ช่วงนี้คุณผู้อ่านทุกท่านยังคงต้องกักตัวอยู่บ้านกันใช่ไหมคะ แล้ววันว่าง ๆ ของคุณผู้อ่านทำอะไรบ้างคะ แน่นอนว่าคำตอบของหลาย ๆ คนอาจจะแตกต่างกันไป ตามความชอบของแต่ละบุคคล แต่สิ่งที่เหมือนกันนั่นคือ เวลาส่วนมากที่หมดไปในชีวิตของเรา ต้องมีความเกี่ยวข้องกับโลกออนไลน์อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น การช้อปปิ้งออนไลน์ การเล่น Social ต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งการเรียนออนไลน์ เป็นต้น นับได้ว่าโลกออนไลน์เป็นสิ่งจำเป็นและต้องการของทุกคนในยุคนี้คงปฎิเสธไม่ได้เลยว่า โลกออนไลน์ คือสิ่งที่ให้ความสะดวก สบาย อีกทั้งสามารถให้ความสุขแก่เราได้เป็นอย่างมาก ในปัจจุบันการมีโลกออนไลน์ทำให้พฤติกรรมของคนเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม การที่ทุกคนสามารถแสวงหาความสุขได้ในโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น การแสดงความคิดเห็น การสร้างตัวตน หรือสิ่งที่สามารถนำมาตอบสนองต่อความต้องการของตัวเอง นับได้ว่าทุกสิ่งสามารถหาได้ภายในอินเทอร์เน็ต เพียงแค่อยู่หลังคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรือแท็บเล็ต เราก็สามารถหาสิ่งที่เราต้องการได้ กล่าวได้ว่าอุปกรณ์เหล่านี้ เป็นเสมือนทางเชื่อมระหว่างตัวเรากับโลกออนไลน์เข้าด้วยกัน แต่อีกนัยหนึ่งเราก็ต่างปฎิเสธไม่ได้ว่า มันคือทางเชื่อมระหว่าตัวเรากับภัยเงียบที่แฝงมาในคาบของความสุข ที่เราเรียกว่า โรคออนไลน์ นั่นเองโรคออนไลน์ เกิดจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในการใช้อินเทอร์เน็ต อาทิ การเล่นอินเทอร์เน็ตเป็นระยะเวลานานติดต่อกัน เป็นต้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน ได้แก่1.ดวงตา หากในแต่ละวัน เราจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการทำงาน หรือใช้โทรศัพท์เพื่อให้ความบันเทิง เราอาจไม่รู้ตัวเลยว่า ได้นั่งอยู่หน้าจอโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ต นานเท่าไหร่แล้ว ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะทำให้เกิดผลเสียต่อดวงตาเป็นอย่างมาก โดยมีอาการต่าง ๆ เกิดขึ้นอาทิ อาการตาแห้ง ตาเสื่อม ตาอักเสบ ความเมื่อยล้าของสายตา อาจทำให้ปวดตา และส่งผลทำให้ปวดหัวได้ เป็นต้น เมื่อมีอาการเหล่านี้สะสมกันไปนาน ๆ อาจทำให้ส่งผลเสียในระยะยาวต่อดวงตาของเราได้ อาทิ สายตาสั้นลง การเป็นวุ้นในตาเสื่อม วิธีการป้องกันเบื้องต้นจากอาการเหล่านี้ เช่น การพักสายตาทุก ๆ 1 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้สายตาล้าเกินไป หรืออาจพักสายตาโดยการมองออกไปที่ไกล ๆ เป็นต้น 2.