วันนี้เราจะมาแนะนำหนังญี่ปุ่นที่จะทำให้คนดูได้อบอุ่นหัวใจ บางเรื่องอาจจะมีน้ำตา แต่เป็นน้ำตาที่มาจากความสุขและความอบอุ่น สำหรับใครที่ กำลังเครียดๆแล้วอยากหาหนังที่ดูแล้วรู้สึกสบายใจ เนื้อหาไม่หนักหน่วง หรือใครที่อยากลองดูหนังญี่ปุ่นสักเรื่อง แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นจากเรื่องอะไรก่อนดี ลองดูหนังเหล่านี้ อาจจะทำให้คุณตกหลุมรักความอบอุ่นของหนังญี่ปุ่นโดยไม่รู้ตัว มาดูกันเลยว่า หนังเรื่องใดบ้างที่จะทำให้คุณอบอุ่นหัวใจWOOD JOB (2014) เรื่องราวอาชีพคนตัดไม้ของประเทศญี่ปุ่น ที่ไม่ได้ปลูกต้นไม้ไว้เพื่อตัดเพียงเท่านั้น ผลงานกำกับของ ชิโนบุ ยากุชิ (Shinobu Yagushi) ที่พูดถึงเรื่องราวและวัฒนธรรมของอาชีพที่เรียกได้ว่าเก่าแก่ของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ และเป็นอาชีพเดียวที่ไม่มีทางรู้ได้เลยว่างานของตัวเองจะออกมาดีแค่ไหน ทำได้แค่เพียงส่งงานต่อให้ลูกหลานเท่านั้น โดยเล่าเรื่องผ่านตัวละครหนุ่ม ที่แสดงโดย โชตะ โซเมะทานิ (Shota Sometani) ที่ผิดหวังจากการสอบเข้าเรียนต่อ และอยากหาอะไรทำในช่วงรอสอบ เขาจึงเลือกเข้าอบรมอาชีพคนตัดไม้ ในระยะเวลาอบรม 1 ปี เต็มๆ โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าจะเจอความยากลำบากแบบไหนบ้าง เนื้อเรื่องของหนังเป็นไปอย่างเรียบง่ายแบบหนัง Feel Good ทั่วไป แต่สิ่งที่เราจะได้สัมผัสจากหนังเรื่องนี้คือวัฒนธรรมที่เราไม่ค่อยได้เห็นมากนัก การให้ความสำคัญกับอาชีพที่ตนเองทำ การเคารพสถานที่ และความแตกต่างระหว่างสังคมเมืองและสังคมชนบท เป็นสิ่งที่หนังต้องการจะสื่อออกมา ภาพป่าไม้และภูเขาสีเขียวของญี่ปุ่นสลับกับเนื้อเรื่องน่ารักนั้นทำให้คนดูอย่างเราผ่อนคลายได้ไม่ยาก บวกกับความเรียบง่ายแบบญี่ปุ่น จะต้องทำให้ผู้ชมได้อบอุ่นหัวใจอย่างแน่นอน Little Forest ( Summer/Autumn 2014 / Winter/Spring 2015)หนังที่จะทำให้หัวใจอบอุ่นเรื่องถัดมา Little Forest โดยตัวหนังจะแบ่งออกเป็นสองภาค คือ Summer/Autumn (ภาคแรก) Winter/Spring (ภาคสอง) แม้ตัวหนังจะเป็นเรื่องราวของการทำอาหาร แต่หนังก็ยังเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆของชีวิตในไร่ของคนญี่ปุ่น ที่ถือว่าสื่อออกมาได้ดีมาก หนังกำกับโดย จุนอิจิ โมริ (Junichi Mori) และได้นักแสดงนำสาวสวยอย่าง ไอ ฮาชิโมโตะ (Ai Hashimoto) มาถ่ายทอดเรื่องราวของเด็กสาวที่เติบโตมากับแม่ ที่ทั้งสองคนช่วยกันทำงานทางการเกษตร โดยที่แม่ของเธอได้สอนการใช้ชีวิตในการเป็นเกษตรกรและแม่ครัวให้เธอมาตั้งแต่ยังเด็ก แต่แล้ววันหนึ่งแม่ก็ได้ทิ้งเธอไปโดยไม่บอกเหตุผล ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังน้อยเพียงคนเดียว ในหนังเราจะได้เห็นการทำอาหารที่มีทั้งยากและง่ายในสไตล์ญี่ปุ่น โดยจะเริ่มจากการเพาะปลูกหรือเก็บวัตถุดิบที่มีอยู่ในธรรมชาติเลย ซึ่งเมนูก็จะผันเปลี่ยนไปตามฤดูกาลที่เป็นไปตามชื่อภาคของหนัง ซึ่งภาพของหมู่บ้านกลางหุบเขาและวิถีชาวบ้านที่ใช้ชีวิตอย่างช้าช้า ค่อยๆหมุนเวียนไปตามฤดูกาลอย่างเรียบง่าย นั้นสามารถทำให้จิตใจของเราสงบและอบอุ่นไปตามหนังได้ดีทีเดียวThe Travelling Cat Chronicles (2018)เปลี่ยนจากแนวป่าเขามาเอาใจทาสแมวกันบ้าง