อื่นๆ

วิญญาณอาฆาต

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
วิญญาณอาฆาต

ชีวิตจริงยิ่งกว่าในละครเราว่าคำพูดประโยคนี้ใช้กับชีวิตของเราได้เป็นอย่างดี  ชีวิตของเราต้องพบกับความสูญเสียและอุปสรรคในชีวิตมาทั้งชีวิต หากใครรู้จักเราคงจะพูดได้ว่าชีวิตเรามันไม่ได้ง่ายและยิ่งกว่าในละคร ทำไมชีวิตเราจะต้องเจออุปสรรคมากมาย ความสูญเสียที่มากเกินกว่าคนคนหนึ่งจะรับไหว มันยากลำบากมากที่จะก้าวผ่านสิ่งเหล่านั้นไปได้บางอย่างสร้างบาดแผลที่ร้ายแรงและทิ้งรอยแผลเป็นที่มองไม่เห็นไว้ในหัวใจ เราคิดได้เพียงแค่ว่าชาติที่แล้วเราคงทำกรรม หนักไว้ชาตินี้จึงต้องเกิดมาเพื่อใช้กรรม

คุณเชื่อไหมว่าเจ้ากรรมในเวรมีจริง สำหรับเรามันจริงยิ่งกว่าจริง เราเชื่อว่าเจ้ากรรมในเวรมาทั้งในรูปแบบมนุษย์และสิ่งที่มองไม่เห็น  ในรูปแบบมนุษย์มันอาจทำร้ายเราได้มากกว่าแต่ใช่ว่าสิ่งที่มองไม่เห็นเค้าจะไม่มาทวง สิ่งที่เราติดค้างเขาไว้

Advertisement

Advertisement

พระพุทธบาท

ในช่วงอายุประมาณ 20 กว่าๆ ซึ่งปีนั้นเป็นปีชงของเรา เราจำความฝันครั้งนั้นได้เป็นอย่างดี เพราะมันน่ากลัวมาก

คืนหนึ่งที่เราหลับไปและเราฝันเห็นท่าน้ำแห่งหนึ่งมีผู้หญิงผมยาวใส่ชุดสีขาวนั่งอยู่เราเดินเข้าไปใกล้ผู้หญิงคนนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้หญิงคนนั้นหันมาและจ้องมองเราด้วยสายตาที่อาฆาตแค้น ส่งผ่านอารมณ์ความเกลียดมาอย่างเต็มที่ อารมณ์ที่เรารับรู้ได้คือเค้าเกลียดเราเกลียดมากเพราะเราไปทำร้ายเขา ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันคือเรื่องอะไรเรารับรู้ได้เพียงแต่ความเกลียด ความอาฆาตพยาบาทและจองเวร ซึ่งเรารู้สึกกลัวมากและตกใจตื่น เราไม่เข้าใจว่าเราไปทำร้ายใครด้วยเรื่องอะไร ถึงทำให้เขาเกลียดเราได้ขนาดนี้

เราเพียงทำได้แค่ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เท่านั้นและขออโหสิกรรมแก่เธอคนนั้น เราคิดว่าเรื่องคงจะจบลงแล้วเพราะทุกครั้งที่เราพบสิ่งลี้ลับเราจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้แล้วเราก็จะไม่พบเจอสิ่งสิ่งนั้นอีก

