เรื่องราวการต่อสู้ของเหล่าอสูรกระหายเลือดกับนักล่าอสูรผู้ใช้ลมปราณภาพที่สวยงาม ฉากต่อสู้สุดมันส์ และเพลงประกอบเร้าใจ กลายเป็นอนิเมชั่นที่ดีที่สุดในเวลานี้"คามาโดะ ทันจิโร่" เด็กหนุ่มธรรมดาจิตใจโอบอ้อมอารีอาศัยอยู่กับครอบครัวบนภูเขาอันห่างไกลผู้คน เขาจะนำถ่านฟืนลงมาค้าขายในหมู่บ้าน ขากลับก็พบว่าครอบครัวทั้งหมดของเขาถูกค่าตายหมด เหลือเพียง "คามาโดะ เนซึโกะ" ที่ยังรอดชีวิตแต่ก็อยู่ในสภาพปางตาย เขาพยายามจะพาเธอไปรักษา แต่เนซึโกะนั้นเกิดคุ้มคลั่งและเข้าทำร้ายทันจิโร่ ชายผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นเขาคือ "โทมิโอกะ กิยู" กิยูเข้าช่วยเหลือทันจิโร่โดยหมายจะกำจัดเนซึโกะที่กลายร่างเป็นอสูร แต่ทันจิโร่เข้าไปขัดขวางไว้ ด้วยเชื่อว่าเนซึโกะนั้นจะกลับเป็นมนุษย์ได้อีกครั้งกิยูนั้นจึงต่อสู้กับทันจิโร่ ปรากฏว่าทันจิโร่นั้นเป็นฝ่ายแพ้และหมดสติไป แต่เนซึโกะนั้นกลับเข้ามาปกป้องทันจิโร่ไว้จากกิยูโดยไม่คิดทำร้าย นั่นทำให้กิยูตัดสินใจส่งทันจิโร่ไปหา "อุโรโคดากิ" โดยต้องหลีกเลี่ยงการเดินทางในตอนกลางวัน เพราะอสูรเมื่อถูกแสงแดดแล้วจะสลายไป ในขณะที่เดินทางอยู่นั้นทันจิโร่ก็ได้พบอสูรตนหนึ่งที่กำลังกัดกินมนุษย์อยู่ ซึ่งเนซึโกะที่เป็นอสูรนั้นได้อดกลั้นที่จะไม่ดื่มเลือดของมนุษย์ นั่นยิ่งทำให้เธอเป็นอสูรที่แตกต่างจากอสูรตนอื่น ทันจิโร่และเนซึโกะได้ช่วยกันจนกำจัดอสูรตนนั้นได้สำเร็จเมื่อได้พบกับอุโคโรดากิ เขาตัดสินใจฝึกสอนทันจิโร่อย่างหนักหน่วงให้รู้จักสิ่งที่เรียกว่า "ปราณ" ที่ใช้กำจัดอสูร เพื่อเข้าหน่วยพิฆาตที่มีมาแต่โบราณ ซึ่งในขณะนั้นเนซึโกะก็นอนหลับไม่ฟื้นและไม่ดื่มเลือดตามวิถีของอสูรเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าทันจิโร่จะห่วงเนซึโกะแค่ไหน แต่ก็ยังคงฝึกฝนต่อไปทั้งการวิ่งลงเขา การฝึกใช้ดาบ ฝึกการหายใจ เมื่อการฝึกฝนผ่านเวลาไปกว่าหนึ่งปี อุโรโคดากินั้นก็พาทันจิโร่ไปยังหินก้อนใหญ่ โดยบอกว่าถ้าสามารถฟันหินยักษ์ก้อนนี้ได้ จะอนุญาตให้ทันจิโร่ไปสอบการเป็นหน่วยพิฆาตได้ ซึ่งแม้ว่าจะผ่านมาอีกครึ่งปี ไม่ว่าทันจิโร่จะใช้ดาบฟันหินอย่างไร ก็ฟันไม่เข้าสักที แต่แล้วเขาก็ได้พบกับซาบิโตะ และมาโคโมะมาคอยช่วยชี้แนะให้โดยไม่รู้ว่าทั้งคู่นั้นมาจากที่ใด ซาบิโตะนั้นได้ทำการต่อสู้กับทันจิโร่ในทันที