ความสนุก ตื่นเต้น ลุ้นระทึก น่าประทับใจในการแข่งขันไตรกีฬานาวีเฉลิมพระเกียรติ Season 2 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2562 ที่จังหวัดนครพนมยังอวลอยู่ในความทรงจำ ผมเป็นทหารเรือรับราชการอยู่กองเรือดำน้ำ กองเรือยุทธการ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมโดยร่วมการแข่งขันประเภททีมโอลิมปิค ว่ายน้ำ 1500 เมตร ในงานไตรกีฬา เฉลิมพระเกียรติ ถิ่นน้ำสองสี เหล่าราชนาวี เทิดจักรีวงศ์ จัดโดย นรข. (หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง) ผู้ปกป้องอธิปไตยตามลำน้ำโขง เป็นการลงแข่งขันครั้งแรกของผมเอง ด้วยความไม่สมัครใจเท่าไหร่นัก โดยส่วนตัวผมว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายทุกวัน วันละ 3 กิโลเมตรในสระว่ายน้ำมาตรฐาน 50 เมตร ที่ผมไปลงแข่งไตรกีฬาในงานนี้ได้เพราะในหน่วยไม่มีนักกีฬาว่ายน้ำเลย เรียกว่าควานหาตัวกันค่อนข้างยากสำหรับนักกีฬาว่ายน้ำ ทหารเรือส่วนใหญ่ทุกคนว่ายน้ำเป็นแต่จะหาตัวคนที่ว่ายจริงจังแบบผมคงยาก ผมชอบเล่นกีฬามาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนที่โรงเรียนนายเรือ สมุทรปราการ เป็นนักกีฬารักบี้ เคยมีอุบัติเหตุหนักๆ จากการเล่นกีฬาคือไหล่หลุด ฟันบิ่นจากการการล้มกระแทกอย่างแรง กีฬากับทหารเป็นของคู่กัน การวิ่งเป็นการลงทุนชุดกีฬาที่ง่ายที่สุด เป็นการออกกำลังลังกายเบื้องต้นของทหารทุกคนตั้งแต่เข้าโรงเรียนเหล่าเลยก็ว่าได้ วิ่งออกกำลังกาย วิ่งเพราะโดนทำโทษ วิ่งเพราะพนันกับเพื่อน วิ่งเพราะโชว์หญิง มีหลายสาเหตุของการวิ่งจนติดเป็นนิสัย จนเป็นกิจวัตรประจำวันเพราะเราต้องมีสุขภาพพลานามัยที่ดีเสียก่อนจึงจะสามารถ ปกปองคุ้มครองผู้อื่นได้ แต่เหตุผลหลักในการวิ่งและเล่นกีฬาของผมคือ เป็นการเบิร์นเอาไขมันที่พอกพูนขึ้นมาตามอายุออกไปจากร่างกาย เพราะผมเป็นคนอ้วนง่าย ชอบทานขนม ของหวาน ทุกประเภท ถ้าไม่เล่นกีฬาเวลาแต่งเครื่องแบบจะรู้ได้ทันทีเลยว่ามันฟิตมาก อึดอัด ต้องรีบออกกำลังกายลดไขมันรอบพุงโดยเร็ว กลับมาเล่าเรื่องการลงแข่งไตรกีฬากันต่อ ผมเป็นนักกีฬาของหน่วยคนเดียวที่ได้รับการร้องขอให้เป็นตัวแทนหน่วยลงแข่งขันประเภทโอลิมปิคทีมในหมวดว่ายน้ำ 1500 เมตรเพราะยังขาดนักกีฬาอยู่หาคนลงไม่ได้ ปกติผมเป็นคนที่ว่ายน้ำทุกวันอยู่แล้วแต่ว่ายแบบไปเรื่อยๆ ไม่ได้ว่ายเพื่อจับเวลาหรือว่ายเอาท่าสวย เรียกว่าว่ายเพราะต้องการออกกำลังกายจริงๆ พอตกปากรับคำจากผบ.