Juice Point ร้านน้ำผลไม้ปั่นและน้ำผลไม้สกัดเย็นในย่านสามเสน เป็นหนึ่งในร้านที่เรา Highly Recommended ค่ะ อยากแนะนำให้ทุกคนได้ไปลองมาก ด้วยความมั่นใจว่าพอได้ชิมเมนูน้ำที่ร้านแล้วล่ะก็ ทัศนคติที่มีเกี่ยวกับน้ำผักน้ำผลไม้จะเปลี่ยนไปเลยค่ะ Juice Point เป็นร้านน้ำผักผลไม้เพื่อสุขภาพแบบ 100% ร้านเล็ก ๆ อยู่ตรงปากซอยสามเสน 20 ซึ่งพอพูดถึงร้านน้ำผลไม้ ทั้งผลไม้ปั่น ผลไม้สกัดเย็น หรือแบบไหนก็ตาม หลายคนก็คงคิดไปในภาพเดียวกันใช่มั้ยคะ ว่าเป็นร้านน้ำทั่วไปที่ไหน ๆ ก็มี ตามถนนเดินไปก็เจอตั้งหลายร้าน บางร้านเอาผลไม้สี่ห้าชิ้นใส่แก้วไว้ให้ลูกค้าเลือกแล้วค่อยปั่นก็มีตั้งเยอะตั้งแยะ มันจะต่างกันตรงไหน? คำตอบก็คือ ต่างกันมากอย่างแน่นอน ด้วยความสดของผักผลไม้ที่ทางร้าน Juice Point คัดเลือกมาเองอย่างดี ปรับสูตรจนแน่ใจว่าทานง่าย อร่อย ได้คุณประโยชน์จากวัตถุดิบอย่างเต็มที่ และไม่มีการปรุงแต่งเพิ่มเติมใด ๆ เลย รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างเครื่องปั่นหรือเครื่องสกัดก็เป็นอุปกรณ์เกรดดี ไม่เหมือนที่เราเห็นในตลาดนัดทั่ว ๆ ไป พี่โซเจ้าของร้าน เล่าให้เราฟังว่าจุดเริ่มต้นการทำร้านนี้มาจากการที่อยากดูแลตนเอง เนื่องจากสุขภาพของตัวเองและสมาชิกในครอบครัวไม่ค่อยแข็งแรง แต่เมื่อหันมาใส่ใจกับการรับประทานผักผลไม้มากขึ้น ก็เห็นผลกับตนเองและคนใกล้ตัวชัดเจนว่าสุขภาพดีขึ้นจริง ๆ อาการเจ็บป่วยน้อยลง ผลการตรวจสุขภาพโดยรวมก็ดีขึ้น จึงตั้งใจทำร้านนี้ขึ้นมาเพื่ออยากจะส่งต่อสุขภาพดีให้ทุก ๆ คนค่ะ แค่ดูจากตัวร้านก็รู้แล้วว่าเป็นร้านที่เกิดจากความใส่ใจจริง ๆ เพราะถึงแม้จะเป็นวันที่ร้านต่าง ๆ ต้องปิดให้บริการนั่งทานในร้าน โดยให้ซื้อแบบกลับบ้านได้เท่านั้นรวมถึงร้านนี้ด้วย แต่เรายังเห็นได้เลยว่าร้าน Juice Point ตกแต่งด้วยความรัก ด้วยความตั้งใจ ขนาดเมนูทุกแผ่นและรูปภาพที่ตกแต่งผนังทั้งหมดยังวาดเองด้วยมือ สวยมากกกกก (พี่ผู้ชายที่ร้านเล่าให้ฟังว่า ทุกอย่างในร้านนี้ Hand Made ล้วน ๆ เลยนะ ยกเว้นชั้นวางของกับโต๊ะเก้าอี้ไม่กี่ตัวเท่านั้นที่ซื้อมา โอ้โห!) พี่เค้ายังบอกด้วยความเสียดายว่าเพราะเป็นช่วงนี้และเป็นวันเสาร์ที่ร้านเปิดถึงแค่เที่ยง ถ้าเรามาช่วงปกติหรือวันธรรมดา เค้าจะจัดผลไม้เต็มร้าน จะถ่ายรูปสวยกว่านี้อีกนะ ซึ่งเราก็เสียดายเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะเดี๋ยวเราจะไปใหม่ครั้งหน้าแน่ ๆ และสำหรับทาสแมววว วันที่เราไปที่ร้าน เราเจอน้อง ๆ ด้วยค่ะ ขี้อ้อน