7 เรื่องเล่าใต้เงา 'พงษ์สิทธิ์ คำภีร์'

เมื่อวันก่อนลองเขียนเรื่องเกี่ยวกับเพื่อน เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด 52 ปี ปู-พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ ในวันที่ 2 พ.ย.ที่ผีานมา เพื่อจะได้ลุ้นสิทธิ์เข้าอบรมในคอร์สสอนสร้าง Content แต่ปรากฎว่าเนื้อหาบางส่วนไม่เหมาะสมกับกลุ่มผู้อ่นที่เป็นเยาวชน ก็เลยคิดว่า เรื่องทีเด็ดทีขาดนั้นคงต้องเก็บเอาไว้เล่าให้กันฟังยามแก่แล้วหัวเราะหัวใคร่ในหมู่เพื่อนสนิทจะดีกว่า

แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียความตั้งใจเลยตัดสินใจเขียนเล่าเรื่องของพงษ์สิทธิ์ เน้นที่ งานล้วนๆ เพราะเชื่อว่าเป็นเรื่องเล่าที่หลายคนน่าจะยังไม่เคยรู้ และนับเป็นอีกมุมหนึ่งของ พงษ์สิทธิ์ ที่แทรกอยู่ในความทรงจำของผม

เรื่องที่ผมจะเล่าอาจจะมีตกหล่นไปบ้าง เลอะเทอะบ้าง ก็อย่าว่ากัน อยากให้เสพเพื่อความบันเทิง

เริ่มนะครับ

1.คาราวานสตูดิโอ

เมื่อ 20 กว่าปีก่อน ในยุคที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักแต่งเพลงเร็ว คือนั่งลงจรดปากกาเขียนเพลงแล้วแต่งได้แบบรวดเดียวจบ มันส่งผลให้ปูบันทึกเสียงออกอัลบั้มได้อย่างรวดเร็วเป็นว่าเล่น ดังนั้นปูจึงมีห้องบันทึกเสียงเป็นของตัวเองชื่อ คาราวาน สตูดิโอ อยู่ในซอยรามคำแหง 122 โดยห้องอัดแห่งนี้เดิมเป็นของ คฤกพล ยงใจยุทธ ซึ่งปูเคยไปบันทึ่กเสียงในอัลบั้ม ถึงเพื่อน จากนั้นพอเริ่มมีงานเพลงมากขึ้นจึงมาซื้อเอาไว้ทำงาน
ปัจจุบันห้องบันทึกสียงนี้ยุติบทบาทการบันทึกเสียงเพราะเครื่องไม้เครื่องมือตกยุค จึงกลายเป็นที่พักของ อ๊อด นนท์ และบูลย์ 3 ผู้บริหารหนุ่มของวงคำภีร์ ช่วงกลับเข้ามาเล่นในกทม.

Credit Photo :  ปริทัศน์ กองเพียร

4.ฮาร์โมนิก้ามาเอง

วันหนึ่ง ขณะที่ปูกำลังจะอัดดนตรีเพลงอะไรสักเพลง (ผมจำไม่ได้) แล้วรู้สึกว่าเพลงนี้ควรจะมีเสียงฮาร์โมนิก้า จึงให้น้องในห้องอัดบึ่งไปแผนกดนตรีในห้างที่อยู่ใกล้ๆซื้อฮาร์โมนิกาแล้วบึ่งกลับมาให้ ปูลองหัดเป่าอยู่พักหนึ่ง (ในวันเดียวกันนั่นแหล่ะ) พอเริ่มคลำเสียงออก ก็แต่งทำนองฮาร์โมนิก้าของเพลงนั้น แล้วก็เข้าห้องอัด ทำการบันทึกเสียงเป่าฮาร์โมนิกาดังที่เราได้ฟังกัน

นับจากนั้นการเป่าฮาร์โมนิกาในเพลงนี้ก็กลายเป็นสัญญลักษณ์ประจำตัวปูอีกอย่างหนึ่งมาจนถึงวันนี้

Credit Photo :  โดม กึ่งยิงกึ่งผ่าน

5.บันทึกเสียงแบบคำภีร์

ผมไม่รู้ว่าวิธีการบันทึกเสียงงานเพลงของแต่ละศิลปินเป็นอย่างไร แต่ของปูจะมีหลัการง่ายๆดังนี้

