โตเกียวทาวเวอร์ กับ ความโดดเดี่ยวของสังคมเมือง เชื่อว่าทุกคนต่างมีวัยที่ต้องการออกห่างจากอกของพ่อแม่เพื่อต้องการไปมีชีวิตเป็นของตัวเอง หรือมีความต้องการการใช้ชีวิตไปสู่สิ่งที่ดีกว่าอย่างที่ต้องการ ในหนังสือ “โตเกียวทาวเวอร์ แม่กับผม และพ่อในบางครั้งคราว” ของลิลี่ แฟรงกี้ เล่าเรื่องที่อ้างอิงมาจากชีวิตของผู้แต่งเองในช่วงเวลาหนึ่ง โตเกียวทาวเวอร์ อันเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองใหญ่ ความเป็นสังคมเมือง และบ่งบอกถึงอัตลักษณ์ของสังคมร่วมสมัย กับเรื่องราวความผูกพันระหว่างแม่ลูกอันเชื่อมโยงถึงสังคมดั้งเดิมที่คนร่วมสมัยทั้งอยากผละจากและโหยหามันอย่างถึงที่สุด สิ่งเหล่านี้เต็มไปด้วยความสุข เศร้า อบอุ่นหัวใจ และจะสถิตในใจไม่ว่าเราจะจากไปที่ไหน ๆ บนโลกก็ตามสุดท้ายเมื่อความโดดเดี่ยวของเมืองเข้าครอบงำ คนในสังคมร่วมสมัยต่างตระหนักถึงความสัมพันธ์ครั้งแรกเริ่มระหว่างครอบครัว แม้มีช่วงหนึ่งที่เรารู้สึกตัดขาด แต่บางสิ่งบางอย่างภายในตัวเรายังคงมีความทรงจำส่วนนั้นร่วมด้วยเสมอ เช่นเดียวกับมาซายะและแม่ แทบทุกคนมีช่วงชีวิตวัยเด็กผูกติดอยู่กับคนเป็นแม่เสมอ และแม่เป็นบุคคลเดียวในช่วงวัยเด็กที่ไม่ว่าจะเป็นเด็กหญิงหรือเด็กชายก็มักให้ความสนิทสนมกับผู้เป็นแม่มากกว่าความสัมพันธ์ใด ๆ ในครอบครัว ความผูกพันเช่นนี้ฟังดูอบอุ่นอ่อนโยนก็จริงอยู่ แต่ลึก ๆ กลับมีเรื่องเล่าที่แสนเศร้าซ่อนอยู่เช่นเดียวกันมีคำกล่าวว่าวัยเด็กนั้นสั้นนัก นั่นคงเป็นคำกล่าวที่เป็นความจริงไม่มากก็น้อย เช่นเดียวกับ มาซายะกับผู้เป็นแม่ มาซายะและเด็กอีกหลายคนไม่อาจอยู่ในอ้อมอกแม่และถวิลหามันได้ตลอดเวลา เมื่อทุกคนเติบโต ผู้เป็นแม่อาจกลายเป็นจุดเล็ก ๆ จุดหนึ่งในชีวิตแห่งการเริ่มต้น ที่ไม่ช้าเราก็กำลังจะผละจากมันไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้กลับตรงข้ามกับเรื่องราวความเป็นแม่ กล่าวได้ว่า เมื่อก้าวเข้ามาเป็นแม่ของใครสักคน ชีวิตของเราเสมือนถูกแบ่งออกไปจนแทบหมดสิ้น สุดท้ายกว่าจะรู้ตัว ผู้เป็นแม่ก็ไม่เหลือพื้นที่แห่งชีวิตเพื่อตัวเองอีกต่อไปความเจริญรุ่งเรืองของสังคมเมืองที่มาซายะเคยปรารถนา แสงสีแห่งมหานครโตเกียวที่ส่องสว่างแทบทุกโมงยาม สุดท้ายสีสันเหล่านั้นไม่เคยส่องเข้ามาถึงดวงตาและจิตใจอย่างแท้จริง นี่คือภาวะความโดดเดี่ยวของเมืองอันยากที่จะบรรยายเป็นความรู้สึกที่ลุ่มลึก ยิ่งเติบโตมากขึ้นและเลือกเดินในเส้นทางที่เมื่อครั้งวัยเยาว์เราไม่เคยเข้าใจว่าผู้ใหญ่ทำมันไปทำไม สิ่งเหล่านี้กลับทำให้เราโหยหาตัวตนเมื่อครั้งวัยเยาว์ซึ่งผูกติดอยู่กับความเป็นครอบครัวที่คนหนุ่มสาวผละจากมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของแม่ บ้านเกิดเมืองนอน และพ่อในบางครั้ง นั่นคือตัวตนของเราในช่วงเวลาหนึ่ง เป็นสถานที่แรกที่เราเริ่มทำความรู้จักกับตัวเอง รวมถึงเป็นสถานที่สุดท้ายในตอนจบของใครบางคนซึ่งใช้ทั้งชีวิตเป็นจุดแรกเริ่มของตัวเราการกลับสู่ความสัมพันธ์ระหว่างมาซายะกับผู้เป็นแม่ในช่วงเวลาแห่งตอนจบในชีวิตใครคนหนึ่ง ความโดดเดี่ยวของสังคมเมืองที่มาซายะก้าวเข้ามากลายเป็นสิ่งขับเน้นความอ้างว้างและเร่งเร้าอารมณ์โหยหาเรื่องราวในอดีต ไม่มีใครกลับสู่จุดเริ่มต้นได้เมื่อเวลาผ่านเลยไป แต่สิ่งสำคัญคือเราเรียนรู้ที่จะโอบอุ้มความทรงจำเหล่านั้นไว้ให้ดีที่สุดโดยไม่ต้องมีความเสียใจในทุกครั้งที่ต้องนึกย้อนกลับมาได้นั่นเอง หนังสือเรื่องนี้จึงเสมือนเครื่องเตือนใจสำหรับคนยุคใหม่ในปัจจุบัน บางครั้งเมื่อเราเติบโต กลับยิ่งถอยห่างและหลงลืมความสัมพันธ์และตัวตนในวัยเด็ก สิ่งนั้นคือครอบครัวที่เราผละจากมา เรื่องราวของแม่และลูก เป็นคำอธิบายถึงเรื่องราวของครอบครัวได้เป็นอย่างดี ส่องสะท้อนถึงวัยเด็กที่หลายคนมักมีแม่อยู่เคียงข้าง ลองอ่านหนังสือเรื่องนี้ รับรองว่าเราจะรักแม่มากขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน โตเกียวทาวเวอร์ แม่กับผม และพ่อในบางครั้งคราว โดย ลิลี่ แฟรงกี้ แปล ทิพย์วรรณ ยามาโมโตะ พิมพ์ครั้งที่ 7 แพรวสำนักพิมพ์ พ.ศ. 2556ภาพปก : Pexels / ภาพที่ 3 : Clker-Free-Vector-Images จาก Pixabay ภาพที่1,2 โดย K.N.