แม้ช่วงเวลานี้ฟุตบอลจะยังกลับมาแข่งขันกันไม่ได้ รวมถึงยังไม่มีใครทราบว่าฤดูกาล 2019/2020 จะจบลงอย่างไร แต่ข่าวคราวการซื้อ-ขายนักเตะ ข่าวสารเรื่องการย้ายทีมต้องบอกเลยว่ามีออกมาเรื่อย ๆ โดยเฉพาะดีลใหญ่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบรรดานักเตะซูเปอร์สตาร์ของวงการ ท่ามกลางข่าวนับร้อยนับพันที่มีทั้งจริงและไม่จริงนั้นเราวิเคราะห์จากความเป็นไปได้แล้วว่ามีนักเตะชื่อดังจำนวนหนึ่งที่เตรียมตัวย้ายทีมค่อนข้างแน่ เพราะหากพลาดโอกาสย้ายทีมในซัมเมอร์ที่จะถึงนี้พวกเขาจะหมดโอกาสเล่นกับทีมระดับท็อปและสำหรับบางคนนี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายในอาชีพที่มือของเขาจะได้สัมผัสถ้วยแชมป์ด้วยเช่นเดียวกัน แยน แฟร์ทองเก้น 9 ปีกับความภักดีที่มอบให้ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ กองหลังฝีเท้าระดับโลกอย่าง "ซูเปอร์แยน" ได้สิ่งตอบแทนเพียงเข้าชิงบอลถ้วยเอฟเอคัพ 1 ครั้ง เข้าชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีก 1 หน และการที่นักเตะฝีเท้าระดับนี้ไม่มีแชมป์ประดับเกียรติประวัติถือเป็นความด่างพร้อยในอาชีพอย่างยิ่ง และนี่เองที่เป็นเหตุผลให้ซุป'ตาร์ทีมไก่เดือยทองต้องมองหาต้นสังกัดใหม่หลังจบฤดูกาล ซึ่งไม่นานมานี้เจ้าตัวได้แถลงชัดในไลฟ์สดก่อนครบรอบวันเกิดอายุ 33 ปีเพียงหนึ่งวันว่าต้นสังกัดพยายามยื่นข้อเสนอต่อสัญญาให้แต่เขาเองเลือกปฏิเสธพร้อมทั้งระบุว่าในช่วงที่ผ่านมามีข้อเสนอจากทีมยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปส่งให้เขาพิจารณา ในจำนวนนั้นมีบางข้อเสนอที่ตัวเขายอมรับว่าค่อนข้างให้ความสนใจ ทั้งนี้หากสิ้นสุดฤดูกาลสัญญาของแฟร์ทองเก้นกับสเปอร์จะหมดลงทำให้เขากลายเป็นนักเตะฟรีเอเย่นต์ที่สามารถเลือกปลายทางอาชีพของตัวเองได้ โดยสโมสรที่แสดงความสนใจกองหลังทีมชาติเบลเยี่ยมก็นำโดย อินเตอร์ มิลาน, เอซี มิลาน, ยูเวนตุส และ บาร์เซโลน่า เป็นต้น โธมัส เมอร์นิเย่ร์ แบ็คขวาชาวเบลเจี้ยนวัย 28 ปีของ ปารีส แซงต์ แชร์แม็ง เป็นอีกคนที่สโมสรเลือกที่จะไม่ต่อสัญญาและจะปล่อยให้เป็นนักเตะฟรีเอเย่นต์ในซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ แต่การยอมเสียนักเตะฟรี ๆ ของทีมพันล้านจากฝรั่งเศสนั้นไม่ได้แปลว่านักเตะมีปัญหาเรื่องวินัยหรือฟอร์มการเล่นแต่อย่างใด PSG เพียงเข้าสู่ช่วงผลัดใบ ต้องการนำแข้งสายเลือดใหม่เข้าสู่ทีมบ้าง