1.ปูไปห้องบันทึกเสียงแล้วอัดไกด์เพลง ทั้งเนื้อร้องและทำนอง

2.ปูกลับออกไป

3.นักดนตรีเข้ามาฟังไกด์ที่ปูอัดไว้

4.นักดนตรีบันทึกเสียงดนตรี

5.นักดนตรีกลับไป

6.ปูกลับมาร้องเพลง

7.ปูกลับไป

8.ซาวเอ็นจีเนียร์ก็ดำเนินการประกอบร่าง

9.ปูตรวจสอบรายละเอียดอีกรอบ

จบขั้นตอนการบันทึกเสียง

Credit Photo :  ปริทัศน์ กองเพียร

6.สัญญาณมือบนเวที

แฟนเพลงระดับแฟนพันธุ์แท้ ที่ตามไปดูคอนเสิร์ตในทุกๆที่จะรู้ดีว่า ระหว่างการแสดงนั้นพงษ์สิทธิ์จะสื่อสารอะไรกับแฟนเพลงหรือนักดนตรีบนเวที ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการมอง การพยักเพยิด และการใช้มือ เราลองมาดูกันว่า สัญญลักษณ์ของพงษ์สิทธิ์นั้นมีอะไรบ้าง
6.1หงายมือ (มือเดียวหรือสองมือ) แล้วยกขึ้นช้าๆ หมายถึงให้แฟนเพลงร้องตาม
6.2 หงายมือรัวๆ (มือเดียวหรือสองมือ) ยืนไปข้างหน้าแล้วขยับมือรัวๆ หมายถึงให้แฟนเพลงร้องตามเร็วๆ แบบว่า เร็วขึ้นอีก เร็วอีก เร็วๆเลยครับ
6.3 คว่ำมือ (มือเดียว) หัวไปทางมือกลอง คว่ำมือเหมือนกดลง หมายความว่า ให้ดนตรีค่อยๆเฟดเบาลง
6.4 ชี้นิ้วใส่นักดนตรี หมายความว่า ให้โชว์ท่อนนั้นๆไปเลย
6.5 คว่ำมือ (ยกสูงขึ้น แต่ก้มตัว) หมายความว่า ให้แฟนเพลงร้องคำว่า โอ้ววววววว ในเพลง หนุ่มน้อย แบบยาวๆ
6.6 ยกมือกำ (สองข้าง ไขว้แนบอกแล้วขยับขึ้นลง) หมายความว่า จะเล่นเพลงเร็วให้แฟนเพลงเต้นระบำแล้วนะ
ฯลฯ

Credit Photo :  วอร์เนอร์ มิวสิค ประเทศไทย

7.นครวัด
สมัยรัฐบาลชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี มีนโยบายเรื่องเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า มีการจัดคอนเสิร์ตที่ประเทศกัมพูชา โดยมีวงดนตรี คาราวาน ไปเปิดการแสดงที่ นครวัด เป็นวงแรกในโลก เหตุกาณณ์ครั้งนั้นถือเป็นประวัติศาสตร์ในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตครั้งแรกที่นครวัด หรือจำนวนคนเขมรที่เดินทางมาชมคอนเสิร์ตร่วมแสนคน ปูเป็นนักดนตรีแบ็คอัพของ คาราวาน สมัยนั้น จึงมีโอกาสได้ร่วมในประวัติศาสตร์ครั้งนั้น ก็ไม่อยากจะบอกหรอกนะครับว่า วงระดับโลกอย่าง โรลลิ่ง สโตน ยังไปเล่นที่นครัดหลังวง คาราวาน และพงษ์สิทธิ์ เลย 555

Credit Photo :   นิวัติ กองเพียร

รอบแรกก็ประมาณนี้นะครับ สำหรับ พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ ในความทรงจำของผม ถ้ามีโอกาสได้เขียนต่อๆไป ผมก็คิดว่าผมน่าจะมีเรื่องราวของบรรดานักร้องวงดนตรี หรืออาจจะมีดาราบ้างที่อยู่ในความทรงจำ

ลองดูก่อนครับ ไม่รู้จะรอดหรือไม่รอด