ส่วนมาโคโมะก็คอยสอนทันจิโร่ให้เห็นจุดที่เคลื่อนไหวสูญเปล่าหลังจากผ่านมาอีกครึ่งปี การต่อสู้ระหว่างซาบิโตะกับทันจิโร่ก็เริ่มขึ้น ในครั้งนี้ความสามารถของทันจิโร่พัฒนาขึ้นมาก ซึ่งผลจากการดวลนั้นทันจิโร่เป็นฝ่ายชนะฟันหน้ากากจิ้งจอกของซาบิโตะผ่าครึ่ง แต่เมื่อทันจิโร่รู้ตัวอีกทีทั้งซาบิโตะกับมาโคโมะก็ได้หายไปแล้ว เหลือทิ้งไว้เพียงหินก้อนใหญ่ที่ถูกดาบของทันจิโร่แยกเป็นสองท่อนและตามสัญญาของอุโรโคดากิ ทันจิโร่ได้ไปสอบรอบสุดท้ายเข้าหน่วยพิฆาตอสูร ที่นั่นมีอสูรหลายตัวถูกขังไว้รวมกัน ซึ่งผู้เข้าสอบหลายคนนั้นก็ถูกอสูรเล่นงาน ทันจิโร่ต่อสู้กับอสูรโดยพยายามสอบถามถึงยาที่ใช้รักษาอสูรให้กลับเป็นคนกับอสูรหลายตัวแต่ก็จบด้วยการฆ่าอสูรเหล่านั้นที่เข้ามาจะทำร้ายเขา ในขณะนั้นเองเขาได้พบกับอสูรยักษ์ตนหนึ่งที่อยู่มานานที่สุดโดยการกินอสูรตนอื่นมาตลอด ซึ่งแท้จริงแล้วอสูรตนี้อุโรโคดากินั้นเป็นผู้นำเข้ามาขังไว้ และได้รับรู้ว่าอสูรยักษ์ตนนี้เป็นอสูรที่ฆ่าลูกศิษย์ของอุโรโคดากิทุกคน รวมทั้งซาบิโตะและมาโคโมะด้วย ทันจิโร่ที่ฝึกมาอย่างหนักแม้จะสติแตกไปบ้างจากการได้รู้เรื่องราวดังกล่าว แต่เขาก็สามารถฟันคอของอสูรยักษ์ตนนี้ได้สำเร็จด้วยการใช้ "ปราณวารี"เมื่อผ่านการต่อสู้ตลอดคืนมาได้ สิ่งที่คนของหน่วยพิฆาตจะได้รีบคือ "ดาบนิจิริน" ที่มีไว้เพื่อสังหารอสูร โดยมีผู้สอบผ่านในวันนั้นมีทั้งหมด 5 คน โดยแต่ละคนจะได้เลือกแร่ที่ใช้ตีดาบ หลังจากนัั้นทันจิโร่ก็เดินทางกลับมาถึงบ้านของอุโรโคดากิแล้วก็พบว่า เนซึโกะนั้นฟื้นแล้วแต่เธอหลบอยู่แต่ในบ้านเท่านั้น ไม่นานนักช่างตีดาบก็นำดาบนิจิรินมาส่งให้ ซึ่งดาบนี้จะเปลี่ยนสีไปตามแต่ผู้ใช้แต่ละคน โดยดาบของทันจิโร่นั้นเปลี่ยนเป็นสีดำ อุโรโคดากินั้นบอกว่าเนื่องจากคนที่ดาบเปลี่ยนเป็นสีดำมีน้อยมาก จึงไม่ค่อยมีใครได้รู้เรื่องราวของมันเท่าไร่นัก ทันจิโร่จึงเริ่มอออกเดินทางตามล่าอสูร โดยได้แบกกล่องที่ใส่เนซึโกะไปด้วยเพื่อหาทางให้เธอกลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง ซึ่งจะมี "อีกานำทาง" คอยนำทางให้กับทันจิโร่ในการไปปราบอสูรตามที่ต่างๆ ภารกิจแรกที่ทันจิโร่ได้รับในฐานะหน่วยพิฆาตอสูรนั้น คือ การตามหาหญิงสาวหลายคนที่หายตัวไปอย่างลึกลับในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่นั่นเขาได้เจอกับอสูรสามตนที่สามารถทะลุไปได้ทุกที่ทั้งในพื้นดินและกำแพง