ซึ่งนอกจากเมอร์นิเย่ร์แล้วยังมีอีกสองแข้งดังอย่าง เลแว็ง คูร์ซาว่า กับ เอดิสัน คาวานี่ ที่กำลังจะหมดสัญญาในท้ายฤดูกาลนี้เช่นเดียวกัน แน่นอนว่าบรรดาทีมหัวแถวในยุโรปต่างจ้องแข้งใกล้หมดสัญญาของ PSG ตาเป็นมัน เฉพาะแค่เมอร์นิเย่ร์คนเดียวตอนนี้ก็มีบรรดายักษ์ใหญ่ในยุโรปเทียวไล้เทียวขื่ออยู่ไม่ขาดนำโดยตัวเต็งอย่าง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ที่แว่ว ๆ ว่า โจเซ่ มูรินโญ่ ต่อสายตรงโทรเกี้ยวนักเตะให้ไปอยู่ด้วยกันแล้ว ตามมาด้วย อาร์เซน่อล, เชลซี, เอซี มิลาน และ แอตเลติโก้ มาดริด ที่แจ้งความจำนงค์ต่อเอเย่นต์ของนักเตะว่าพวกเขาก็ให้ความสนใจในตัว โธมัส เมอร์นิเย่ร์ อยู่เช่นกัน วิลเลี่ยน ปีกหัวฟูของเชลซีเป็นอีกคนที่สัญญาจะหมดลงหลังจบฤดูกาลนี้ แถมชัดเจนแล้วว่าเขาจะเก็บข้าวของออกจากถิ่น สแตมฟอร์ด บริจน์ อย่างแน่นอน เพราะทั้งสโมสรและนักเตะยินยอมจากกันด้วยดีเนื่องจากหาจุดลงตัวในเรื่องของสัญญาใหม่ไม่ได้ ทว่าตัวรุกทีมชาติบราซิลยังมีความสุขดีกับชีวิตในมหานครลอนดอนจึงเรียกแขกด้วยการหยอดคำหวานว่ายังอยากอยู่เมืองนี้ต่อ และถ้ามีสโมสรในลอนดอนยื่นข้อเสนอมาเขาก็จะรับไว้พิจารณาเป็นอันดับแรก ซึ่งเมื่อคำสัมภาษณ์นี้แพร่ออกไปแน่นอนว่าทั้ง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์, อาร์เซน่อล และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ต่างก็หูผึ่ง เพราะแม้วิลเลี่ยนจะอายุปาเข้า 32 ปีแล้วแต่ฝีเท้าของเขายังอยู่ในขั้นระดับโลกแถมเซ็นได้ฟรีแบบไม่ต้องจ่ายค่าตัวให้อริร่วมเมืองอย่างเชลซีแม้แต่แดงเดียวอีกต่างหาก คาลิดู คูลิบาลี่ ในวัย 29 ปีกองหลังร่างยักษ์จากนาโปลีทราบดีว่านี่เป็นรถไฟขบวนสุดท้ายในอาชีพของเขาแล้ว หากอยากประสบความสำเร็จในอาชีพค้าแข้งเขาคงต้องย้ายทีมในซัมเมอร์ที่จะถึงนี้เลย ดังนั้นจึงมีข่าวออกมาจากสื่อดังหลายสำนักว่ากองหลังทีมชาติเซเนกัลยื่นเรื่องต่อสโมสรขอขึ้นบัญชีย้ายทีมแล้ว และด้วยสถานการณ์ไวรัสระบาดเช่นนี้ต้นสังกัดอย่างนาโปลีเองก็อยากได้เม็ดเงินมาประคองสถานะทางการเงินของสโมสร ความต้องการของทั้งคู่จึงบรรจบกันพอดี ทว่าค่าตัวที่นาโปลีตั้งไว้แต่แรกเพื่อกันท่าบรรดาทีมเงินหนาที่ 100 ล้านยูโรเองก็จะถูกปรับลดลงมาเหลือเพียง 60-70 ล้านยูโรเช่นกัน เพราะทีมดังจากเมืองเนเปิ้ลมองแล้วว่าหากยืนราคาเดิมในสภาวะเช่นนี้คงไม่มีสโมสรใดยื่นซื้อเป็นแน่ เบื้องต้นทีมที่มีข่าวหนาหูกับคูลิบาลี่เวอร์ชั่นแปะป้ายเซลก็ได้แก่ แมนฯ ซิตี้, บาร์เซโลน่า, ปารีส แซงต์ แชร์แม็ง เป็นต้น ปิแอร์-เอเมอร์ริค โอบาเมยัง ไม่ต่อสัญญากับอาร์เซน่อลแน่นอนแล้วสำหรับศูนย์หน้า "เดอะ แบก" ทีมชาติกาบอง อันที่จริงแล้วเขาเกือบได้ย้ายทีมในช่วงมกราคมอยู่รอมร่อด้วยซ้ำ ทว่าจอมสังหารประตูวัย 29 ปีเลือกจะปัดข้อเสนอที่เย้ายวนใจด้วยความเคารพที่มีต่อแฟนบอลและทีมปืนใหญ่ โดยกองหน้าหัวตั้งให้เหตุผลว่าขอมุ่งมั่นทำภารกิจฤดูกาลนี้ให้เสร็จสิ้นก่อน นั่นก็คือการช่วยอาร์เซน่อลอย่างสุดความสามารถเพื่อไล่ล่าพื้นที่ฟุตบอลยุโรป และแม้จบฤดูกาลนี้โอบาฯยังคงมีสัญญาอยู่กับสโมสรอีกหนึ่งปีก็ตาม แต่บอร์ดบริหารทีมปืนใหญ่ตัดสินใจว่าจะไม่ยื้อให้เขาอยู่จนครบระยะเวลาของสัญญา โดยผู้บริหารของสโมสรกล่าวผ่านสื่อเลยว่าพวกเขาจะไม่ยอมปล่อยนักเตะให้ย้ายทีมฟรี ๆ เช่นเดียวกับกรณีของ แอร่อน แรมซีย์ อีกต่อไป อย่างน้อย ๆ สโมสรควรได้เม็ดเงินมาเพื่อปรับปรุงทีมให้ดีขึ้น ดังนั้นจึงเชื่อได้ว่าฤดูกาล 2019/2020 จะเป็นฤดูกาลสุดท้ายในสีเสื้ออาร์เซน่อลของปิแอร์-เอเมอร์ริค โอบาเมยัง ซึ่งเมื่อเจ้าตัวและสโมสรตัดสินใจเช่นนี้แล้วจึงมีข่าวว่าทั้ง บาร์เซโลน่า, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เอซี มิลาน และ ยูเวนตุส เฝ้าติดตามสถานการณ์ของศูนย์หน้ารายนี้อย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว จากปากคำของนักเตะเอง สถานการณ์รอบด้าน หรือแม้แต่ผู้เกี่ยวข้องต่างระบุชัดแล้วว่าในฤดูกาลหน้านักเตะเหล่านี้จะไม่อยู่กับสโมสรเดิมอีกต่อไป เพราะพวกเขาต้องไขว่คว้าโอกาสทองที่อาจเวียนมาเป็นครั้งสุดท้ายในอาชีพค้าแข้ง อีกทั้งมีตัวอย่างให้เห็นมานักต่อนักว่านักฟุตบอลที่ปฏิเสธโอกาสงาม ๆ ในช่วงโค้งสุดท้ายนั้นมักจะปิดฉากอาชีพของตัวเองได้ไม่สวยสักเท่าไร บางคนกลายเป็นแข้งไร้สังกัดจนเลิกเล่นไปเอง บางคนถูกขายทิ้งให้กับทีมเล็ก ๆ บางคนถูกปรับลดค่าจ้างเมื่ออายุมากขึ้น อีกจำนวนหนึ่งถูกยกเลิกสัญญาแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ดังนั้นหากต้องการโลดแล่นในฟุตบอลระดับสูงต่อไปหรือต้องการเป็นแชมป์ การย้ายทีมอาจเป็นทางเลือกที่เลี่ยงไม่ได้สำหรับกลุ่มนักเตะวัยใกล้แขวนสตั๊ดเหล่านี้ ขอบคุณภาพประกอบบทความโดย sport.trueid.net ภาพหน้าปก / ภาพที่1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3