น่ารักมากเลยอะะะ ที่จริงมีน้องวิเชียรมาศอีกตัว น่าร๊ากกก แต่ขออภัยที่ไม่มีรูปให้ดูเลย น้องวิเชียรมาศกระดุ๊กกระดิ๊กตลอด ถ่ายออกมาแล้วรูปเบลอไปหมดค่ะ 555+ มาดูเมนูกันบ้างดีกว่า ร้าน Juice Point มีเมนูน้ำผักผลไม้หลากหลายสูตรให้เลือก จะสั่งแบบสกัดเย็นหรือแบบปั่นก็ได้ ตามนี้เลยค่ะ ตอนเราเห็นเมนู เราก็ยืนงงไปพักหนึ่งเพราะตาลายเลือกไม่ถูก คิดว่าหลายคนคงเป็นเหมือนกัน แต่ไม่ต้องกังวลเลยเพราะสามารถสอบถามและขอคำแนะนำจากพี่โซเจ้าของร้านได้ พี่เค้าแนะนำอย่างละเอียดและใส่ใจ ถามเราก่อนเลยว่าชอบรสไหน อยากได้แนวสดชื่นที่ทานง่าย รสเปรี้ยว รสหวาน หรือยังไง อยากได้น้ำปั่นที่ช่วยเรื่องอะไร หรือถ้าจะซื้อไปฝากผู้ใหญ่ล่ะก็ พี่เค้าก็มีคำแนะนำดี ๆ ให้ด้วย อย่างของเราหากจะซื้อไปฝากคุณแม่พี่เค้าก็แนะนำเป็นสูตรที่มีส่วนผสมของขิง เพราะเป็นสูตรที่ลูกค้าผู้ใหญ่ส่วนมากชื่นชอบ หากสงสัยว่าในแต่ละสูตรมีส่วนประกอบอะไรบ้าง ก็สามารถดูในรูปเมนูได้เลย มีบอกไว้อย่างละเอียดค่ะสำหรับราคา น้ำผลไม้สกัดเย็นทุกสูตร แก้วละ 50 บาท ส่วนน้ำผลไม้ปั่นมีสองราคาให้เลือก หากชอบหวานแบบเติมน้ำเชื่อม ราคาแก้วละ 45 บาท แต่ขอแนะนำแบบที่ไม่เติมน้ำเชื่อมดีกว่า ราคา 65 บาท แพงขึ้นนิดเดียวแต่ได้คุณค่าของผลไม้ที่เพิ่มขึ้นมาเต็ม ๆ ที่ต้องระบุชัดเจนอย่างนี้ เพราะน้ำผลไม้ที่เราทานแล้วได้รสหวานนั้น ไม่ได้มาจากการเติมน้ำตาล น้ำเชื่อม หรือการปรุงเพิ่มเติมอื่นใด แต่มาจากส่วนผสมที่เป็นผักผลไม้สดคุณภาพดีล้วน ๆ ค่ะ ตรงนี้แหละที่ต่างจากร้านน้ำผลไม้ทั่วไป ที่มักจะทั้งเติมน้ำเชื่อม เติมสารแต่งสีแต่งกลิ่นต่าง ๆ ที่ช่วยให้น่าทาน แต่คุณค่าของน้ำผลไม้สดจริง ๆ กลับลดลงจนแทบไม่มี และเมนูที่เราลองก็คือ น้ำสูตร A แบบปั่น ไม่ผสมน้ำเชื่อม ราคา 65 บาท ส่วนผสมก็คือ แตงโม สับปะรด มะนาว และส้ม รสชาติเปรี้ยวหวานอร่อยสดชื่นสุด ๆ น้ำสูตร J แบบสกัดเย็นที่คนที่ไปด้วยกันเลือกชิมค่ะ แก้วนี้ราคา 50 บาท ซึ่งประกอบด้วย แอปเปิ้ล มะนาว ฝรั่ง พาสลีย์ สับปะรด มะเฟือง เคล และรากขิงค่ะ (ถ้าใครสงสัยเรื่องการสกัดเย็น มันคือการคั้นน้ำผักผลไม้ออกมาด้วยเครื่องสกัดที่มีแรงกดสูง และแน่นอนว่าไม่ผ่านความร้อนเลย ทำให้วิตามินในน้ำผักผลไม้อยู่ครบถ้วน และเพราะเป็นการสกัดเอาเฉพาะน้ำเท่านั้น จะทำให้ไม่มีเศษกากของผักผลไม้มาปนค่ะ) พอพูดว่าเป็นน้ำผักปุ๊บ เรามักจะคิดว่ารสชาติต้องขม ๆ กลืนยากแน่ ๆ เลย ยิ่งถ้าเป็นเด็ก ๆ ได้ยินนี่ก็คือแทบวิ่งหนีแล้วนะ แต่เราจะบอกว่าน้ำผักสกัดเย็นของร้านนี้ที่เราได้ชิม