นักกายภาพบำบัด คือใคร?“คุณพยาบาล คุณหมอ เจ้าหน้าที่” มีหลากหลายสรรพนาม ที่คนไข้เรียกเรา เมื่อมาทำกายภาพที่โรงพยาบาล ซึ่งเรานั้นไม่ใช่ทั้งพยาบาลและหมอ แต่จะบอกยังไงดีว่าเราคือใคร อธิบายก็คงต้องมียาวเหยียดแน่ ๆ ดังนั้นสำหรับบทความนี้นัทมี 5 ข้อที่จะมาคลายข้อสงสัย และพาทุกคนไปรู้จัก “นักกายภาพบำบัด” ให้มากขึ้น ว่าเค้าคือใคร ทำอะไรได้บ้าง และมีบทบาทหน้าที่อย่างไรในวิชาชีพสายสุขภาพกันค่ะภาพโดย Physiotherapy Vectors by Vecteezyนักกายภาพบำบัด (Physical Therapist)หรือบางที่ใช้ (Physio Therapist) เรียกเราสั้นๆว่า PT หรือ นักกายฯ1. กายภาพบำบัด เป็นหนึ่งในวิชาชีพสายสุขภาพ เรียน 4 ปี เหมือนกับหลายวิชาชีพสายสุขภาพอื่น ๆ เช่นพยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข นักเทคนิคการแพทย์ เป็นต้น ภาพโดยผู้เขียนโดยก่อนที่เราจะทำงานได้นั้น จำเป็นที่จะต้องสอบ “ใบประกอบวิชาชีพ” เพื่อรับรองว่าเราสามารถรักษาคนไข้ได้ โดยมีความรู้ ความสามารถและจรรยาบรรณ ตามมาตรฐานของสภา และวิชาชีพกายภาพบำบัด 2. นักกายภาพไม่ได้ทำแค่ในโรงพยาบาลเท่านั้น จริงอยู่ที่นักกายภาพส่วนใหญ่ทำงานตามโรงพยาบาล หรือคลินิก (หลายคนเวลาไปโรงพยาบาล ก็น่าจะเคยเห็น “แผนกกายภาพบำบัด” ผ่าน ๆ ตามาบ้างใช่ไหมล่ะคะ ) แต่จริงๆแล้วนักกายภาพบำบัดก็สามารถ ไปทำได้อีกหลายๆที่เลย ไม่ว่าจะเป็น นักกายภาพประจำทีมกีฬา ประจำฟิตเนส สถานเสริมความงาม หรือแม้กระทั่ง เป็นคุณครู ประจำศูนย์การศึกษาพิเศษภาพโดย unsplash3. เรียนกายภาพบำบัด ก็ได้ผ่าอาจารย์ใหญ่ อันนี้สำหรับบางมหาวิทยาลัยอาจจะแตกต่างกันไปเล็กน้อย เอาเป็นว่าอ้างอิงจากมหาวิทยาลัยที่นัทจบมาแล้วกันเนอะ (บอกใบ้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคเหนือตอนล่าง มีแมลงเฟรชชี่ และน้องคิตตี้ มหาศาล ) ค่ะกลับมาที่สาระของเรา >//<&nbsp;ย่างที่บอกไปสาขากายภาพบำบัด จำเป็นที่จะต้องผ่าอาจารย์ใหญ่ เพื่อเรียนรู้ถึงโครงสร้าง ระบบกระดูก กล้ามเนื้อ และ ระบบประสาทเป็นหลัก และจะต้องจำชื่อกล้ามเนื้อ หน้าที่การทำงาน เส้นประสาทที่มาเลี้ยง ให้ได้ เพื่อนำมาวิเคราะห์อาการบาดเจ็บ อาการปวดต่าง หรือ ความผิดปกติต่าง ๆ ทางกายภาพ จากระบบประสาทและกล้ามเนื้อพวกนี้นี่แหละค่ะ ภาพโดย unsplash 4. กายภาพบำบัด ไม่ได้ทำแค่ผู้ป่วยอัมพาต หรือผู้ป่วยติดเตียง กายภาพบำบัดเราแบ่งได้เป็น 4 ระบบหลัก ๆ คือ • กายภาพบำบัดในระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ หรือ (Orthopedic Physiotherapy) ภาพโดย unsplashใครที่ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดคอ-บ่าหมอนรองกระดูกทับเส้น เอ็นอักเสบ เราก็น่าจะคุ้นเคยกันดีภาพโดย Photo by Joyce McCown on Unsplash• กายภาพบำบัดในระบบประสาท หรือ (Neurological physiotherapy) : ส่วนนี้น่าจะเป็นภาพที่หลาย ๆ คนคุ้นเคย คือฟื้นฟูในผู้ป่วยที่มีปัญหาระบบประสาทเช่น