ถ้าหากถามถึงนิยายอิงประวัติศาสตร์ของไทย เชื่อได้ว่า "สี่แผ่นดิน" ต้องเป็นหนึ่งในเรื่องที่หลายคนนึกถึงแน่ ๆ เพราะวรรณกรรมเล่มนี้เป็นวรรณกรรมอมตะที่อยู่คู่คนไทยมาช้านานจากปลายปากกาของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ถึงแม้เวลาจะผ่านมามากกว่า 60 ปี แต่สี่แผ่นดินก็ยังคงติดตรึงอยู่ในหัวใจคนไทย ด้วยเทคนิคการเขียนที่เมื่ออ่านแล้วเสมือนได้ย้อนเวลากลับไปในสมัยนั้นจริง ๆ ขอบคุณรูปภาพจาก : http://www.rimkhobfabooks.com/recommend-book/100bestbooks/974-690-035-8จากปลายปากกาสู่ไทม์แมชชีน ไม่ใช่ว่าใคร ๆ ก็สามารถเขียนพรรณนาจนทำให้คนอ่านจินตนาการภาพตามได้อย่างชัดเจน หากแต่ต้องผ่านการศึกษาข้อมูลมาเป็นอย่างดี หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมชเอง กว่าจะเขียนเรื่องสี่แผ่นดินขึ้นมาได้ต้องอาศัยการอ่าน การสอบถามข้อมูลจากผู้รู้จากนั้นจึงนำมาแต่งแต้มด้วยเทคนิคและกลวิธีจนทำให้ผู้อ่านเสมือนว่าได้นั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปดำเนินชีวิตร่วมกับแม่พลอยอย่างไรอย่างนั้นเลย เรื่องราวที่เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จนถึงรัชกาลที่ 8 เกิดเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ขึ้นมากมาย แต่หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมชก็สามารถขมวดเหตุการณ์และนำมาเชื่อมต่อเข้ากับชีวิตของแม่พลอยได้อย่างกลมกลืนลงตัว ถึงแม้บางเหตุการณ์จะไม่ได้ถูกเขียนลงไปอย่างละเอียดนักเนื่องจากเป็นการเล่าเรื่องผ่านมุมมองในชีวิตของแม่พลอยสาวชาววัง แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงเหตุการณ์นั้น ๆ ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ที่ได้จากสี่แผ่นดิน ขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.bagindesign.com/four-reigns/กระจกเงาแห่งวรรณกรรม แน่นอนว่าวรรณกรรมต่าง ๆ ย่อมสะท้อนแง่คิดให้ผู้อ่านได้คิดและนำไปปรับใช้ ในสี่แผ่นดินก็เช่นกัน การเล่าเรื่องผ่านแม่พลอยที่เป็นสาวชาววัง ซึ่งในสมัยก่อนผู้หญิงยังต้องเป็นผู้ตาม ยิ่งอยู่ในรั้วในวังกรอบประเพณีจึงหลอมแม่พลอยให้เป็นคนที่อ่อนน้อมและยอมง่าย แต่ก็ไม่ได้ยอมเสียทุกเรื่อง แม่พลอยเองก็นับได้ว่าเป็นนักสู้คนหนึ่ง แต่เป็นนักสู้ที่รู้จักยอมนั่นเอง จนกระทั่งแม่พลอยออกจากวังไปมีครอบครัว ผ่านเหตุการณ์บ้านเมือง ปัญหาที่ถาโถมเข้ามาในชีวิต แต่แม่พลอยก็ผ่านทุกปัญหามาได้ นี่จึงเป็นกระจกสะท้อนให้เห็นว่าชีวิตคนเราย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เราจะต้องยอมรับมันให้ได้และหาทางแก้ไขปัญหา ซึ่งเป็นเพราะนิสัยยอมอะไรง่าย ๆ ของแม่พลอยนี่เองจึงทำให้ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ยอมถอยออกมาบ้างเพื่อทำให้ปัญหาคลี่คลายลง ปัจจุบันนี้ถ้าคนเรารู้จักยอมกัน ปัญหาก็อาจจะไม่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าต้องยอมทุกเรื่อง เพียงแต่เราต้องรู้จักยอมในสิ่งที่ควรยอม อย่างเช่นแม่พลอยนั่นเองขอบคุณรูปภาพจาก : Page Facebook Scenario & Rachadalai https://www.facebook.com/Rachadalai/อ่านอย่างพินิจได้ข้อคิดจากสี่แผ่นดิน นอกจากข้อคิดในเรื่องของการยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นให้ได้แล้วนั้น ถ้าหากอ่านสี่แผ่นดินอย่างพินิจพิเคราะห์ เรียกได้ว่าทุกบทของสี่แผ่นดินมีข้อคิดสอดแทรกเอาไว้ให้เราได้นำไปปรับใช้อยู่เรื่อย ๆ ทุกคำพูด ทุกตัวอักษร ที่ถูกถ่ายทอดผ่านตัวละครต่าง ๆ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมชตั้งใจเรียงร้อยออกมาให้ทำหน้าที่สอนผู้อ่านในเรื่องต่าง ๆ ต้องได้อ่านเองแล้วพินิจพิเคราะห์ดู จะเห็นข้อคิดที่สอดแทรกอยู่ในปลายปากกาของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมชขอบคุณรูปภาพจาก : http://thefourthstagethemusical.blogspot.com/?m=1อินไปกับสี่แผ่นดิน สี่แผ่นดินเป็นวรรณกรรมที่ทำให้ผู้อ่านอินตามได้ตั้งแต่สมัยตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ด้วยเทคนิคการเขียน เนื้อเรื่อง ข้อคิด ทำให้เข้าถึงใจคนอ่านตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เคยมีเรื่องเล่าว่า มีผู้อ่านคนหนึ่งอินกับสี่แผ่นดินมากจนถึงขั้นตอนหนึ่งในเรื่องที่แม่พลอยตั้งท้อง แล้วบอกคุณเปรมผู้เป็นสามีว่าอยากกินมะม่วงเปรี้ยว ผู้อ่านท่านนั้นจึงส่งมะม่วงเปรี้ยวมาที่สำนักพิมพ์เพื่อให้แม่พลอยกิน สี่แผ่นดินทำให้คนอินได้มากขนาดนี้จึงไม่แปลกใจเลยที่ยังคงเป็นวรรณกรรมในใจผู้อ่านเสมอมา หากใครยังไม่เคยได้อ่าน ลองหามาอ่านดูรับรองว่าอินไม่แพ้กันแน่นอน นอกจากนี้สี่แผ่นดินยังเคยนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์และละครเวทีหลายเวอร์ชั่นยิ่งทวีความอินขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.dek-d.com/board/view/3694871/สี่แผ่นดิน คุณค่าที่คุณควรอ่าน ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวล ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่อง เทคนิคการเขียนที่เสมือนพาเราย้อนเวลา ได้อินกับตัวละคร ตลอดจนข้อคิดต่าง ๆ ที่สอดแทรกอยู่ในเรื่องจึงทำให้สี่แผ่นดินเป็นหนึ่งในหนังสือ 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน เป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์ที่รวบรวมเหตุการณ์สำคัญช่วงหนึ่งในรัตนโกสินทร์ไว้อย่างละเมียดละไม คุณจึงควรได้อ่านสักครั้ง เพราะสี่แผ่นดินคือ "วรรณกรรมทรงคุณค่าแห่งรัตนโกสินทร์"