ซึ่งในช่วงเวลาที่ทันจิโร่นั้นกำลังโดนรุมจากหลายทิศทางนั้น เนซึโกนั้นก็ได้ออกมาจากกล่องและร่วมสู้ไปกับทันจิโร่ด้วย และแม้ทันจะโร่จะถูกดึงเข้าไปยังมิติของอสูร แต่เขาก็สามารถใช้ปราณวารีและเอาชนะอสูรตนนี้ได้ในที่สุด และก็พบว่าอสูรตนนี้ได้กินหญิงสาวไปมากมายเหลือทิ้งไว้เพียงเครื่องประดับเท่านั้นสถานที่ต่อไปที่ทันจิโร่ต้องไปก็คือ อาซากุสะในโตเกียวที่มีความเจริญมากมาย ที่นั่นทันจิโร่ก็ได้พบกับบุคคลหนึ่งจากกลิ่นอสูรที่รุนแรงมาก เขาเป็นต้นกำเนิดเของเหล่าอสูรทั้งมวล "คิบุทสึจิ มุซัน" ทันจิโร่นั้นพบว่ามุซันนั้นอยู่กับมนุษย์ตามปกติ แต่ทันใดนั้นเองมุซันก็อาศัยพลังของตัวเองทำให้บุคคลหนึ่งกลายเป็นอสูรในทันทีแล้วหลบหนีไป ทันจิโร่ที่เห็นเหตุการณ์นั้นจึงเข้าจับอสูรตนนั้นไว้ไม่ให้ทำร้ายผู้อื่น แต่ตำรวจที่มาถึงนั้นกลับเข้าใจผิดและพยายามจะลงมือใส่ทันจิโร่ แต่แล้วก็มีคนมาช่วยไว้ แต่กลับเป็นพวกอสูรเช่นกัน นั่นคือ "ทามาโยะและยูชิโร่"มุซันเริ่มหมายตาทันจิโร่จากต่างหูของเขาที่ทำให้มุซันนึกถึงอดีตขึ้นมา และได้สั่งลูกน้องมาจัดการ ในเวลานั้นเอง ลูกน้องของมุซันได้ลอบเข้ามาโจมตี ขณะเดียวกันยูชิโร่นั้นพาทันจิโร่กับเนซึโกะมาที่บ้านพักที่ที่ถูกซ่อนด้วยอาคม ที่นั่นทามาโยะกำลังรักษาคนไข้ที่ถูกอสูรทำร้ายอยู่ ทันจิโร่นั้นสอบถามทามาโยะเพื่อหาวิธีเปลี่ยนให้อสูรกลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง นั่นทำให้ทามาโยะนั้นได้ขอเลือดของเนซึโกะไปเพื่อวิจัย และขอให้ทันจิโร่ส่งเลือดของอสูรที่จะกำจัดกลับมาให้เธอด้วย แต่แล้วอสูรสองตนก็ผ่านอาคมเข้ามายังบ้านพักได้ ซึ่งทั้งสองนั้นมีฝีมือมาก คนหนึ่งใช้ดวงตาที่อยู่บนมือทำให้สิ่งต่างๆ ขยับไปยังทิศทางต่างๆ ส่วนอีกคนใช้ลูกบอลที่ทั้งเร็วและแรงมหาศาลในการโจมตีอสูรทั้งสองบอกว่าตนเองนั้นเป็น "สิบสองอสูรจันทรา" ซึ่งมีฝีมือมากกว่าอสูรทั่วไปมากนัก ซึ่งทันจิโร่และยูชิโร่ก็ช่วยกันกำจัดได้อย่างยากลำบาก เมื่อทั้งสองตายลงก็ได้รับรู้ว่า สิบสองอสูรจันทราที่แท้จริงนั้นที่ดวงตาจะต้องมีตัวเลขบอก และอสูรสองตัวนี้แม้จะเก่งมากแต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะเป็นสิบสองอสูรจันทราได้ ด้วยการต่อสู้อย่างดุเดือดทำให้สถานที่ถูกเปิดเผยและจะเป็นภัยในภายหลัง