การปวดเมื่อยตามร่างกาย หากเพื่อน ๆ เป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องนั่งทำงาน หรือนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือนาน ๆ อีกทั้งยังมีพฤติกรรมการนั่งที่ไม่ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ อาจทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพได้ในระยะยาว โดยอาการเริ่มต้นอาจจะเกิดขึ้นได้ตั้งแต่การเริ่มปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดข้อมือ เป็นต้น เมื่อสะสมเป็นระยะเวลนานอาจถึงขั้นทำให้เกิดการอักเสบ การปวดเรื้อรัง หรือโรคยอดฮิตที่หนุ่มสาวออฟฟิศเป็นกัน นั่นคือโรคออฟฟิศซินโดรมนั่นเอง วิธีการป้องกันจากอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย อาทิ การไม่นั่งไขว่ห้างเป็นเวลานานติดกัน, อย่านั่งหลังงอ หลังค่อมเวลา, การลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายทุก ๆ 1 ชั่วโมง เป็นต้น 3.คลื่นรังสีจากคอมพิวเตอร์ มีหลายคนเคยสังเกตว่า เมื่อตัวเองอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานาน เริ่มรู้สึกได้ว่าหน้าตาตัวเองหมองคล้ำขึ้น หรือมีงานวิจัยที่อ้างว่า คนท้องในช่วง 3 เดือนแรก ไม่ควรอยู่หน้าจอคอมนานเกินไป อาจส่งผลกระทบในด้านการเจริญเติบโตของเด็กในท้อง ดังนั้นเพื่อน ๆ ควรเลี่ยงการอยู่หน้าคอมเป็นระยะเวลานาน เพราะหน้าจอคอมพิวเตอร์มีการแผ่รังสีต่าง ๆ อาทิ รังสีอัลตราไวโอเลตที่ส่งผลกระทบต่อผิว, คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่อาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็กในท้อง เป็นต้น 4.เชื้อโรคจากคอมพิวเตอร์ ในทุกวันนี้เราจำเป็นที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการทำงาน หรือใช้เพื่อมอบความสุขและความบันเทิงให้แก่ตัวเรา ซึ่งปฎิเสธไม่ได้เลยว่าทุกคนต้องการใช้คอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมากขึ้น มีหลายครั้งที่เราจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ส่วนรวมในที่ทำงาน หรือแม้แต่ตามอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ แต่หารู้ไม่ว่าที่นั่นเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดีเลยทีเดียว จากการมี่มีคนใช้มากมายทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคต่าง ๆ อาทิ เชื้อไข้หวัด เชื้อรา เป็นต้น อาจทำให้ผู้ใช้บริการเสี่ยงติดเชื้อได้ อีกทั้งหน้าจอคอมพิวเตอร์มีไฟฟ้าสถิต จึงทำให้ดูดฝุ่นเข้ามาเกาะที่หน้าจอ เมื่อเราหายใจเข้าไป อาจทำให้เกิดภูมิแพ้ได้เช่นกัน ในทุกวันนี้อินเทอร์เน็ตถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในชีวิตของพวกเราทุกคน อีกทั้งอินเทอร์เน็ตได้สร้างความสะดวกสบาย ความบันเทิง และความสุขให้แก่ชีวิตของเราเป็นอย่างมาก ยิ่งช่วงนี้ทุกคนต้องกักตัวอยู่บ้าน กิจกรรมส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นการนั่งเล่นอินเทอร์เน็ตชิว ๆ ที่บ้าน ซึ่งมันก็สร้างความสุขให้เราได้เป็นอย่างมาก แต่หากเพื่อน ๆ ขาดความตระหนัก และละเลยการดูแลตัวเอง อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ในอนาคต ดังนั้นผู้เขียนขอให้บทความนี้เป็นตัวสร้างความตระในการใช้อินเทอร์เน็ตของทุกคนนะคะ หวังว่าทุกคนจะตระหนักถึงภัยเงียบที่เกิดจากการใช้อินเทอร์เน็ตและดูแลป้องกันตัวเอง เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคนค่ะ ขอบคุณรูปภาพหน้าปก: Unsplashรูปภาพที่ 1: Unsplashรูปภาพที่ 2: Unsplashรูปภาพที่ 3: Unsplashรูปภาพที่ 4: Unsplash