อัมพฤต อัมพาต เป็นต้น ภาพโดย: unsplash.com• กายภาพบำบัดในระบบทรวงอก (Chest physiotherapy) : ส่วนนี้หลายๆคนไม่ค่อยทราบ ว่าภายภาพฯเรานั้น มีหน้าที่ฟื้นฟูผู้ป่วย ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ผู้ป่วยปอดอักเสบ ผู้ป่วยปอดแฟบ หรือผู้ป่วยโรคหัวใจ ผู้ป่วยก่อนและหลังผ่าตัดหัวใจ เป็นต้น ก็จะเจอกับผู้ป่วยใน (ผู้ป่วยที่นอนโรงพยาบาล) เป็นส่วนใหญ่ภาพจาก vecteezy• กายภาพบำบัดในเด็ก (Pediatric physiotherapy) : ระบบนี้หลายๆคนก็คงแอบตกใจว่า เอ๊ะ นักกายภาพมาทำอะไรกับเด็ก โดยหลัก ๆ แล้วเราจะฟื้นฟูในส่วนของเด็กที่มีปัญหาพัฒนาการล่าช้า ด้านการเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น เด็กสมองพิการ เด็กออกทิสติก เด็กดาวซินโดรม เป็นต้น คุณอาจจะได้เจอนักกายภาพที่เป็นครูด้วย ประจำอยู่ที่ศูนย์การศึกษาพิเศษ หรือโรงเรียนของน้อง ๆ เด็กพิเศษนั่นเองภาพโดย unsplashและในโรงพยาบาลใหญ่ ๆ ก็จะมีการแบ่งนักกายภาพเป็นระบบ ชัดเจน แต่โรงพยาบาลทั่วไป นักกายภาพ 1 คนก็ต้องรักษาได้ทั้ง 4 ระบบเช่นกัน 5. รักษาโดยไม่ใช้ยา หากถามหายารักษาจากนักกายภาพ ท่านอาจจะได้คำตอบเป็น รอยยิ้มงาม ๆ พร้อมกับคำว่า ออกกำลังกายตามที่สอนไป นะคะ ^__^ การรักษาทางกายภาพบำบัดนั้น เป็นการแก้ไขกลไกการทำงานของร่างกายที่ผิดปกติไปโดยส่วนใหญ่แล้วเป็นกลไกด้านกายภาพ ! ภาพโดย vecteezyถึงตรงนี้หลายคนอาจจะขมวดคิ้วและ มี ง งู 2ตัวในหัวว่าคืออะไร ง่าย ๆ คือร่างกายมีความผิดปกติทาง Mechanical ไม่ใช่ chemical ค่ะ พูดแล้วก็อาจจะดูงง ๆ ยกตัวอย่างง่าย ๆ ในคนที่เป็น หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท มีอาการปวดหลังร้าวลงขา อาการปวดนั้นมากจากการที่เส้นประสาทถูกหมอนรองกระดูกมาเบียด ทำให้เส้นประสาทอาจมีอักเสบได้ ก็เลยทำให้ปวดมาก ยิ่งเบียดมาก ก็ยิ่งร้าวลงขามาก นี่คือ กลไกที่ผิดปกติของร่างกาย เพราะหมอนรองกระดูไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่เขาควรจะอยู่ ในทางกายภาพ วิธีแก้ของเราคือ ก็ดันเค้ากลับไปอยู่ที่เดิมยังไงล่ะ วิธีดันก็ขึ้นอยู่กับนักกายภาพเลยค่ะ ว่าตรวจเจอความผิดปกติใด และแก้ส่วนไหน แต่หลักๆก็จะเน้นออกกำลังกาย (ต้องบอกก่อนนะว่าไม่ใช่ออกกำลังกาย วิ่ง เล่นกีฬาทั่วไป การออกกำลังกายเพื่อรักษานั้นจะต้องมีท่าเฉพาะ ที่ได้รับการออกแบบจากนักกายภาพที่ตรวจเท่านั้น ออกสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้น้าาา) หนึ่งสมอง สองมือ และหนึ่งหัวใจดังนั้นในทางกายภาพบำบัด หากเรารู้การทำงานที่ปกติของร่างกาย เราก็จะวิเคราะห์การทำงานที่ผิดปกติได้ และแก้ได้ด้วยสองมือและเครื่องมือของเราและนี่ก็เป็น 5 ข้อหลัก ๆ ที่นัทว่าจะทำให้หลาย ๆ คน รู้จักกับเราชาว PT มากขึ้นนะคะ ต่อไปนี้ถ้ามีปัญหาปวดหลัง ปวดไหล่ปวดเข่า ข้อเท้าแพลง แรงไม่มี มาปรึกษานักกายภาพบำบัดได้น้าาา