จึงจำต้องแยกย้ายเพื่อความปลอดภัยของทามาโยะ และทันจิโร่เองก็ต้องออกเดินทางไปกำจัดอสูรต่อไปทันจิโร่ออกเดินทางกำจัดอสูรอีกครั้ง และได้พบกับ "เซนอิทสึ"ที่มีนิสัยขี้กลัวและชอบโวยายไร้สติ ทั้งสองถูกนำมาที่หนึ่งซึ่งเป็นบ้านร้างในป่า และได้เจอกับเด็กสองคนที่กำลังตามหาพี่ชาย ทั้งหมดจึงได้ตัดสินใจลองเข้าไปสำรวจภายในบ้าน โดยทันจิโร่ได้ทิ้งกล่องที่ใส่เนซึโกะไว้นอกบ้าน แต่แล้วเมื่อเข้าไปทุกคนก็ถูกสลับที่แยกจากกัน โดยในบ้านร้างที่มีอสูรมากมายหลายตนอยู่ด้วยกัน ซึ่่งเซนอิทสึนั้นก็ได้พบกับ "อิโนสุเกะ" ชายแก้ผ้าในหน้ากากหมูป่า วิ่งวุ่นไปทั่ว โดยทางทันจิโร่นั้นได้พบกับอสูรตนหนึ่งที่มีพลังในการสลับมิติ แต่แล้วอิโนสุเกะก็โผล่เข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว ไม่นานนักอิโนสุเกะก็ถูกพลังพิเศษของอสูรสลับที่ไปอีกหนึ่งอีกครั้ง กลับมาทางด้านเซนอิทสึที่บังเอิญได้เจออสูรเข้าอีกตนจนทำให้เขาสลบไปแต่นั่นก็ทำให้เขาใช้ "ปราณอัสนีบาต" ตัดคออสูรตนนั้นได้ในพริบตาทางด้านทันจิโร่นั้นพยายามต่อสู้อย่างหนัก ซึ่งอสูรตนนี้นั้นมีพลังที่จะพลิกมิติ บน-ล่าง ซ้าย-ขวา หน้า-หลังได้ดังใจ โดยอสูรตนนี้เป็นถึงอดีตสิบสองอสูรจันทราที่ถูกขับออกมา และทันจิโร่เองก็ยังไม่หายดีจากการต่อสู้เมื่อครั้งก่อน แต่เขาก็อาศัยปราณวารีในหลายรูปแบบจนสามารถตัดคออสูรตนนี้ได้สำเร็จเมื่อออกมาจากบ้านร้างอิโนสุเกะนั้นก็พบว่ามีอสูรอีก จึงพยายามจะทำลายอสูรในกล่องไม้ที่วางอยู่ ซึ่งเซนอิทสึนั้นได้เข้ามาขัดขวางไว้ เมื่อทันจิโร่มาถึงก็พบว่าเซนอิทสึได้พยายามปกป้องกล่องนั้นจากอิโนสุเกะจนหน้าตาบวมปูดไปหมดแล้ว ทันจิโร่ต่อสู้กับอิโนสุเกะจนหน้ากากหมูป่ากระเด็นออกมา แล้วอิโนสุเกะก็สลบไป ทันจิโร่จึงได้ทำการฝังศพที่อยู่ภายในบ้านร้าง และเมื่อทั้งหมดได้เดินทางออกจากป่า อีกานำทางก็นำทั้งสามไปยังบ้านหลังหนึ่งเพื่อพักฟื้นกำลังและรักษาอาการบาดแผลให้หายสนิท เมื่อหายดีแล้ว ภารกิจต่อมานั้นทั้งสามต้องเดินทางไปจำกัดอสูรด้วยกันที่ป่าแห่งหนึ่ง แต่ระหว่าทางก็พบคนจากหน่วยพิฆาตอสูรคนหนึ่งนอนอยู่ที่พื้น ซึ่งพอทั้งสามเข้าไป ชายคนนั้นก็ถูกดึงลอยกลับเข้าไปในป่า นั่นทำให้เซนอิทสึถึงกลับกลัวจนไม่กล้าเข้าไปทำภารกิจ ทันจิโร่และอิโนสุเกะจึงทิ้่งเซนอิทสึไว้อย่างนั้นแล้วเข้าไปยังป่าแห่งนั้นในทันที