เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าในช่วงนี้สถานการณ์โควิด-19 ได้กลับมาแพร่กระจายในบ้านเราอีกครั้ง จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน สภาวะทางเศรษฐกิจที่กำลังเริ่มขยับตัวขึ้นบ้างในช่วงก่อนหน้านี้นั้นอาจจะกลับมาฝืดเคืองอีกครั้ง วันนี้เราจึงมีคำแนะนำดีๆ ในการใช้จ่ายเงินในกระเป๋าของท่านเพื่อเป็นการรับมือในช่วงที่สถานการต่างๆ ยังคาดเดาอะไรไม่ได้1.ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและวางแผนการใช้เงิน สิ่งแรกที่เราควรทำในสถานการณ์ความไม่แน่นอนนี้ คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่าย ซึ่งเราควรลดหรือตัดสิ่งที่ฟุ่มเฟือยไม่จำเป็นออกไปก่อน เช่น ก่อนช้อปทุกครั้งให้ลองคิดทบทวนก่อนว่าเรามีความจำเป็นที่ต้องซื้อสิ่งเหล่านั้นหรือไม่ หรือการลดการกินข้าวนอกบ้านโดยหันมาทำกินเองที่บ้าน รู้จักวางแผนการใช้เงิน หากเป็นไปได้ให้ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย มีการวางแผนงบใช้จ่ายรายวันและรายเดือน ซึ่งจะทำให้เราบริหารจัดการเงินได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ2.หารายได้เสริม เพิ่มช่องทางสร้างรายได้ อีกหนึ่งช่องทางการหารายได้ซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบันคือการขายของออนไลน์ ซึ่งเราสามารถหาสินค้าต่างๆ มาขายเพื่อเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง เช่นของกิน ของใช้ เสื้อผ้าแฟชั่นต่างๆ สินค้าที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน หรือแม้กระทั่งของใช้มือสองที่เราไม่ได้ใช้แล้ว ก็สามารถนำมาออกมาขายออนไลน์เพื่อเป็นการสร้างรายได้เสริมได้อีกทางหนึ่ง3. เมื่อเป็นหนี้ก็ต้องจ่าย หากเรามีหนี้อันเนื่องจากความจำเป็นแล้ว สิ่งสำคัญคือเราต้องบริหารจัดการให้ดี หากสถานะทางการเงินยังไม่แน่นอน เราไม่ควรเร่งนำเงินไปทุ่มในการใช้หนี้ ควรชำระตามกำหนดที่ทางเจ้าหนี้ได้ทำสัญญากับเราไว้ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน และการสำรองไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือยามเกิดเหตุฉุกเฉิน และที่สำคัญคือไม่ควรผิดชำระ หรือหยุดจ่ายหนี้โดยเด็ดขาดเพื่อรักษาเครดิตให้กับตนเอง หากมีความจำเป็นหรือเดือดร้อนจริงๆ ควรเข้าไปปรึกษา เจรจาต่อรองกับทางเจ้าหนี้เพื่อหาทางออกและมาตรการช่วยเหลือจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย4. ต้องรู้จักเก็บออมเงินไว้ใช้จ่ายในอนาคตหรือยามฉุกเฉิน เป็นอีกสิ่งสำคัญที่เราควรทำหากยังพอมีรายได้เหลือจากการใช้จ่ายนั่นก็คือการออมเงิน เพื่อรองรับเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตเช่น กรณีเจ็บป่วย ค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน หรือแม้กระทั่งการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันก็ตาม ซึ่งเราควรมีเงินเก็บไว้ใช้ในอนาคตหรือยามฉุกเฉินให้เพียงพออย่างน้อยสำหรับระยะเวลา 6 เดือน กับสถานการณ์ที่ยังมีความไม่แม่นอน เราลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้ดูเพื่อให้เรามีความพร้อมในการรับมือกับสิ่งต่างๆที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้เราสามารถดำรงชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุข ไม่เดือดร้อนในภายภาคหน้า ขอบคุณรูปภาพจาก pixabay.com รูปปก / รูปประกอบที่ 1 / รูปประกอบที่ 2 / รูปประกอบที่ 3 / รูปประกอบที่ 4