หน่วยเป็นตัวแทนของกองลงแข่งขันแล้วผมก็เริ่มซ้อมว่ายน้ำมากขึ้น มีโค้ชจากมนุษย์กบ คอยแนะนำการหายใจอย่างถูกวิธี ทำให้จังหวะพอดีไม่เหนื่อยมากนัก และที่สำคัญการว่ายน้ำในสระ การว่ายน้ำในทะเล และการว่ายน้ำในแม่น้ำต่างกันโดยสิ้นเชิงผมลองไปว่ายน้ำในทะเลแล้วรู้สึกว่ามันยากที่สุดเพราะทะเลมีคลื่นลมอยู่ตลอดเวลา น้ำไม่นิ่งเหมือนในสระว่ายน้ำ แถมยังเค็มและแสบตาอีกต่างหากแต่สถานที่ที่ผมจะต้องไปลงแข่งขันจริงๆ คือที่แม่น้ำโขงซึ่งผมไม่อาจรู้ได้เลยว่าการว่ายน้ำในแม่น้ำเป็นยังไงเพราะยังไม่เคยลองเลยจริงๆ แต่น่าจะดีกว่าการว่ายน้ำในทะเล อย่างน้อยก็เป็นน้ำจืดไม่แสบตา แต่ที่ผมเป็นกังวลก็คืออุณหภูมิในแม่น้ำตอนเช้าตรู่ที่ผมละต้องลงแข่งขันนี่ซิ ลองถามหาข่าวจากเพื่อนมนุษย์กบเค้าก็บอกว่าน้ำไม่เย็นเท่าไหร่ลงว่ายได้ไม่เป็นอันตราย ก็ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาได้บ้าง แต่กลับมีเหตุการณ์ระทึกใจที่เกิดขึ้นกับผมก่อนหน้าที่จะไปลงแข่งขันเพียงไม่กี่วัน ทุกวันศุกร์ตอนเย็นผมจะขับรถจากบ้านพักที่สัตหีบกลับมาบ้านที่เมืองนนท์และพอวันอาทิตย์เย็นก็ขับรถกลับไปสัตหีบเตรียมตัวไปทำงานเช้าวันจันทร์เป็นแบบนี้ทุกสัปดาห์ วันนั้นเป็นวันหยุดเช้าวันอาทิตย์ผมตื่นเช้าตามปกติ แต่รู้สึกได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ผมเวียนหัวเหมือนบ้านหมุน ไม่สามารถลุกขึ้นยืนทรงตัวได้ต้องรีบล้มตัวลงนอนไปตามเดิม ถ้าพยายามจะลุกขึ้นนั่งหรือเดิน จะมีอาการอยากจะอาเจียนขึ้นมาทันที ผมพยายามฝืนทำตัวให้เป็นปกติแต่ก็ไม่ดีขึ้น ผมนอนต่อหลับไปซักพักตื่นขึ้นมาอีกทีประมาณ 9 โมงเช้า พยายามทานข้าวต้มอาหารเช้าที่ภรรยาเตรียมไว้ให้เพื่อที่จะได้มีอาหารรองท้องบ้าง ผมโทร. หาหมอรุ่นน้องที่สนิทกัน เล่าอาการให้หมอฟังและขอคำแนะนำเบื้องต้นจากหมอทางโทรศัพท์ หมอแนะนำให้ผมลองวัดความดันดูว่ามีอาการความดันขึ้นสูงผิดปกติหรือเปล่า จริงอย่างที่หมอพูดไม่มีผิด ความดันผมขึ้นมาสูงมากกว่าปกติถึง 135 หมอแนะนำให้นอนพักซักครู่เดี๋ยวอีก 15 นาทีค่อยวัดใหม่ ครั้งที่สองผมวัดความดันได้ 129 ลดลงมานิดหน่อยแต่อาการโดยทั่วไปยังไม่ดีขึ้นเลย หมอแนะนำให้ผมไปหาหมอที่โรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย ผมก็รับปากว่าจะไปหาหมอที่โรงพยาบาลแต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่านอนพักอีกซักหน่อยก็คงจะดีขึ้นเองเพราะผมเคยเป็นแบบนี้มาครั้งนึงนานมากแล้ว คราวก่อนนั้นพอไปหาหมอจ่ายยามาให้ทาน ผมก็วางกองถุงยาไว้บนโต๊ะนั่นแหละอีกสองสามวันอาการมันก็ดีขึ้นมาเอง แต่คราวนี้มันหนักกว่าเดิม ผมถึงกับยืนทรงตัวไม่ได้ และอยากจะอาเจียรอยู่ตลอดเวลา หมอแนะนำชื่อยามาให้ 2-3 รายการ บอกจำนวนเม็ดรายละเอียดการกินยาแต่ละรายการส่งให้ผมทางไลน์ให้ผมไปซื้อยามาทานเองที่บ้านได้ถ้าไม่อยากไปหาหมอ ผมฝากภรรยาไปซื้อยามาให้ตามรายการที่หมอสั่ง ส่วนใหญ่จะเป็นยาแก้เวียนหัว ลดอาการอาเจียน ระหว่างนั่งรอยาอยู่ที่บ้านผมจิบได้แค่น้ำอุ่นนิดหน่อย กินอะไรไม่ได้เลย อาเจียนออกมาหมด จนกระทั่งเวลาประมาณหกโมงเย็น ในที่สุดผมทนทรมานกับอาการอาเจียนไม่ไหว เลยบอกให้ภรรยาช่วยขับรถไปส่งที่โรงพยาบาลทหารเรือปิ่นเกล้า เลี้ยวเข้าตึกฉุกเฉินเลย พอถึงโรงพยาบาลหมอซักถามอาการเบื้องต้นและจับวัดความดันทันที โอแม่จ้าว.....ความดันของผมสูงขึ้นไปถึง 185 ซึ่งสูงผิดปกติมาก หมอจับผมนอนบนเตียงและจัดการฉีดยาให้ 1 เข็มเข้าเส้นเลือดทันทีแล้วให้นอนพักที่ห้องดูอาการ ที่ตึกฉุกเฉิน ผมรู้สึกเป็นกังวลเพราะตามกำหนดวันพฤหัสฯ นี้ผมจะต้องเดินทางไปลงแข่งขันว่ายน้ำไตรกีฬาตามที่ได้รับปากกับ ผบ.หน่วยไว้ ผมต้องดินทางจากสัตหีบไปนครพนม เพื่อเตรียมตัวลงแข่งกีฬาในวันศุกร์ ผมตัดสินใจโทร.หา ผบ. แล้วเล่ารายละเอียดทุกอย่างให้ฟัง ท่านบอกว่าไม่ต้องเป็นกังวล ให้พักรักษาตัวให้หายดีก่อนเป็นอันดับแรกเรื่องอื่นๆ ไว้ว่ากันทีหลัง ผมนอนพักไปประมาณ 45 นาทีก็รู้สึกว่าอาการดีขึ้นมากแต่ยังไม่สมบูรณ์เหมือนเดิมเต็ม 100% ผมคิดว่าที่อาการดีขึ้นทันตาเห็นคงเป็นเพราะยาที่หมอฉีดให้ผมเข็มนั้นแน่ๆ ผมถามพยาบาลว่าเอายาอะไรฉีดให้ผม "อ๋อคุณหมอสั่งฉีดยาลดอาการอาเจียรให้ค่ะ" อีก 15 นาทีต่อมา หมอก็อนุญาตให้ผมกลับบ้านได้ จ่ายยาแก้อาเจียนให้กลับไปทานที่บ้านด้วย กับยาแก้แพ้เม็ดสีเหลืองบอกว่าทานยานี้แล้วจะง่วงนอนเพราะหมอต้องการให้ผมนอนพักผ่อนให้เต็มที่ กลับมาถึงบ้านประมาณสามทุ่มผมอาบน้ำเข้านอนทันที ใจก็เป็นกังวลว่าพรุ่งนี้เช้าวันจันทร์ผมจะขับรถไปทำงานที่สัตหีบได้หรือเปล่า เช้าวันจันทร์ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเองประมาณตีสี่รู้สึกว่าร่างกายดีขึ้นมาก