รสชาติทานง่ายมากค่ะ ไม่มีความเหม็นเขียว ไม่ฝืดเฝื่อนคอ รสชาติไม่โหดร้ายเหมือนในจินตนาการ เข้าใจว่าสัดส่วนของผักผลไม้แต่ละอย่างที่ผสมรวมกันมันพอดิบพอดี เหมือนพี่เค้าคิดสูตรมาดีแล้วว่านี่แหละ ทานได้ทุกคนชัวร์ ที่จริงแล้วมีอีกเมนูที่ทางร้านแนะนำ คือ Wheatgrass Juice Shot น้ำต้นอ่อนข้าวสาลีเข้มข้น ซึ่งเป็น Best Seller ของร้านเลยค่ะ เค้าจะสกัดเอาน้ำจากต้นอ่อนข้าวสาลีออร์แกนิกแท้ ๆ ที่ปลูกเองเลย ตัวนี้มีสรรพคุณช่วยทั้งเรื่องบำรุงเม็ดเลือดแดง ลดระดับน้ำตาลในเลือด แถมลดไขมันในเลือดและคอเลสเตอรอลด้วย น่าเสียดายจริง ๆ ว่าวันที่เราไปของหมดเลยอดซื้อกลับมาด้วย >_ ส่วนอีก 4 สูตรเราซื้อกลับบ้านค่ะ ทางร้านบรรจุขวดพลาสติกมาอย่างดี แถมเขียนกำกับไว้บนฝาให้ด้วยว่าขวดไหนสูตรอะไร ไม่สับสนแน่นอน ในรูปบนนี้เป็นน้ำสูตร L สกัดเย็น ราคา 50 บาท ประกอบด้วยแครอท เสาวรส แอปเปิ้ลและส้มค่ะ ออกเปรี้ยวหน่อย แช่เย็น ๆ ดื่มในช่วงบ่ายที่อากาศร้อนอบอ้าว ชื่นใจค่ะ ลองคิดดูเล่น ๆ นะคะ วันหนึ่ง ๆ เราได้ทานผักผลไม้กันบ่อยแค่ไหน ยิ่งอยู่ในเมืองหลวงที่มีภาระการงานอันเร่งรีบทั้งวัน เวลาดูแลเรื่องสารอาหารแทบจะไม่มี เราเคยลองนับดู นอกจากกะเพรา ผักกาดขาว แครอท ผักบุ้งและถั่วงอกแล้ว เราก็แทบไม่ได้ทานผักชนิดอื่นอีกเลย นี่ไม่นับว่าปริมาณที่ได้ทานต่อวันนั้นน้อยมากด้วยนะ มันจะเพียงพอกับความต้องการของร่างกายได้ยังไง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็ก ๆ ที่ทานผักยากเย็น ผลไม้ก็ไม่ชอบ หรืออาจจะชอบแค่บางอย่าง กินอะไรไม่หลากหลาย เราว่านี่คือตัวช่วยของคุณพ่อคุณแม่เลยนะ เป็นหนทางแห่งสุขภาพดีสำหรับทุกคน น้ำผักผลไม้นี่ล่ะคือคำตอบ และใคร ๆ ก็รู้ว่าดื่มกันแบบสด ๆ ยังไงก็ได้คุณค่ามากกว่าน้ำผักผลไม้แบบกล่องที่มักมีการเติมสารสังเคราะห์ลงไปอยู่แล้ว เพราะการดูแลสุขภาพของตนเองและคนที่เรารักเป็นเรื่องสำคัญ จะทานอะไรก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเนอะ ^_^ อีกข้อมูลที่คนไม่ค่อยรู้ก็คือ น้ำผักผลไม้สดจะคงความสดอยู่ได้แค่ 72 ชั่วโมง หรือไม่เกิน 3 วันเท่านั้นค่ะ เกินกว่านั้นจะไม่เรียกว่าสดแล้ว คุณค่าต่าง ๆ จะเริ่มหายไป เพราะฉะนั้นน้ำผลไม้ที่เรามักเข้าใจว่าอยู่ได้นานเป็นสัปดาห์ อาจจะไม่บูดก็จริง แต่สารอาหารและวิตามินในน้ำผลไม้ก็จะเหลือน้อยแล้วล่ะค่ะ และสำหรับช่วงนี้ทางร้านเข้าร่วมโปรโมชั่น ร้านค้า True Point&Pay กับทาง TrueMoney ด้วยนะ โดยเราจะได้เงินคืน 5-10 บาท (แสกนแหลกแจกกระจาย) และทั้งได้ TruePoint เพิ่มด้วยเมื่อสแกนจ่ายด้วยแอป TrueMoney Wallet ตั้งแต่วันที่ 1 - 31 พ.