Advertisement

Advertisement

พระ

ต่อมาเป็นระยะเวลาห่างกันไม่นาน ในคืนหนึ่งในช่วงเวลาครึ่งหลับครึ่งตื่น  เหมือนเราขยับตัวไม่ได้และสักพักเรารู้สึกได้ว่าเหมือนตัวเราลอยขึ้นไปในท่านอนหงาย ค่อยๆลอยขึ้นไปจนใกล้เพดานขึ้นเรื่อยๆ เราลองหันกลับมามองบนเตียงปรากฏว่าภาพที่เราเห็นคือตัวเรากำลังนอนหลับอยู่บนเตียง จากนั้นเราก็กลัวว่าตัวเองจะลอยไปชนฝาเพดาน เราจึงพยายามจะกลับไปที่ร่างของตัวเองแต่ว่าเราก็ไม่อาจฝืนได้ เราลอยต่อไปเรื่อยๆใกล้เพดานขึ้นไปทุกทีๆ จากนั้นอยู่ดีดีก็มีผู้หญิงโผล่หน้ามาจากเพดานน่ากลัวมาก แต่สิ่งที่เราจำได้ดีคือสายตาอาฆาตแค้นของเธอ. เธอคือคนเดิมคนที่เราเคยฝันเห็น เรากลัวและตกใจเป็นอย่างมาก ในความรู้สึกเราจ้องตากันนานมากเราพยายามอ้อนวอนและพูดกับเธอขอโทษและขอให้เธอให้อภัยเราไม่รู้ว่าเราเคยทำอะไรผิดมาก่อนเราจำไม่ได้เราทำได้เพียงขอให้เธออโหสิกรรมให้และเราจะทำบุญไปให้ แต่เหมือนเธอจะไม่ยอมรับและไม่ต้องการ เหมือนเธออยากให้เราตาย ตอนนั้นเราพยายามสวดมนต์และนึกถึงสิ่งศักสิทธิ์และแม่ของเราที่เสียชีวิตไปแล้ว  ขอให้ช่วยเราด้วย. จากนั้นไม่นานเราก็ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียง เราไม่แน่ใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันคือความฝันหรือมันคืออะไร

Advertisement

Advertisement

หลังจากเหตุการณ์นั้นเราพยายามเข้าวัดทำบุญ อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลและขออโหสิกรรม กลับวิญญาณผู้หญิงคนนี้เป็นประจำ แทบจะทุกอาทิตย์ เรารู้สึกได้ว่าเธอคนนั้นยังวนเวียนอยู่กับเราไม่ไปไหน แต่การที่เราทำบุญให้เธอคนนั้นและนึกถึงเธอขอโหสิกรรมกับเธอ ความเกลียดความอาฆาตแค้นเริ่มค่อยๆจางลงแต่เธอก็ยังไม่อโหสิกรรมให้เรา เรายังรับรู้ถึงแรงอาฆาตทุกครั้งที่เราไม่สบาย เราพยายามทำบุญและขออโหสิกรรมจนเวลาผ่านไปประมาณ 3 ปี  จนเรารับรู้ได้ว่าเธอให้อภัยและไม่ตามวนเวียนอยู่รอบตัวเราแล้ว เราอาจจะคิดไปเอง แต่หลังจากนั้นเราไม่เคยฝันเห็นเธอคนนั้นอีกเลย

อย่างที่เคยบอกว่าถ้ามันไม่เกิดขึ้นกับตัวเองใครจะเชื่อเรื่องแบบนี้ ถ้ามันไม่เกิดขึ้นกับเราเองเราก็ยากที่จะเชื่อว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจริงๆ เราเชื่อว่าเธอคนนั้นต้องการมาทวงคืนสิ่งที่เราได้ทำไว้ในอดีตชาติ

เหตุการณ์นี้สอนให้เราพยายามใช้ชีวิตโดยที่ไม่ทำร้ายใคร และเปลี่ยนเราให้กลายเป็นคนที่แคร์ความรู้สึกของคนรอบตัวมากจนเกินไป ทำให้บางครั้งคนที่ไม่ดีก็เอาจุดนี้มาทำร้ายเรา  แต่สำหรับเรา เราให้อภัยและไม่คิดจะแค้นใครเพราะเราไม่อยาก จะผูกเวรผูกกรรมกับใครต่อไป หากท่านไม่เชื่อว่ามันเกิดเรื่องนี้ขึ้นจริงๆ อย่างน้อยก็ขอให้ท่านใช้ชีวิตโดยไม่เบียดเบียนใคร

เครดิตรูปภาพ : Hummingbird

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์