“เก็บเรื่องมาเล่า โดยหนุ่ม สุทน” ทักทายกันวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม 2563 วันนี้หนุ่ม-สุทนจะเขียนเล่าเรื่อง 2 ราชธานีกั้นแบ่งด้วยสายน้ำคือแม่น้ำเจ้ายา “กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร” กับ “กรุงรัตนโกสินทร์” ราชธานีของชาวสยามและชาวไทยทุกวันนี้หรือชาวต่างชาติเรียกไทยแลนด์ เราเริ่มต้นที่เรื่องราวของประวัติศาสตร์เมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีในปี พ.ศ. 2310 ครั้งนั้นถูกกองทัพพม่าเผาเหลือไว้แต่ซาก เมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 พระเจ้าตากสินพร้อมกับเหล่าทหารที่ร่วมกันต่อสู้กองทัพพม่าเมื่อครั้งนั้นในประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา พระเจ้าตากสินหรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงกอบกู้เอกราช ของชาวกรุงศรีอยุธยากลับคืนได้แล้วก็เสด็จทางชลมารค จากราชธานีกรุงศรีอยุธยาถึงหน้าวัดมะกอกหรือวัดบางมะกอก ยามรุ่งอรุณ ถ้าภาษาชาวบ้านเรียกแจ้งแล้ว สว่างแล้ว ครั้งนั้นกล่าวว่าพระเจ้าตากสินหรือสมเด็จพระเจ้าตากสินเสด็จ ณ โบสถ์น้อย วัดมะกอก ทรงบูชาองค์พระพุทธรูปหลวงพ่อรุ่งมงคล ต่อมาเมื่อทรงโปรดฯ ให้สร้างราชธานีกรุงธนบุรีบริเวณปากคลองบางกอกใหญ่เพราะเป็นด่านตรวจเรือสินค้าหรือที่ตั้งป้อมปืนใหญ่ป้องกันข้าศึกทางทะเล เมื่อมีราชธานีกรุงธนบุรีแล้วก็ทรงโปรดฯ ให้บูรณะวัดมะกอกอยู่ในเขตพระราชฐานแล้วทรงให้ชื่อวัดแจ้ง วัดแจ้งเป็นวัดประจำราชธานีกรุงธนบุรี จึงไม่มีพระภิกษุสามเณรจำพรรษา ต่อมาเมื่อหมดยุคของกรุงธนบุรีแล้ว เข้ามาในปี พ.ศ.2325 เป็นยุคของกรุงรัตนโกสินทร์ พระราชวังเดิมเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรหรือต่อมาเสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นรัชกาลที่ 2 แห่งราชวงศ์จักรี ทรงพระนามว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ครั้งนั้นทรงโปรดฯ ให้บูรณะปฏิสังขรณ์วัดแจ้งขึ้นมาใหม่ แล้วทรงพระราชทานชื่อวัดอรุณราชธาราม ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงพระราชทานว่าวัดอรุณราชวราราม สำหรับทุกวันนี้คือวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร ดังนั้นสถานที่ซึ่งมีความสำคัญมาก ๆ ของวัดอรุณฯ 1. องค์พระปรางค์เริ่มสมัยรัชกาลที่ 2 และได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่อย่างต่อเนื่องจนสำเร็จสมบูรณ์ ทุกวันนี้ มองดูโดดเด่น สง่างามด้วยความสูงประมาณ 81.85 เมตร องค์พระปรางค์เป็นองค์ประธานพร้อมด้วยองค์พระปรางค์ 4 ทิศ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าเยี่ยมชมได้ทุกวันตั้งแต่เวลา08.00-17.30 น. การแต่งกายสุภาพ เพราะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 2. โบสถ์น้อยประดิษฐานองค์หลวงพ่อรุ่งมงคลพระประธานโบสถ์น้อยเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยาและเคยประดิษฐานองค์พระแก้วมรกต 2 ปี เมื่อครั้งอัญเชิญมาจากกรุงเวียงจันทน์ นอกจากนี้ก็มีพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีพระแท่นบรรทมของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชด้วย 3. พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 2 หันพระพักตร์ไปวัดโพธิ์ท่าเตียนหรือวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม 4. ทางเข้าอุโบสถมียักษ์ใหญ่ 2 ตน มองข้ามไปที่วัดโพธิ์ท่าเตียนหรือวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม 5. ภายในอุโบสถประดิษฐานองค์พระพุทธรูปธรรมมิศราชโลกธาตุดิลก ศิลปะรัตนโกสินทร์ ส่วนพระพักตร์ของพระพุทธรูปองค์นี้เชื่อกันว่ารัชกาลที่ 2 ทรงปั้นหุ่นด้วยพระองค์เอง วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร น่าเดินทางไปศึกษาประวัติศาสตร์เมื่อครั้งกรุงธนบุรีและกราบบูชาขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในบริเวณวัดอรุณ หนุ่ม-สุทนบอกอีกครั้งหนึ่งการแต่งกายต้องสุภาพเรียบร้อยเพื่อให้ความเคารพสถานที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ครับ เรื่องและภาพโดย : หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์ แฟนเพจเฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/ #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #ตะลอนชิมกาแฟทั่วไทย #เที่ยวทั่วไทยคลื่นข่าว100.5fm #คนรักษ์กาแฟ #bigmaptravel #เที่ยวเพลิน