สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ตั้งแต่เด็กจนโต หลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินชื่อโรคเรื้อรัง 3 โรคหลัก ๆ คือ โรคความดัน โรคไขมัน และโรคเบาหวาน ซึ่งโรคเหล่านี้อยู่คู่กับคนไทยมาแสนนาน คนไข้ส่วนใหญ่ที่ไปพบแพทย์ตามนัด ก็มักจะมีโรคเหล่านี้อยู่ด้วย ขอบคุณรูปภาพจาก https://pixabay.com/ ในปัจจุบันนี้มีผู้ป่วยโรคเบาหวานมากขึ้น โดยเฉพาะเบาหวานในคนที่ยังมีอายุน้อย ส่วนใหญ่เกิดจากการรับประทานอาหารเป็นหลัก ซึ่งโรคเบาหวาน เป็นกลุ่มโรคที่เกิดจากความผิดปกติในการหลั่งอินซูลิน หรือความผิดปกติในการออกฤทธิ์ของอินซูลินหรือทั้งสองอย่าง การที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานานๆ ในโรคเบาหวานจะก่อให้เกิดความผิดปกติและการทํางานต่ออวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ได้แก่ ตา ไต เส้นประสาท หัวใจและหลอดเลือด ความผิดปกติพื้นฐานทางเมตะบอลิสมของร่างกาย เป็นต้น ขอบคุณรูปภาพจาก https://pixabay.com/ เบื้องต้นผู้ที่ถูกตรวจพบว่าน้ำตาลในเลือดสูง แพทย์จะแนะนำให้คุมอาหารอย่างเคร่งครัด แต่หากน้ำตาลในเลือด มากกว่าหรือเท่ากับ 126 mg% เมื่อได้รับการตรวจซ้ำ 2 ครั้ง จะต้องเริ่มทานยาเม็ดรักษาโรคเบาหวาน แต่หากผู้ป่วยคนใด ไม่สามารถคุมน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในช่วงเป้าหมายได้ แม้ว่าจะทานยาไปหลายกลุ่ม หรือตรวจพบน้ำตาลในเลือด >300 mg% หรือ น้ำตาลสะสมในเลือด >11% ร่วมกับมีอาการน้ำตาลในเลือดสูง ตามแนวทางการรักษาโรคเบาหวานของไทย จะแนะนำให้เริ่มการใช้ยาฉีดอินซูลิน วันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำการใช้ยาฉีดอินซูลิน แบบใช้ syringe กันค่ะ ขวดยาอินซูลินไม่ว่าจะเปิดใช้หรือไม่ จะต้องเก็บในตู้เย็นช่องธรรมดาตลอดเวลา (ไม่เก็บตรงฝาตู้เย็น ช่องแช่แข็งหรือช่องผัก) เพื่อป้องกันยาเสื่อมภาพ และหลังเปิดใช้แล้ว ยาจะมีอายุไม่เกิน 6 สัปดาห์ ขอบคุณรูปภาพจาก https://pixabay.com/ ขั้นตอนการใช้ยาฉีดอินซูลิน มีดังนี้ 1.นำขวดยาออกจากตู้เย็น แล้วล้างมือให้สะอาดก่อนฉีดยาทุกครั้ง 2.วางขวดยาบนฝ่ามือในแนวนอน กลิ้งขวดยาไปมา 10 ครั้งเพื่อให้ยาผสมเข้ากัน ห้ามเขย่าขวดยาอินซูลินเพราะจะทำให้เกิดฟอง 3.ดึงอากาศเข้ามาในเข็มฉีดยาให้เท่ากับปริมาณยาที่ต้องการฉีด โดย 1 ขีดจะเท่ากับ 2 ยูนิต (เช่นต้องการฉีด 8 ยูนิต ก็จะต้องดึงเข็มลงมา 4 ขีด) และระวังอย่าให้มือสัมผัสปลายเข็มเพราะอาจปนเปื้อนเชื้อโรค ขอบคุณรูปภาพจาก https://pixabay.com/ 4.ปักเข็มลงบนจุกยางตรงๆแล้วคว่ำขวดยาขึ้น อากาศที่ดึงไว้จะถูกดูดเข้าไปในขวด จากนั้นดูดยาให้ขอบบนของจุกยางตรงกับปริมาตรที่ต้องการฉีด 5.หากมีฟองอากาศค้างในกระบอกฉีดยา ให้ดันยากลับเข้าไปแล้วดูดยาใหม่อีกครั้ง ทำซ้ำจนกว่าจะมั่นใจว่าไม่มีฟองอากาศเหลืออยู่ เพราะหากมีฟองอากาศ จะทำให้ผู้ป่วยได้ปริมาณยาฉีดที่ไม่ครบตามที่ต้องการ 6.ก่อนฉีดยาให้ทำความสะอาดผิวหนัง ด้วยสำลีชุบแอลกอฮอล์ เลือกตำแหน่งที่ต้องการฉีดบริเวณใดบริเวณหนึ่งที่ถนัด ได้แก่ ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง บั้นเอว 7.จากนั้นใช้นิ้วดึงผิวหนังบริเวณที่จะฉีดให้ยกสูงขึ้น 8.แทงเข็มฉีดยาเข้าไปให้ตั้งฉากกับผิวหนังจนมิดปลายเข็ม ค่อยๆกดลูกสูบให้ยาไหลออกจนหมด แล้วคาเข็มค้างไว้ 10 วินาทีก่อนดึงเข็มออก 9.หลังดึงเข็มออก ใช้สำลีกดบริเวณที่ฉีดไว้สักครู่โดยไม่นวดหรือคลึง เพื่อป้องกันไม่ให้ยากระจายตัวเร็วเกินไป และเข็มฉีดยา 1 อัน สามารถใช้ซ้ำได้หลายครั้ง ผู้ป่วยอาจเปลี่ยนเข็มฉีดยา เมื่อเริ่มรู้สึกว่าเจ็บเวลาแทงเข็ม ขอบคุณรูปภาพจาก https://pixabay.com/ เป็นยังไงบ้างคะ ขั้นตอนการฉีดอินซูลิน โดยใช้ syringe ค่อนข้างยุ่งยากใช่ไหมคะ แต่ทราบหรือไม่คะว่า ผู้ป่วยที่อายุ มากกว่า 80 ปี ก็สามารถฉีดได้ด้วยตนเอง และดึงเข็มได้อย่างแม่นยำด้วย แต่ใครที่กลัวเจ็บ ในปัจจุบันนี้ก็มีอินซูลินชนิดปากกา ที่ใช้ง่านง่าย และพกพาสะดวกมากกว่าการฉีดอินซูลินแบบใช้ syringe แต่อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นโรคดีที่สุดค่ะ แต่หากใครเป็นแล้ว พยายามควบคุมอาหาร ทานยา/ฉีดยาตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ ออกกำลังกาย เพื่อให้น้ำตาลในเลือดอยู่ในช่วงเป้าหมายนะคะ ขอบคุณข้อมูลโรคเบาหวานจาก แนวทางเวชปฎิบัติสำหรับโรคเบาหวาน 2560 https://www.dmthai.org/attachments/article/443/guideline-diabetes-care-2017.pdf