ค. 63 ค่ะ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.truemoney.com/pay-to-merchant/) วิธีจ่ายก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย แค่เปิดแอปมา สแกนจ่ายเสร็จปุ๊บ ก็มีข้อความแจ้งยอดเงินคืนเข้ามาปั๊บ โดยไม่ต้องรอ ไม่ต้องลงทะเบียนอะไรให้วุ่นวาย ง่ายดายจริง ๆ ยิ่งตอนนี้ใคร ๆ ก็หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับเงินสด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 แนะนำเลยว่าการชำระเงินด้วย TrueMoney Wallet ทั้งสะดวกและปลอดภัยสุด ๆ แถมยังได้สิทธิประโยชน์ดี ๆ เพียบ ใครยังไม่มีแอป คลิกลิงค์ดาวน์โหลด TrueMoney Wallet ได้ที่ iOS / Android สำหรับใครที่อยู่ใกล้ ๆ สามารถเดินเข้าไปที่หน้าร้านได้เลย หรือสามารถติดต่อสั่งออเดอร์กับทางร้านได้ โดยมีค่าจัดส่งตามระยะทางค่ะ (พี่โซเจ้าของร้านแอบกระซิบบอกว่า หากใครอยู่ในโซนลาดพร้าวหรือจตุจักร หากสั่งไว้ล่วงหน้าและรอรับน้ำผลไม้ตอนเย็นได้ พี่เค้าสามารถไปส่งให้เองได้เลย แต่ในจุดนี้ต้องโทรติดต่อสอบถามกับทางร้านก่อนนะคะ) โดยรวมแล้วเราประทับใจร้าน Juice Point มาก ไม่ใช่แค่เฉพาะเมนูต่าง ๆ ที่รู้ว่าผ่านการคิดและออกแบบมาอย่างดีแล้วเท่านั้น แต่ความใส่ใจของพี่เจ้าของร้านที่ตั้งใจทำทุกอย่างให้ดีที่สุด จนเรารับรู้ได้ถึงความตั้งใจนั้นผ่านภาพวาดทุกภาพ ผ่านน้ำผักผลไม้ที่อยู่ในทุกแก้วและทุกขวด ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งเช่นกันที่เราอยากบอกต่อทุก ๆ คนค่ะ ไปกันนะคะ :) พิกัดร้าน Juice Point ซอยสามเสน 20 แขวงนครชัยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 เบอร์ติดต่อ : 093-1692654 Facebook Fanpage : JUICE POINT เวลาเปิดปิดร้าน (สำหรับช่วงสถานการณ์โควิด) : วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 6.30 น. - 14.00 น. วันเสาร์ เปิดตั้งแต่ 8.30 น. - 12.00 น. ปิดวันอาทิตย์ **สำหรับช่วงสถานการณ์โควิด มีบริการแบบซื้อกลับบ้านหรือ Take Away เท่านั้น และทางร้านอาจมีการเปลี่ยนแปลงเวลาเปิดปิดร้าน แนะนำให้โทรสอบถามก่อนนะคะ** สำหรับใครที่ขับรถมา จอดรถได้ที่ปั๊มน้ำมันเอสโซ่ใกล้ ๆ ได้ 30 นาที หรือจอดริมถนนตามวันเวลาที่กำหนดค่ะ :) #TrueMoney #TruePointandPay #รีวิว #อร่อยบอกต่อ #รีวิวคาเฟ่ (ภาพทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียน)