ไลฟ์แฮ็ก
3 เคล็ดลับเด็ด บริหารเวลา ฉบับ มนุษย์เงินเดือน
![The Anonymous Pen [TAP]](https://avatar.dmpcdn.com/p160x160/default.png){kind=avatar}
3 เคล็ดลับเด็ด บริหารเวลา ฉบับ มนุษย์เงินเดือน
กราบสวัสดี พี่ๆนักเขียนและนักอ่านทุกท่านด้วยครับ บทความนี้เป็นบทความแรกของ ผม TAP (The Anonymous Pen) ปากกาไร้นาม นักเขียนมือสมัครเล่นที่อยากจะมาแชร์เรื่องราวดีๆ และประสบการณ์ต่างๆ รวมถึงเกร็ดไอเดียน่ารู้มากมาย ที่มีอยู่รอบตัวเราครับ หากมีข้อมูลส่วนไหนที่ อ่านแล้วดูขัดๆ หรือไม่ถูกต้อง ผมขอน้อมรับทุกคำติ และคำชม เพื่อนำมาพัฒนา ปรับปรุงการเขียนให้อ่านง่ายมากขึ้นยิ่งครับ
หากจะพูดถึงเรื่องการบริหารจัดการเวลา ผมเชื่ออย่างสนิทใจว่า ทุก ๆคน ก็จะมีรูปแบบและวิธีการของใครของมัน ต่างกันออกไป ทุกสาขาอาชีพ ก็ล้วนมี เทคนิค และวิธีการเป็นของตัวเองอย่างอยู่บ้างไม่มากก็น้อย แต่สำหรับเทคนิคที่ผมจะนำมาเล่าสู่กันฟังวันนี้ ขอให้คิดว่ามานั่งฟังเพื่อนเล่าเรื่องแล้วกันครับ เพราะมาจาก ประสบการณ์การทำงานในฐานะมนุษย์เงินเดือนตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่ขอใช้พื้นที่เล็กๆแห่งนี้ ถ่ายทอดเรื่องราว ผ่านหน้าจอให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ ซึ่งจะมีวิธีการใดบ้างนั้น มาติดตามกันได้เลยครับ
Advertisement
Advertisement
1. To do list
หลายท่านอาจสงสัยว่า การจดรายการ สิ่งที่ต้องทำหรือเรียกว่า To do list นั้น จะช่วยให้เรา บริหารจัดการเวลาได้อย่างไรใช่ไหมครับ นิยามของคำว่าบริหารจัดการเวลา นั้นหากเราค้นหาข้อมูลดูใน อินเตอร์เน็ต จะพบว่า มีเยอะมาก เช่น ฮาวทู (How-to) และเทคนิคต่าง ๆ แต่ ! เราเองในฐานะผู้ที่ต้องอาศัย เวลาเป็นตัวดำเนินชีวิตต่อไป ก็ต้องเลือกดูว่าอันไหนมันเหมาะและนำมาประยุกต์ใช้กับเราได้บ้าง
การทำ To do list ทุกวันนี้ ก็มีอยู่ไม่กี่วิธี อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ก็คือ การจดบันทึกสิ่งที่จะต้องทำ ลงไปในสมุดโน้ตขนาดเล็ก พกพาได้ง่าย หรือไม่ก็กระดาษขนาดเล็ก ๆ กับอีกวิธีคือ การใช้งานแอปพลิเคชัน To do list บน Smartphone ซึ่งก็มีให้ทุกท่านได้เลือกใช้มากมาย ตามความชอบของแต่ละคนเลยครับ
การทำ To do list ไม่ว่าคุณจะถนัดวิธีการไหนก็ตาม มันจะช่วยให้เราเห็นภาพรวมทั้งหมดของสิ่งที่จะต้องทำ (To do list) ในวันนั้นๆ หรือ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง เหมือนการมองทุกอย่างในมุมมองแบบ Bird Eye View (มองจากมุมสูงลงมา) ซึ่งนั่นก็หมายความว่า เราจะมีเวลาบริหารจัดการ สิ่งต่าง ๆ ที่ต้องทำ ได้มากขึ้นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพราะเราจะเห็นทันทีเลยว่า ปริมาณงานหรือสิ่งที่ต้องทำทั้งหมดว่ามีปริมาณเท่าไร และสิ่งไหนที่ต้องทำก่อน-หลัง จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งจนเกินไปและอาจส่งผลกระทบกับงานที่เหลือของคุณวันนั้นทั้งวัน ก็เป็นได้
Advertisement
Advertisement
2. การเตรียมการล่วงหน้า
“หนึ่งในปัจจัยของ ทุกความสำเร็จ บนโลกนี้ ไม่ว่าจะเรื่องเล็ก หรือเรื่องใหญ่ ก็มักจะมาจากการเตรียมการล่วงหน้าก่อนเสมอ"
เพื่อให้เห็นภาพชัดๆ และใกล้ตัวที่สุด ผมขอยกตัวอย่างง่ายๆครับ หากคุณ คุณต้องออกไปประชุมกับลูกค้า นอกสถานที่ ซึ่งคุณเองก็ไม่เคยไปมาก่อน สิ่งแรกที่แวบเข้ามาในหัวเราคือ เส้นทางการไปสถานที่นั้น จุดสังเกต/สถานที่ใกล้เคียง ระยะเวลาเดินทาง รวมถึงทางลัด(ถ้ามี) สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นเหล่านี้ เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่หากเราได้ลองศึกษามาก่อนบ้างแล้ว จะช่วยให้เราไปถึงสถานที่นัดหมายได้เร็วขึ้นกว่าเดิมแน่นอน และยังมีเวลาเหลือให้เราได้เตรียมเนื้อหาที่จะพูดคุยกัน ก่อนเริ่มอีกด้วยครับ
หรือแม้กระทั่งการสำรวจตารางงานของตัวเองล่วงหน้า ก่อนวันเริ่มทำงานในเช้าถัดไป ก็ช่วยให้คุณนึกอะไรออกขึ้นได้เยอะ โดยที่เช้าวันถัดไป คุณจะไม่ต้องเสียเวลามานั่งนึกว่าเช้านี้จะต้องทำอะไรบ้าง เพราะคุณได้ทำงานของเช้าวันนี้ ตั้งแต่เมื่อคืนวานก่อนนอนเรียบร้อยแล้ว จึงทำให้เช้านี้คุณสามารถลงมือทำสิ่งที่ต้องทำได้อย่าง มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย
Advertisement
Advertisement
3. Say No !! กับการผัดวันประกันพรุ่ง
" เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยทำ " , " ไม่เป็นไรหรอก ยังมีเวลา "
ประโยคข้างต้น ผมเชื่อว่าทุกท่านน่าจะเคยได้ยินมาบ้าง ไม่มากก็น้อยในชีวิตการทำงาน หนึ่งในนั้นก็มีตัวผมด้วยเช่นกัน และผลลัพธ์ที่ตามมาอย่างไม่คาดคิดก็มักจะให้บทเรียนราคาแพงกับเราเสมอ
ครั้งหนึ่งที่ผู้เขียน จำได้ว่าจะต้องทำข้อมูลเพื่อนำเสนอในที่ประชุม สัปดาห์หน้า โดยได้รับโจทย์มาทำการบ้านช่วงต้นสัปดาห์ เมื่อเราเห็นหัวข้อ เรารู้อยู่แล้วด้วยสัญชาติญาณว่า เรื่องแค่นี้ไม่น่ามีอะไรยาก ทำแป๊ปเดียวก็เสร็จแล้ว จึงผัดวันประกันพรุ่งไป จนเวลาล่วงเลยไปจนปลายสัปดาห์ ซึ่งนั่นก็คือวันศุกร์ อย่างที่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ทุกคนเข้าใจดีอยู่แล้วว่า วันศุกร์เช่นนี้ เป็นวันที่เรามักจะมีพลังด้านลบ ทำให้เรามักจะไม่ขยันทำงานสักเท่าไร เข้ามาก่อกวนและรบกวนความสนใจในงานของเราอยู่ในใจเสมอๆ
