เรือนคำเที่ยงท่ามกลางตึกสูง อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสุขุมวิท เรือนไทยล้านนาบรรยากาศขรึมขลัง แม้ดูลึกลับชวนหวั่นไหวแต่ก็เปิดรับผู้มาเยือน เรือนไม้หลังนี้สร้างขึ้นในปีพ.ศ 2391 สมัยพระเจ้ากาวิละเป็นเจ้าเมืองเชียงใหม่ ก่อนนี้เคยตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำปิง เป็นเรือนล้านนาโบราณของตระกูลนิมมานเหมินทร์ ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ เรือนแม่นายคำเที่ยง เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงวิถีชีวิตคนล้านนาสมัยโบราณ เล่าเรื่องผู้ชายกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์และวิถีชีวิตแม่บ้านผู้ครองเรือน พอขึ้นบันไดเรือน เป็นห้องจัดแสดง ก่อนผลักประตูเปิดเข้าไป ให้สังเกตว่าด้านบนประตูมีแผ่นไม้แกะสลักติดอยู่ข้างบน เรียกว่าหำยนต์ เป็นเหมือนยันต์ป้องกันขับไล่สิ่งไม่ดีออกไป ภาพแรกที่มองเห็นในห้องคือหุ่นผู้ชายโชว์ลายสักหมึก คนสมัยโบราณผู้ชายไปรบ นิยมสักบริเวณช่วงไหล่ถึงเอว เพื่อป้องกันศาสตราวุธ ภูตผีปีศาจ คุณไสย ภัยอันตรายจากสัตว์ร้าย และยังมีคุณสมบัติเมตตามหานิยม ใกล้กันมีผ้ายันต์ เสื้อยันต์ และยังมีตระกรุด ดาบอาวุธประจำกาย หากเป็นหญิง วิถีชีวิตจะมีเรื่องความสวยงาม ความเชื่อเรื่องผีบรรพบุรุษ ตามธรรมเนียมชาวล้านนา ผู้หญิงจะเป็นผู้ครอบครองและดูแลเรือน มีหน้าที่สืบทอดผีปู่ย่า เครื่องประดับผู้หญิงล้านนาที่เราพอจะรู้กัน เป็นพวกปิ่นเงิน เข็มขัดเงิน กำไลข้อมือ ต่างหู การทอผ้าซิ่นตีนจกก็เป็นภูมิปัญญาอีกอย่างหนึ่งที่ถ่ายทอดมาจากแม่ถึงลูกสาว งานเย็บปักถักร้อยที่เป็นเอกลักษณ์คือการทำเครื่องนอน ได้แก่ ฟูก(ภาษาเหนือเรียกสาลี) ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม มุ้ง หมอน เราจะเห็นหมอนแบบต่างๆ 4 ชนิดได้แก่หมอนหก(หน้าหมอนแบ่งเป็นหกส่วน) หมอนปล่อง(เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส) หมอนผา (ทรงสามเหลี่ยม) และหมอนเดือน (หน้าหมอนรูปครึ่งวงกลม) หมอนลักษณะพิเศษเหล่านี้นิยมใช้ประกอบเป็นเครื่องบวชพระ มีการปักหน้าหมอนด้วยเส้นไหมสีสวยงาม บริเวณชานบ้านของพิพิธภัณฑ์เรือนคำเที่ยง ดูสะดุดตาน่าสนใจ มุมนั่งเล่นปูเสื่อจักสาน จัดวางเชี่ยนหมาก ขันโตกหมากพลู ขันโตกผลไม้ อุปกรณ์ทอผ้า ถ้าหนุ่มสาวรักใคร่ชอบพอกัน สามารถจะมานั่งพูดคุยหยอกเย้ากันตรงบริเวณนี้ได้ แต่ต้องอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ เสน่ห์ของผู้ชายอยู่ที่การเล่นดนตรีดีดพิณเพียะ สีสะล้อซอซึง ส่วนผู้หญิงจะนั่งทำงานทอผ้า ปั่นฝ้าย กรอเส้นด้าย หรือไม่ก็แกะหอมแกะกระเทียม เรือนแม่นายคำเที่ยง มีเรือนใหญ่และเรือนเล็กที่เชื่อมกันด้วยระเบียงทางเดิน ส่วนของเรือนครัวได้จัดแสดงเครื่องครัวและอาหารแบบล้านนา อาหารยอดนิยมแบบชาวล้านนาคือแกงแคกบ น้ำพริกน้ำปู กินกับข้าวเหนียวและผัก นอกจากการกินอยู่บนเรือนแล้ว ที่นี่ยังมีความรู้อีกหลายเรื่องทั้งเรื่องพิธีกรรมเกี่ยวกับการทำนา การทำบายศรีในพิธีเรียกขวัญ ส่วนใต้ถุนเรือน ยังได้บอกเล่าความลับของสีย้อมผ้าแบบล้านนา การทอตุง และยังมีภาพจำลองของหมู่บ้านและวัดล้านนา การเข้ามาชมเรือนคำเที่ยงจะได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน เรียกว่าถ้าอยากรู้จักความเป็นล้านนาให้มาที่นี่ อีกทั้งยังสะดวกสบายด้วยการเดินทางที่เข้าถึงง่าย สถานที่ตั้ง : 131 ถนนอโศกมนตรี (สุขุมวิท21) กรุงเทพฯ 10110เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-เสาร์ 9.00 - 17.00 น. (ปิดวันอาทิตย์ วันจันทร์และวันหยุดราชการ) มีค่าเข้าชมโทรศัพท์ : 02-661-6770-7การเดินทาง : รถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีสุขุมวิท ประตูทางออกหมายเลข 1