หากพูดถึง "ศูนย์ฝึกกีฬาทางน้ำ" หลายท่านคงจะงงว่าสถานที่นี้คืออะไรกัน ข้างในมีอะไรบ้าง และที่ประเทศไทยกับในต่างประเทศนั้นต่างกันไหม วันนี้ผู้เขียนจะขอแชร์ประสบการณ์ในการได้ไปยังสถานที่ที่มีการฝึกกีฬาทางน้ำทั้งในไทยและต่างประเทศ และถือโอกาสพาทุกคนไปเยี่ยมชมศูนย์ฝึกกีฬาทางน้ำที่ประเทศกรีซ สาธารณรัฐเช็ก และอิตาลี ไปชมกันเลยค่ะก่อนอื่นจะขอแนะนำกีฬาทางน้ำให้ทุกคนได้รู้จักก่อนนะคะ กีฬาทางน้ำสามารถแบ่งตามสถานที่ในการเล่นได้ 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือกีฬาทางน้ำที่เล่นตามแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งกีฬาประเภทนี้มักจะอยู่กลางแจ้ง เช่น เรือพาย กระดานโต้คลื่น เจ็ตสกี เป็นต้น และในประเทศไทยก็มีศูนย์ฝึกกีฬาทางน้ำประเภทนี้ที่ บึงหนองบอน กรุงเทพมหานครนั่นเองกีฬาทางน้ำที่เล่นกันในสระว่ายน้ำ ตัวอย่างเช่น ว่ายน้ำ โปโลน้ำ ระบำใต้น้ำ กระโดดน้ำ เป็นต้นซึ่งในวันนี้ผู้เขียนจะขอแชร์ประสบการณ์ในการไปศูนย์ฝึกกีฬาทางน้ำที่เล่นกันในสระว่ายน้ำเป็นหลักค่ะ โดยประเทศไทยจะมีศูนย์ฝึกกีฬาทางน้ำอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ เช่น สระว่ายน้ำของการกีฬาแห่งประเทศไทย สระว่ายน้ำของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ และตามภาคต่าง ๆ ทั้งในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ เรียกได้ว่ากระจายอยู่ทั่วทั้งประเทศเลยทีเดียวกีฬาทางน้ำที่เป็นที่รู้จักในประเทศไทยมากที่สุดคงหนีไม่พ้นกีฬาว่ายน้ำ แต่กีฬาทางน้ำชนิดอื่นอย่างกีฬาโปโลน้ำก็ได้รับความนิยมและกำลังเป็นที่สนใจมากขึ้น เพราะประเทศไทยของเราสามารถคว้าเหรียญทองในกีฬาซีเกมส์ 3 สมัยซ้อน รวมถึงครั้งล่าสุดที่นักโปโลน้ำสาวไทยคว้าเหรียญทองในกีฬาซีเกมส์ 2019 ณ ประเทศฟิลิปปินส์ และปัจจุบันก็มีการคัดเลือกนักกีฬาโปโลน้ำทั้งชายและหญิงในหลายภาคทั่วประเทศไทย โดยเริ่มที่ศูนย์ฝึกในจังหวัดเชียงใหม่ นครราชสีมา และหาดใหญ่ เป็นทางเลือกให้กับเยาวชนได้แสดงความสามารถในกีฬาทางน้ำที่หลากหลายขึ้น และเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยจะมีความหลากหลายด้านกีฬาทางน้ำเพิ่มมากขึ้นด้วย (ภาพถ่ายโดยนักเขียน) ส่วนศูนย์ฝึกกีฬาทางน้ำที่จะพาทุกคนไปเยี่ยมชมนั้นจะพาไปไกลถึงยุโรป โดยอ้างอิงจากประเทศกรีซ สาธารณรัฐเช็ก และอิตาลี เป็นหลักค่ะ และต้องบอกว่าทางยุโรปนั้นผู้คนเล่นกีฬาทางน้ำกันจริงจังมาก เรียกว่าเล่นกันตั้งแต่เด็ก ๆ เลย ในตอนเย็นผู้ปกครองจะพาเด็ก ๆ มาเรียนว่ายน้ำ ออกกำลังเตรียมกล้ามเนื้อและความยืดหยุ่นในการเล่นระบำใต้น้ำ และมีส่วนที่กั้นแยกเพื่อฝึกโปโลน้ำ อย่างในภาพเป็นศูนย์ฝึกแห่งหนึ่งในกรีซ ซึ่งในศูนย์ฝึกดังกล่าวนอกจากจะมีกีฬาทางน้ำแล้วยังมีสนามบาส สนามฟุตบอล และฟิตเนสที่อยู่ในบริเวณเดียวกันอีกด้วย(ภาพถ่ายโดยนักเขียน) นอกจากการให้ความสำคัญกับเยาวชน ผู้สูงอายุก็สามารถมาที่ศูนย์ฝึกกีฬาทางน้ำเพื่อออกกำลังได้เช่นกันนะคะ โดยจะเป็นการเต้นแอโรบิคในน้ำ จะมีครูฝึกคอยบอกท่าทางและเปิดเพลงสนุกสนาน สาว ๆ รุ่นคุณย่าคุณยายเต้นกันอย่างกระฉับกระเฉงเลยค่ะ(ภาพถ่ายโดยนักเขียน) จากกรีซขอพามาชมที่สาธารณรัฐเช็คกันบ้าง ที่นี่ก็มีศูนย์ฝึกกีฬาทางน้ำที่อยู่ในหลายเมือง ผู้เขียนได้มีโอกาสไปที่ Prague และ Brno ค่ะ นอกจากกิจกรรมที่สามารถทำได้ในศูนย์ฝึกฯ แล้ว Facilities หรือสิ่งอำนวยความสะดวกข้างในก็น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กันค่ะ เวลาเราเข้ามาก็จะผ่านส่วนของห้องน้ำ-ห้องอาบน้ำที่มีน้ำอุ่นคอยบริการ ล็อคเกอร์และกุญแจสำหรับเก็บของ เครื่องเป่าผมที่ไม่ใช่แค่ไดร์เป่าผมอันเล็ก ๆ แต่เป็นเครื่องที่ติดกับผนัง เราขอให้ทุกคนจินตนาการถึงที่เป่ามือเครื่องใหญ่ที่ติดไว้เหนือศีรษะ เวลาอยากเป่าก็เอาตัวเข้าไปอยู่ข้างใต้ก็จะมีลมร้อน ๆ คอยเป่าให้ผมแห้ง รวมถึงที่ปั่นชุดว่ายน้ำ เรียกได้ว่าอุปกรณ์ครบเลยทีเดียว(ภาพถ่ายโดยนักเขียน) และสุดท้ายมาที่ประเทศอิตาลีกันบ้างค่ะ ที่นี่มีศูนย์ฝึกกีฬาทางน้ำแห่งหนึ่งที่ผู้เขียนประทับใจมากคือ Federal Center Polo Natatorio Ostia ที่นี่เป็นที่เก็บตัวของนักกีฬาว่ายน้ำระดับทีมชาติ บรรยากาศดีและอยู่ติดชายทะเล โดยภายในศูนย์ฝึกได้แบ่งเป็นสัดส่วนอย่างดี ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำกลางแจ้งและสระในร่ม อาคารที่พักและห้องพักที่มีห้องน้ำในตัว ซึ่งในส่วนนี้จะมีแม่บ้านคอยทำความสะอาดให้ทุกวัน เรียกได้ว่านักกีฬามาเก็บตัวก็สามารถทุ่มเทให้กับการซ้อมได้อย่างเต็มที่เลย ห้องฟิตเนสที่มีอุปกรณ์ครบครัน ห้องประชุมสัมมนาในกรณีที่โค้ชต้องการประชุมทีม ห้องกายภาพบำบัด และส่วนของห้องอาหาร เรียกได้ว่าอลังการ ครบครัน และอยากให้ประเทศไทยมีศูนย์ฝึกกีฬาทางน้ำที่ครบครันแบบนี้บ้างเลยค่ะ :) (ภาพถ่ายโดยนักเขียน)