กับ The Travelling Cat Chronicles ที่กำกับโดย โคอิจิโร่ มิกิ (Koichiro Miki) และนักแสดงนำหนุ่มสุดฮอต ฟุคุชิ โชตะ (Fukushi Sota) กับเรื่องราวการหาบ้านใหม่ให้แมวน้อยสุดน่ารัก โดยที่เนื้อเรื่องไม่ได้เน้นไปที่แมวเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่หนังต้องการจะสื่อออกมาคือการแก้ไขสิ่งที่เป็นปมที่อยู่ในใจของตัวละครต่างๆ ซึ่งก็จะมีแมวมาเกี่ยวข้องอยู่ด้วย ที่จริงแล้วหนังเรื่องนี้ค่อนข้างที่จะดราม่าพอสมควร หากใครที่เคยมีปมอะไรแล้วถูกปลดล็อคเหมือนตัวละครในหนังอาจจะเสียน้ำตาได้ (แต่ผู้ชมทั่วไปก็เสียน้ำตาได้เหมือนกัน) ภารกิจในการหาบ้านหลังใหม่ของเจ้าแมวนานะจะอบอุ่นมากน้อยแค่ไหนลองมาพิสูจน์กันเลยดีกว่าRent A Cat (2012)ทาสแมวจะต้องหลงรักหนังเรื่องนี้! หากเรื่องที่ผ่านมายังเสพแมวกันไม่จุใจ ต้องลองดูหนังเรื่องนี้ ที่ไม่ใช่แค่จะทำให้อบอุ่นหัวใจแต่ยังทำให้หัวใจเบิกบานอย่างถึงที่สุดกับ Rent A Cat หรือ Rentaneko กำกับโดย นาโอโกะ โองิงามิ (Naoko Ogigami) และแสดงนำโดย มิกาโกะ อิจิกาวะ (Mikako Ichikawa) ที่จะนำกองทัพน้องแมวมาขโมยหัวใจของคุณ อย่างที่หลายๆคนน่าจะรู้กันว่า ประเทศญี่ปุ่นมักจะมีอาชีพแปลกๆ บ้างก็แปลกแบบล้ำๆบ้างก็แปลกแบบแปลกของจริง (งงกันไหม) แต่หนังเรื่องนี้นำเสนออาชีพ แมวเช่า! กับตัวละครเอกที่มีแรงดึงดูดพิเศษบางอย่างที่ทำให้แมวเข้ามาอยู่ด้วย แม้จะมีบางตัวที่จากไปแต่ก็จะมีตัวใหม่เข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านของเธอเรื่อยๆ จึงเป็นจุดเริ่มต้นธุรกิจแมวเช่า ที่ไม่ได้เปิดเป็นแบบ Pet Shop ด้วยนะ แต่คือการนำแมวขึ้นรถเข็นไปประกาศให้เช่ากันเลยทีเดียว ซึ่งใจความหลักที่หนังต้องการจะสื่อก็คือ การที่คนเราจะก้าวผ่านอะไรสักอย่างในชีวิตนั้น อาจจะต้องมีสิ่งที่คอยอยู่เคียงข้างและปลอมประโลมจิตใจในยามอ่อนล้า ซึ่งในหนังเรื่องนี้ก็คือแมวนั้นเอง หากใครดูหนังเรื่องนี้จบอาจจะอยากหาน้องแมวมาไว้ข้างกายก็คงจะไม่แปลกใจเท่าไหร่Nobody Knows (2004)Nobody Knows หนังแนว Coming of age ที่กวาดรางวัลจากทั้งเวทีในประเทศญี่ปุ่นและเวทีต่างประเทศ โดยเฉพาะในเทศกาลหนังเมืองคานส์ในปี 2004 ที่สร้างประวัติศาสตร์กับรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมที่ ยูยะ ยากิระ (Yuya Yagira) ได้รับ เนื่องจากเป็นนักแสดงที่อายุน้อยที่สุดกับรางวัลนี้ และหนังเรื่องนี้ก็กลายเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับผู้กำกับ ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ (Hiroka Koreeda) หนังได้สะท้อนปัญหาของสังคมในญี่ปุ่นที่บางคนอาจไม่รู้มาก่อน ความเป็นจริงที่ต้องต่อสู้เพื่อการมีชีวิตรอด กับเรื่องราวของพี่น้องที่ต้องช่วยเหลือกันจากแม่ที่อยู่ๆก็จากไปเฉยๆและไม่มีวี่แววที่จะหวนกลับมา การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การทะเลาะ และความรักความสัมพันธ์ของครอบครัว เป็นส่วนผสมที่ทำให้หนังเรื่องนี้ลงตัวที่อาจจะอบอุ่นปนเศร้า แต่ก็อยากแนะนำให้ดู เมื่อดูหนังจบคิดว่าผู้ชมคงจะได้รับอะไรหลายๆอย่างTokyo Sonata (2008)อีกหนึ่งหนังญี่ปุ่นที่กวาดรางวัลมามากมาย ที่เล่าถึงความดราม่าในครอบครัวคนญี่ปุ่น กับ Tokyo Sonata กำกับโดย