เมื่อเข้าไปก็พบว่าที่นั่นมีเหล่านักล่าอสูรมากมายที่ถูกควบคุมให้เข่นฆ่ากันเอง อิโนสุเกะจึงได้ใช้ "ปราณสัตว์ป่า" เพื่อหาตัวคนที่ชักใยควบคุมคนทั้งหมด เมื่อรู้ตำแหน่งทันจิโร่และอิโนสุเกะนั้นก็พยายามช่วยคนที่ถูกควบคุมไปด้วย ซึ่งเมื่อเข้าใกล้ตำแหน่งอิโนสุเกะก็โยนทันจิโร่ไปตัดคอสูรที่ควบคุมคน โดยอสูรเด็กคนหนึ่งเรียกว่าเธอนั้นว่า "แม่" ได้สำเร็จในเวลานั้นเองเซนอิทสึก็เดินหลงเข้ามาในป่าเพื่อตามหาเพื่อนอีกสองคน แต่ก็มาพบกับอสูรรูปร่างแมงมุมที่ทำรังชักใยอยู่กระหว่างต้นไม้ โดยอสูรตนนี้นั้นใช้พิษเป็นอาวุธ ซึ่งเซนอิทสึก็ติดพิษและสติแตกกระเจิดกระเจิง แต่ในนาทีนั้นเองเขาก็สลบไปและเริ่มใช้ ปราณอัสนีบาตที่เขาใช้ได้เพียงรูปแบบเดียวเท่านั้น และด้วยพิษกับจำนวนของลูกสมุนที่เข้ามารุมทำร้าย เซนอิทสึจึงได้ใช้ท่า "ฟ้าผ่าชั่วพริบตา 6 กระทบ" ฟันคออสูรแมงมุมได้สำเร็จ แต่เขาเองก็ติดพิษอย่างหนักจนลุกไปไหนต่อไม่ได้อีกด้านหนึ่งทั้งทันจิโร่และอิโนสุเกะที่จัดการอสูรที่ควบคุมคนไปได้แล้ว ก็ต้องเจอกับอสูรแมงมุมตัวใหญ่ยักษ์ที่ถูกเรียกว่า "พ่อ" ซึ่งมีร่างกายที่แข็งมากจนดาบฟันไม่เข้า จากการต่อสู้นี้ทันจิโร่ถูกซัดกระเด็นลอยไปทำให้อิโนสุเกะนั้นต้องต่อสู้เพียงลำพัง แต่ในขณะที่เขากำลังถูกโจมตีอย่างหนัก ก็มีบุคคลหนึ่งโผล่มาช่วยและจัดการพ่อได้ในพริบตา เขาก็คือ กิยูทางด้านทันจิโร่ที่ลอยมาไกลก็หาทางลงพื้นได้สำเร็จ แต่ก็ต้องมาเจอกับอสูรเด็กสองตนที่กำลังจะฆ่ากันเอง ซึ่งตนหนึ่งถูกเรียกว่า "พี่" กำลังนั่งคุกเข่ารอรับโทษอยู่ ซึ่งทันจิโร่ได้เข้าไปขัดจังหวะการลงโทษทำให้เขาต้องต่อสู้กับ "รุย" ที่เป็นถึง "สิบสองอสูรจันทราข้างแรมลำดับที่ห้า" นั่นเป็นเหตุให้ดาบของทันจิโร่หัก ทำให้เนซึโกะต้องออกจากกล่องไม้มาช่วย แต่ก็โดนรุยเล่นงานจนบาดเจ็บทั้งคู่ ในช่วงเวลาคับขันนี้เองทันจิโร่ก็นึกถึงพ่อที่ตายไปแล้ว และได้ใช้ "ระบำเทพแห่งไฟ" เข้าต่อสู้กับรุยจนเกือบสิ้นท่า เพื่อช่วยเนซึโกะ แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว รุยก็ยังไม่ตายและเข้าทำร้ายทันจิโร่ที่หมดทางสู้ แต้กิยูก็โผล่มาตัดคอรุยได้ในที่สุดหลังจบการต่อสู้กับสิบสองอสูรจันทรา ทันจิโร่และเนซึโกะก็ต้องมาอยู่ต่อหน้าผู้นำหน่วยล่าอสูร "สิบเสาหลัก" แต่ด้วยเนซึโกะเป็นอสูรทำให้เธอถูกเหล่าเสาหลักทำร้าย และได้พบกับผู้นำนักล่าอสูร "อุบุยาชิกิ คางายะ" ที่ได้รับรองเนซึโกะว่าเธอจะไม่ทำร้ายมนุษย์ เหล่าเสาหลักทั้งหลายจึงได้ยอมวางมือไปหลังจากนั้นทันจิโร่ เซนอิทสึ และอิโนสุเกะต่างก็เข้ารับการรักษาตัวจากการต่อสู้จากการต่อสู้ในศึกครั้งใหญ่ที่ผ่านมา และได้ฝึกฝนร่างกายเพื่อที่จะกลับไปสู่การต่อสู้ต่อไปดาบพิฆาตอสูรนั้นที่มาจากนิตยสารการ์ตูนสุดฮิต Shonen Jump ที่เรื่องราวได้บอกเล่าถึงมุมมองที่น่าประทับใจและน่าสงสารของตัวละครมากมาย โดยขอเริ่มจาก เนซึโกะที่ต้องกลายร่างเป็นอสูร แต่เพราะความรักในพี่น้องทำให้เธอกลายเป็นอสูรที่ไม่ดื่มกินมนุษย์และยังร่วมเดินทางปกป้องทันจิโร่อีกด้วย ต่อมาในส่วนของอสูรที่ต่างก็มีปมในจิตใจ ทั้งการถูกทิ้ง การแสวงหารัก หรือแม้แต่การแสวงหาครอบครัวเพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปจนยอมที่จะกลายเป็นอสูรในที่สุด ทำให้การดำเนินเรื่องนั้นมีมิติ และสื่อสารออกมาในหลายแง่มุมชวนน่าติดตามส่วนงานภาพต่างๆ จากทาง Ufoteble ก็สวยงามมาก เก็บรายละเอียดได้ดีไม่ว่าจะเป็นฉากธรรมดาทั้งป่าเขา น้ำตก หมู่บ้าน ตัวละครต่างๆ เรียกได้ว่าทำออกมาไม่มีที่ติเลย ในส่วนของฉากการต่อสู้นั้นก็จัดเต็มเวลาที่ตัวละครใช้ท่าไม้ตายต่างๆ ก็ทำออกมาอลังการงานสร้างทั้งการใส่เอฟเฟคต์เท่ๆ และสุดท้ายในส่วนของเพลงประกอบก็เพราะติดหูมาก จึงไม่แปลกเลยที่จะเป็นอนิเมชั่นที่ดีที่สุดในเวลานี้อย่างไม่ต้องสงสัย จนสามารถเอาชนะ Onepiece ที่ครองแชมป์ความนิยมมาหลายปีได้ในที่สุด ซึ่งบอกได้คำเดียวว่า นี่คือ “อนิเมชั่นที่ดีที่สุดในเวลานี้” ที่ไม่ควรพลาด และด้วยความดังของการ์ตูนเรื่องนี้ก็จะมีตอนพิเศษในภาค The Movie ที่กำลังจะเข้าโรงในอีกไม่นานนี้แล้ว ซึ่งจะเป็นเรื่องต่อจากภาคอนิเมะซีรี่ส์ที่ได้รีวิวไปแล้วนี้ โดยอนิเมะทั้ง 25 ตอนนี้ สามารถรับชมได้ทาง Netflix ผ่านกล่อง TrueID TV ได้แล้ววันนี้ขอขอบคุณเครดิตภาพปกโดย : https://kimetsu.com/ภาพประกอบจาก https://kimetsu.com : ภาพที่1/ ภาพที่2-3/ ภาพที่4-5-6/ ภาพที่7/ ภาพที่8/ ภาพที่9/ ภาพที่10/ ภาพที่11/ ภาพที่12-13/ ภาพที่14-15/ ภาพที่16/ ภาพที่17-18/ ภาพที่19/ ภาพที่20-21/ ภาพที่22/ ภาพที่23/ ภาพที่24/ ภาพที่25/ ภาพที่26-27/ ภาพที่28/ ภาพที่29