ได้นอนหลับพักผ่อนเต็มที่ แต่ยังมีอาการมึนๆ อยู่บ้างนิดหน่อย ผมอาบน้ำแต่งตัวเตรียมจะขับรถไปทำงานที่สัตหีบ ภรรยาผมเป็นกังวลเธอไม่อยากให้ผมขับรถทางไกลไปคนเดียวแต่ผมมั่นใจว่าผมไปได้ไม่เป็นอะไรแล้ว 8 โมงเช้า ผมถึงบ้านที่สัตหีบเรียบร้อยไปทำงานได้ตามปกติ ส่งไลน์มาบอกภรรยาว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ผมทำงานที่กองตามปกติจนถึงวันเดินทางไปจังหวัดนครพนม ผบ. สั่งให้ลูกน้องจองตั๋วเครื่องบินให้ผมเป็นกรณีพิเศษตั้งแต่ตอนที่ผมรับปากว่าจะเป็นตัวแทนหน่วยไปลงแข่งว่ายน้ำเพราะผมอาวุโสสูงสุดรองจาก ผบ. คือผมแก่ที่สุดในทีมนั่นเอง ผบ.ท่านเลยสั่งให้ลูกน้องในกองดูแลผมเป็นพิเศษเพราะผมเป็นตัวแทนไปในนาม ผบ.หน่วยด้วย ผมเลยได้รับสิทธิพิเศษในการเดินทางอยู่คนเดียว วันพฤหัสฯ บ่าย ลูกน้องมารับผมที่บ้านไปขึ้นเครื่องที่สนามบินอู่ตะเภา เครื่องออกบ่ายสามไปลงที่สนามบินอุดรฯ มีรถมารับจากสนามบิน ขับไปทางสกลนครต่อไปยังนครพนมเป็นจุดหมายปลายทางในการเดินทางครั้งนี้ ส่วนคนอื่นๆ ขึ้นรถตู้ของหน่วยขับจากสัตหีบไปนครพนมซึ่งไกลพอประมาณ ผมถึงนครพนมค่ำๆ เข้าพักโรงแรมที่ ทางกองทัพเรือจัดไว้รับรองทีมนักกีฬาและทีมงานผู้เกี่ยวข้อง ตื่นเช้า ทานอาหารที่โรงแรมเรียบร้อยทีมนักกีฬาของที่กองขับรถมาถึงพร้อมกันแล้ว ทางหน่วย นรข. (หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง) ได้จัดรถมารับพาไปเที่ยวชมเมืองนครพนม กราบพระธาตุพนมที่เป็นศูนย์รวมจิตใจเป็นที่เคารพของชาวไทยและชาวลาว นครพนมมีคำขวัญประจำจังหวัดว่า .......ธาตุพนมล้ำค่า วัฒนธรรมหลากหลาย เรณูผู้ไท เรือไฟโสภา งามตาฝั่งโขง....... ว่ากันว่าถ้าใครได้มีโอกาสมาสักการะพระธาตุพนม 7 ครั้งจะถือว่าเป็นลูกพระธาตุ เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและจะมีความเจริญรุ่งเรือง ในบริเวณฐานขององค์พระธาตุด้านในจะไม่อนุญาตให้ผู้หญิงเข้าโดยเด็ดขาดให้กราบพระธาตุได้แค่ด้านนอกเท่านั้น แต่ผมและทีมนักกีฬาได้เข้ากราบพระธาตุถึงห้องด้านในโดยการอำนวยความสะดวกของทีม นรข. ที่มาประสานงานให้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยผู้ที่จะเข้ากราบพระบรมสารีริกธาตุด้านในต้องสวมชุดขาวทุกคน นับว่าเป็นบุญของผมและคณะที่ได้มีโอกาสดีเช่นนี้ นอกจากพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุอยู่ในองค์พระธาตุแล้วยังมีของมีค่ามากมายนับหมื่นชิ้นถูกบรรจุไว้ภายในองค์พระธาตุด้วย งานสักการะพระธาตุพนม กำหนดจัดขึ้นในวันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี ซึ่งถือว่าเป็นงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่และสำคัญของชาวนครพนมและจังหวัดใกล้เคียงนอกจากนี้ที่นครพนมยังมีเทศกาลงานไหลเรือไฟเป็นอีกงานหนึ่งที่ขึ้นชื่อของจังหวัดจัดขึ้นในช่วงเทศกาลออกพรรษา และแล้ววันแห่งการแข่งขันก็มาถึงผมรู้สึกตื่นเต้นพอสมควรตื่นเเต่เช้าไปเตรียมการลงทะเบียนที่ริมโขงตั้งแต่ตีสี่โดยผมถูกกำหนดให้ลงแข่งขันว่ายน้ำในเวลา 7 โมงเช้าได้หมวกว่ายน้ำสีฟ้ามีสายยางรัดข้อเท้าสีฟ้าเป็นตัวจับวัดระยะทางและคอยบันทึกเวลาตั้งแต่เริ่มการแข่งขัน เมื่อผมว่ายน้ำครบตามกำหนดระยะทางต้องขึ้นจากน้ำนำสายรัดข้อเท้าไปส่งให้เพื่อนในทีมปั่นจักรยานและนักวิ่งต่อไปจนเข้าเส้นชัยตามเส้นทางที่กำหนด การปล่อยตัวนักกีฬาว่ายน้ำกลางแม่น้ำโขงจะปล่อยตัวเป็นรอบๆ ไปตามกำหนดของการแข่งในแต่ละประเภท ผมโดดน้ำตูมลงไปธรรมดาพยายามหาที่ว่างสำหรับตัวเองลอยคอท่าลูกหมาพยุงตัวออกไปซักระยะเพื่อหาจังหวะการตั้งตัวตรงเพื่อออกท่าว่ายน้ำให้ได้โดยไม่ไปชนกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ มีนักกีฬาว่ายน้ำเยอะมาก ทุกคนพยายามหาที่ว่างเป็นของตัวเองและพยายามพุ่งออกไปข้างหน้าหนีออกจากกลุ่มให้ได้มากที่สุด เพราะถ้ารวมอยู่ในกลุ่มกันเป็นกระจุกก็จะไม่สามารถว่ายน้ำได้เลยได้แต่ลอยคอ แถมยังเจอปลาตีนของคนที่อยู่ข้างหน้าเราอีกเสี่ยงอันตรายพอสมควร พอผมได้จังหวะเหมาะแก่การว่ายน้ำก็เริ่มปรับตัวหาจังหวะการว่าย เนื่องจากแปลกที่ไม่คุ้นเคย รวมทั้งมีความตื่นเต้น คนเยอะทั้งนักกีฬาและกองเชียร์บนฝั่งแม่น้ำตลอดระยะทาง กว่าเครื่องจะติดก็นานเอาการอยู่เหมือนกัน แต่พอเครื่องร้อนได้ที่แล้ว ทีนี้ผมว่ายแซงอุตลุต พอขึ้นฝั่งได้รีบเดินเอาสายรัดข้อเท้าไปส่งต่อให้เพื่อนในทีมทำภาระกิจในการแข่งจักรยานและวิ่งต่อไปจนครบจบเส้นทาง ส่วนตัวผมพอทำหน้าที่เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้วก็กลับไปนอนพักผ่อนรออยู่ที่โรงแรม รอสรุปฟังผลและร่วมงานเลี้ยงตอนเย็นเลยทีเดียวไม่ได้อยู่รอเชียร์ใคร ผลสรุปการแข่งขันประเภททีมได้ลำดับที่ 81 จาก สองร้อยกว่าทีมก็โอเคแล้ว สำหรับผมถือว่าแฮปปี้เอนดิ้งครับ