ในที่สุด ผมก็พ่ายแพ้ต่อความขี้เกียจในตัว ผมเริ่มดูข้อมูลในคืนวันอาทิตย์ แล้วก็พบว่า มันมีเยอะและลึกเกินกว่าที่เราคาดการณ์ไว้จริงๆ ยิ่งค้นคว้า ยิ่งมีรายละเอียดค่อนข้างมากพอสมควร การที่เราจะ copy เนื้อหาแล้วมาวางใน สไลด์ สู้ว่าให้เขาเปิดเว็บอ่านเองยังง่ายกว่าเสียอีก
ผมเริ่มทำข้อมูล โดยอ่านให้เข้าใจถึงแก่นจริงๆว่ามันคืออะไร และมีอะไรที่ผู้คนควรจะรู้บ้าง หันมาดูเวลาอีกที ก็ปาเข้าไป ตี 3 แล้ว และในที่สุดงานก็มาเสร็จตอน ค่อนเช้าของวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันที่ต้องนำเสนองานพอดี
เมื่อถึงเวลาประชุมนำเสนองาน ก็มีจุดผิดพลาดอยู่พอสมควร ผมหลุดหัวข้อต่างๆที่ต้องคิด วิเคราะห์ ตามโจทย์ที่ได้รับ และก็ตีประเด็นไม่แตก จึงถูกหัวหน้าเรียกคุย เรื่องงานที่นำเสนอเมื่อช่วงเช้า ที่มีข้อผิดพลาดหลายจุดที่ยังขาดอยู่
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ผมฉุกคิดขึ้นได้ว่า การที่เราคิดว่าเรารู้แล้ว เราทำได้แล้ว ไม่มีอะไรยาก นั้นเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ ดังคำกล่าวที่ว่า "เหนือฟ้า ยังมีฟ้า" หรือ "บัณฑิตยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้น" ฉะนั้น อย่าชะล่าใจ หากคุณได้รับมอบหมายงานใดๆก็ตามที่สำคัญๆ ถึงแม้ว่าคุณจะคิดว่ามันง่ายสักแค่ไหน ยิ่งรู้ว่ามันง่าย ยิ่งต้องเริ่มลงมือทำก่อน ยิ่งดี เพราะการผัดวันประกันพรุ่งนั้น มันจะสร้าางนิสัยไม่ดีให้ตัวเรา และจะทำให้เราทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
ท้ายสุดนี้ ผมขอขมวดรวม ข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นว่า การบริหารจัดการเวลา ที่ดีและง่ายในแบบฉบับของมนุษย์เงินเดือนนั้น ซึ่งจริงแล้วมีแล้วรูปแบบและวิธีการอยู่มาก แต่สิ่งที่ผมนำเสนอไปนั้นก็จะมี การจัดทำ To do list, การเตรียมการล่วงหน้า และท้ายสุดคือ การไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง ครับ หากท่านใดมีประสบการณ์ตรงหรือไอเดียส่วนตัวที่ต้องการแชร์ ก็สามารถเล่าสู่กันฟังได้ที่ช่อง Comment ด้านล่างนะครับ
Cr.ภาพ
ภาพปก : by ผู้เขียน The Anonymous Pen [TAP] ถ่ายจากข้อมือตนเอง
ภาพที่ 1 : by ผู้เขียน The Anonymous Pen [TAP] ถ่ายจากหน้าจอ Tablet ของตัวเอง แต่งในแอป LD, Phonto
ภาพที่ 2: Pixabay นำมาแต่งใน phonto
ภาพที่ 3: Pixabay นำมาแต่งใน phonto
ความคิดเห็น