คิโยชิ คุโรซาว่า (Kiyoshi Kurosawa) หลายคนตกหลุมรักหนังเรื่องนี้จากแง่มุมต่างๆ หนึ่งในนั้นก็คือความอบอุ่น ความต้องการที่จะช่วยเหลือครอบครัวจากสมาชิกที่มีปัญหาเป็นของตนเอง แต่ไม่กล้าที่จะบอกเล่ากับคนในครอบครัว โดยหนังพยายามจะสื่อว่าหากคนในครอบครัวกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความจริงและพูดคุยกันเพื่อยอมรับและแก้ไขปัญหา ทุกๆอย่างคงจะผ่านไปได้โดยที่สมาชิกครอบครัวแต่ละคนไม่ต้องเหนื่อยกับการแบกความคาดหวังอย่างเดียวดาย นั้นทำให้เราเหล่าผู้ชมคงอยากที่จะให้ความสำคัญกับคนในครอบครัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งคิดว่าในโลกแห่งความจริงหลายต่อหลายครอบครัวคงจะเผชิญอยู่กับเหตุการณ์และความรู้สึกนี้กันอยู่ไม่มากก็น้อย ลองดูหนังเรื่องนี้กัน น่าจะได้แง่คิดอะไรหลายอย่าง และเพิ่มความอบอุ่นหัวใจได้ไม่น้อยShoplifters (2018)หนังอีกหนึ่งเรื่องของผู้กำกับ ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ (Hiroka Koreeda) ที่ดูเหมือนจะได้รับความนิยมจากการสร้างหนังที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักความอบอุ่นของคนภายในครอบครัว เพราะ Shoplifters เป็นหนังที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขาภาพยนต์ต่างประเทศยอดเยี่ยม และเข้าชิงอีกหลายเวทีในระดับโลก หนังเล่าถึงครอบครัวที่ยากจน ต้องอาศัยการหยิบยืมของในร้านสะดวกซื้อ (ก็คือขโมยนั้นแหละ) เพื่อเอามาใช้ประทังชีวิตไปวันๆ จนวันหนึ่งไปพบเข้ากับเด็กหญิงตัวน้อยที่หลงมาจากไหนก็ไม่รู้ ครอบครัวนี้ก็เลยหยิบยืมมาเลี้ยงด้วยเลย หนังดำเนินเรื่องไปอย่างเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดของค่านิยมและวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของคนญี่ปุ่น ความสุขที่คนดูอย่างเราต้องตัดสินกันเองว่า สิ่งต่างๆที่ครอบครัวนี้ได้กระทำนั้นเป็นสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่ ลองมาพิสูจน์โดยการดูหนังเรื่องนี้ไปด้วยกันเลยOur Little Sister (2015)หนังเรื่องสุดท้ายที่เราจะแนะนำ ก็ยังเป็นหนังของผู้กำกับคุณภาพ ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ (Hiroka Koreeda) ที่ยังคงการันตีด้วยรางวัล เจแปนอะคาเดมี่ไพรซ์ สาขาภาพยนต์ยอดเยี่ยม กับ Our Little Sister ที่บอกเล่าเรื่องราวของครอบครัวหญิงล้วน ที่แต่ละคนมีบุคลิกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แล้วจู่ๆวันหนึ่งก็ได้พบและรับน้องสาวที่เป็นลูกต่างแม่ของพวกเธอเข้ามาดูแล ทำให้สมาชิกในบ้านเพิ่มเป็น 4 สาว กับเหตุการณ์ที่ดำเนินไปอย่างเรียบง่ายและอบอุ่น ปัญหาต่างๆที่สมาชิกแต่ละคนเจอ กลับสามารถเยียวยาและบรรเทาได้ด้วยการอยู่ด้วยกันในบ้านหลังหนึ่ง โดยที่ไม่ต้องมีอะไรมาเป็นสื่อมากมาย มีเพียงแค่ความใส่ใจของสมาชิกในบ้านก็เพียงพอแล้ว และนอกจากเนื้อเรื่องที่แสนจะเรียบง่ายธรรมดา เหล่าสาวๆที่น่ารักในหนังเรื่องนี้ ก็เป็นหนึ่งสิ่งที่สามารถจะทำให้หัวใจเราอบอุ่นได้ตลอดเวลาขอบคุณภาพประกอบจาก asianwiki.com รูปประกอบที่ 1 รูปประกอบที่ 2 รูปประกอบที่ 3 รูปประกอบที่ 4รูปประกอบที่ 5 รูปประกอบที่ 6 รูปประกอบที่ 7 รูปประกอบที่ 8ขอบคุณภาพปกจาก ภาพปก