว 800-1200 บาท อาหารอื่น เช่นผัดซีอิ้ว ราดหน้า โจ๊กแห้งราคาค่อนข้างโหด เตรียมเงินให้เยอะหน่อยนะคะ ไว้โอกาสหน้าจะมาเล่าเรื่อเจ้ไผ่ ให้ฟัง) ราคาไม่ดุคะ ความอร่อยได้เลย อยู่ข้างประตูวัด ร้าเก่าแก่