เมื่อครั้งอดีตกาลจนถึงปัจจุบันสงครามมีอยู่ทั่วทุกแห่งหนบ้างรุนแรงแค่กลุ่มเล็ก ๆ บ้างรุนแรงระดับประเทศ บ้างรุนแรงระดับโลก ในทั่วทุกแห่งหนไม่เคยมีที่ใดที่สงบสุขทุกอย่างจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเนื่องมาจากผลประโยชน์ทั้งสิ้น โศกนาฏกรรมครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อ พ.ศ 2488 จำนวนคนญี่ปุ่นที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ Fat Man ในครั้งนี้มีจำนวนหลักหมื่น ๆ คน บ้างก็ว่าราว ๆ 40,000 คน บ้างก็ว่า 70,000 คน บ้างก็ว่าราว ๆ 80,000 คน หรือบ้างก็ว่าเสียชีวิตหลักแสนคน ผู้อ่านทุกท่านลองนึกสภาพ ที่เราเป็นเด็กที่ยังไม่รู้ความสูญเสียพ่อแม่ สตรีที่กำลังตั้งครรภ์ สามีที่สูญเสียภรรยา ภรรยาที่สูญเสียสามี น้องที่สูญเสียพี่ พี่ที่สูญเสียน้อง ว่ามันน่าเศร้าขนาดไหน ภาพถ่ายโดยผู้เขียนบทความ เด็กที่ได้รับผลกระทบจากสารกัมมันตรังสีในพิพิธภัณฑ์ Atomic Bomb Museum คนที่เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้เยอะมากเป็นเหตุการณ์รุนแรงระดับโลกในประวัติศาสตร์อย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะบ้างเล่าว่าอเมริกาทิ้งระเบิดปรมาณูที่เรียกว่า Fat Man ลงที่จังหวัดนางาซากิในญี่ปุ่นเพื่อบีบบังคับให้ชาวญี่ปุ่นยอมแพ้หรือจะเรียกได้ว่าอเมริกาเล่นนอกเกมเพื่อบีบบังคับให้คนญี่ปุ่นยอมแพ้โดยการมุ่งเป้าทำร้ายประชาชนชาวญี่ปุ่นเพื่อบ่งบอกว่าถ้าญี่ปุ่นไม่ยอมแพ้ประชาชนทั่วไปก็จะถูกฆ่าตายไปเรื่อย ๆ จนญี่ปุ่นต้องประกาศยอมแพ้ บ้างเล่าว่าญี่ปุ่นไม่ยอมจำนนจึงทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ภาพถ่ายโดยผู้เขียนบทความ รูปภาพและเสื้อผ้าของคนที่ตายจากระเบิดปรมาณู Fat Man ในพิพิธภัณฑ์ Atomic Bomb Museum เนื่องจากในช่วงนั้นคนญี่ปุ่นสามารถบุกเข้ามาในอาณาเขตของอเมริกาได้ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาได้ออกคำสั่งให้ทิ้งระเบิด Fat Man ลงนางาซากิโดย ระเบิดทำงานที่ระดับสูงเหนือเมืองนางาซากิ ทำให้ผู้คนภายในเมืองนางาซากิถูกระเบิดปรมาณูลงโดยไม่มีสิ่งใดที่สามารถป้องกันได้ทำให้เกิดผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ผู้ที่โดนใกล้ที่สุดร่างกายสลายหายไปไม่เหลือสิ่งใดแม้กระทั่งกระดูก เรื่องราวไม่ได้จบเพียงเท่านี้ แม้ปรมาณูจะระเบิดไปแล้วแต่ยังมีสารกัมมันตรังสีที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากระเบิดอยู่ทำให้ผู้ที่ถูกสารกัมมันตรังสี บาดเจ็บล้มตายอีกนับหมื่น ๆ คน ภาพถ่ายโดยผู้เขียนบทความ เสื้อผ้าของคนที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ระเบิดปรมาณู Fat Man ในพิพิธภัณฑ์ Atomic Bomb Museum ถึงแม้เหตุการร์นี้จะเกิดจากที่คนอเมริกันต้องการให้สงครามสิ้นสุดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่ช่างเป็นเหตุการณ์ที่โหดร้ายและทารุณมาก ๆ เลยล่ะตั้งแต่โศกนาฏกรรมเมื่อครั้งอดีตจนถึงปัจจุบันที่เมืองนางาซากิได้เปิด พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณู หรือที่เรียกว่า Atomic Bomb Museum ใครที่สนใจประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับปรมาณู Fat Man ก็สามารถไปดูได้เลยมีทั้งรูปภาพของคนที่โดนระเบิดปรมาณูและสารกัมมันตรังสีหรือของใช้ที่ได้รับผลกระทบเยอะแยะเต็มไปหมดเลยแถมที่พีคที่สุดคือมีคลิปของจริงที่กองทัพอเมริกาถ่ายทำตั้งแต่การจัดเตรียมระเบิดจนปล่อยระเบิดลงอีกด้วย ภาพถ่ายโดยผู้เขียนบทความ ของใช้ในสมัยระเบิดปรมาณู Fat Man ที่หลงเหลือ ในพิพิธภัณฑ์ Atomic Bomb Museum เหตุการณ์ที่ชาวญี่ปุ่นไม่มีวันลืมแม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน บางครอบครัวของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์แต่ยังหลงเหลือผู้รอดชีวิตอยู่ยังจำเรื่องนี้ได้ ได้เล่าให้ลูกหลานฟังจากรุ่นสู่รุ่น ที่ระเบิดถูกเรียกว่า Fat Man เนื่องมาจากรุปร่างของตัวระเบิดปรมาณูเป็นรูปร่างทรงอ้วน ใครที่ชอบด้านประวัติศาสตร์หรือสนใจเรื่องนี้สามารถไปที่พิพิธภัณฑ์ Atomic Bomb Museum ที่ตั้งอยู่ในเมืองนางาซากิของประเทศญี่ปุ่นได้เลย