น้ำผึ้ง อาจจะเป็นอาหารโปรดของใครหลาย ๆ คน เพราะรสชาติหอมหวานฉ่ำ แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากความหวานอร่อย น้ำผึ้งยังมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ลองมาอ่านไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ 1. ระงับอาการไอ ขอบคุณภาพประกอบจาก pixabay. หนึ่งในประโยชน์สูงสุดของน้ำผึ้ง คือในสารให้ความหวานโดยธรรมชาติ มีสารที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับยาแก้ไอ หรือช่วยยับยั้งอาการไอให้ดีขึ้น โดยน้ำผึ้งมีตัวที่ช่วยชะล้างเสมหะในลำคอ ลดอาการระคายเคืองที่ทำให้เกิดการไอ ดังนั้นหากคุณกำลังเจอความรำคาญจากการไออยู่ ลองรับประทานน้ำผึ้ง 2 ช้อนชาก่อนนอน จะช่วยให้คุณหลับสบายขึ้น 2. ช่วยลดคอเลสเตอรอล ขอบคุณภาพประกอบจาก pixabay จากการศึกษาเปรียบเทียบโดยผู้เข้าร่วมวิจัย เปลี่ยนจากการบริโภคน้ำตาลกลูโคสมาเป็นการบริโภคน้ำผึ้ง เป็นเวลา 15 วัน จะพบว่าไขมันดีในร่างกายมีปริมาณที่เพิ่มขึ้น และไขมันเลวจะมีปริมาณลดลง 3. ทำให้ผิวชุ่มชื่น ขอบคุณภาพประกอบจาก pixabay น้ำผึ้งทำหน้าที่เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ตามธรรมชาติ รวมถึงมีวิตามินและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์กับผิว จะเห็นได้ว่ามีการนำน้ำผึ้งไปเป็นส่วนประกอบในโลชั่นบำรุงผิว หรือคุณสามารถนำน้ำผึ้งมาเป็นมาร์คหน้าแบบธรรมชาติเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นนุ่มเนียนของผิวได้เช่นกัน 4. บรรเทาอาการเจ็บคอ ขอบคุณภาพประกอบจาก pixabay. นอกจากช่วยระงับอาการไอแล้ว น้ำผึ้งยังมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียอ่อน ๆ ซึ่งช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้ด้วย โดยสูตรที่ใช้กันก็คือ การใช้น้ำอุ่นผสมน้ำมะนาวและน้ำผึ้ง เพื่อใช้ในการบ้วนปาก หรืออาจจะใช้จิบเพื่อบรรเทาอาการเจ็บคอและลดเสมหะจากอาการหวัด 5. รักษาแผลไฟไหม้ ขอบคุณภาพประกอบจาก pixabay สำหรับแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก การนำน้ำผึ้งมาทาที่แผลจะช่วยให้ลดความแสบร้อน รวมถึงรักษาการอักเสบได้ดี ถือเป็นอีกหนึ่งสรรพคุณเด่นของน้ำผึ้งค่ะ 6. ขจัดรังแค ขอบคุณภาพประกอบจาก pixabay การสระผมด้วยน้ำผึ้งช่วยบรรเทาปัญหาหนังศีรษะ รวมถึงช่วยขจัดรังแค นักวิทยาศาสตร์พบว่าการใช้น้ำผึ้งช่วยบรรเทาอาการคันได้ดี นอกจากนี้น้ำผึ้งมีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อราช่วยให้หนังศีรษะชุ่มชื้น โดยคุณอาจจะนำน้ำผึ้งมาผสมน้ำให้เจือจางแล้วนวดลงบนหนังศีรษะประมาณ 2-3 นาที เพื่อช่วยขจัดรังแคที่เกิดขึ้น น้ำผึ้งเป็นอาหารที่มาจากธรรมชาติ เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ อีกครั้งน้ำผึ้งแท้ยังสามารถเก็บได้นาน เมื่อเห็นคุณนะประโยชน์ของน้ำผึ้งที่มากมายขนาดนี้แล้ว คุณควรที่จะหาน้ำผึ้งมาเก็บไว้ที่บ้าน เชื่อว่าคุณจะได้ใช้ประโยชน์จากมันแน่นอนค่ะ ขอบคุณแหล่งที่มา www.thehealthy.com ขอบคุณภาพหน้าปกจาก pixabay.