อื่นๆ

โรงเรียนของเราน่าอยู่

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
โรงเรียนของเราน่าอยู่

เรื่องนี้เกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดอุตรดิตถ์ที่อยู่รอบนอกห่างตัวเมืองไปไกล ตอนนั้นครูของเราสอบบรรจุครูได้ใหม่ๆ จึงถูกส่งให้ไปสอนนักเรียนในโรงเรียนที่กันดารแห่งหนึ่ง ด้วยความที่โรงเรียนอยู่ไกลจากบ้านจึงต้องไปพักที่บ้านพักครู ในบ้านพักครูจะมีครูอีกคนหนึ่งชื่อว่า ศรี ครูศรีอยู่ที่นี่มานานมากพักอยู่ในบ้านพักครูคนเดียวมาตลอด เพิ่งมีครูของเราชื่อว่า หน่อย มาอยู่กับครูศรี บ้านพักครูมีลักษณะเป็นบ้านไม้กึ่งปูน ชั้นล่างเป็นปูนมีห้องครัว ห้องนั่งเล่น และห้องน้ำ ส่วนชั้นบนเป็นไม้มีห้องนอนสองห้อง และห้องน้ำ

ในทุกวันๆ วันครูหน่อยกับครูศรีจะผลัดกันตรวจเวรยามดูแลรอบๆ โรงเรียนแห่งนี้ วันนั้นเป็นเวรของครูหน่อย เมื่อถึงช่วงเย็นครูหน่อยเดินเปิดไฟรอบโรงเรียน และเดินตรวจตามห้องในโรงเรียน ระหว่างที่เดินอยู่ในอาคาร ครูหน่อยรู้สึกว่ามีใครเดินตาม พอครูหน่อยหยุดเดินก็เหมือนว่าคนๆนั้นก็หยุดเดินเช่นกัน พอเดินต่อก็เหมือนมีคนเดินตาม ครูหน่อยจึงหันไปดูข้างหลัง แต่ไม่พบใคร จึงเดินกลับไปทางเดินเพื่อเช็คให้แน่ใจว่าไม่มีใครเดินอยู่ข้างหลังหรือมีนักเรียนแอบอยู่ไม่ยอมกลับบ้าน แต่ไม่พบใครจึงไปคุยกับครูศรี

Advertisement

Advertisement

เล่าให้ครูศรีฟัง ครูศรีพูดขึ้นมาว่า “ปกติก็แบบเนี่ยแหละ ไม่ต้องคิดมาก” ครูหน่อยสงสัยคำว่าปกติของครูศรี แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อเก็บความสงสัยไว้ในใจ จนกระทั่งวันนั้นครูหน่อยออกไปทานหมูกระทะกับครูที่โรงเรียนรู้สึกอิ่มมาก ครูหน่อยจึงเดินออกไปเดินเล่นในโรงเรียนเพื่อย่อยอาหาร ระหว่างที่เดินอยู่ตรงสนาม ได้ยินเสียงคนวิ่งอยู่บนอาคาร และเปิดปิดประตูหน้าต่างเสียงดัง ครูหน่อยจึงเงยหน้ามองขึ้นไปบนอาคารกลับไม่เห็นใคร และทั้งอาคารปิดไฟหมด เปิดไฟแค่บริเวณโดยรอบกับทางขึ้นลงของอาคาร ครูหน่อยจึงรีบเดินกลับไปที่บ้านพัก ครูหน่อยเดินไปบ้านพักด้วยหน้าตาซีดเหมือนไปเจออะไรมา ครูศรีที่กำลังดูทีวีอยู่จึงทักครูหน่อยว่า “ไปเจอดีมาล่ะสิ” ครูหน่อยหันไปมองหน้าครูศรีแล้วก็ยิ้ม จากนั้นก็รีบอาบน้ำนอนทันที ระหว่างที่พยายามนอนหลับอยู่ก็ได้ยินเสียงเด็กมาวิ่งเล่นในห้อง ดึงผ้าห่มบ้าง ครูหน่อยจึงพูดในใจว่าเดี๋ยวจะทำบุญไปให้นะ เด็กคนนั้นก็หัวเราะแล้วก็หายไป

Advertisement

Advertisement

เช้าวันรุ่งขึ้นครูหน่อยจึงรีบไปถามครูศรีว่าเรื่องราวที่ตัวเองได้เจอนั้นมันเป็นมายังไง ครูศรีเล่าให้ฟังว่า “ก่อนที่โรงเรียนจะสร้างที่นี่เคยเป็นป่าช้ามาก่อน ก็จะมีดวงวิญญาณมาให้เห็นบ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้มีอะไร จนมาเมื่อสองสามปีก่อน มีเด็กนักเรียนคนหนึ่งจมน้ำตายหลังโรงเรียน ทางโรงเรียนจึงทำรั้วกันสระไม่ให้ใครลงไปเล่นอีก แต่ดวงวิญญาณเด็กคนนั้นไม่ยอมไปไหน ยังวนเวียนอยู่ในโรงเรียน ถ้าจะให้ดีถ้ามืดแล้วก็อย่าออกไปไหน ถ้าไม่อยากเจอ และถ้าได้ยินอะไรเสียงดังไม่ต้องออกมานะ ถ้ากลัวว่าจะเป็นขโมยก็โทรเรียกลุงยศให้มาดูให้” ครูหน่อยได้ยินดังนั้นก็ขนลุกขึ้นมาทันที และหลังจากวันนั้นถ้าฟ้ามืดลงครูหน่อยก็จะไม่ออกไปเดินเล่นในโรงเรียนอีกเลย

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์