" โครงการเพื่อสังคม Community Service " ยังจำเป็นไหมสำหรับนางงามยุคปัจจุบัน ? หลาย ๆ คนอาจจะมีคำถามว่าทำไมนางงามในยุคสมัยก่อนจึงต้องลงไปช่วยสังคมไม่ว่าจะเป็นแหล่งชุมชน สตรี เด็ก คนชรา และสมัยนี้นางงามยุคใหม่ยังต้องทำโครงการช่วยเหลือสังคมอีกหรือไม่ ? บทความนี้จะเป็นคำตอบให้กับคนที่สงสัยขอบคุณภาพจาก Pexelsการที่ผู้หญิงคนนึงจะเริ่มก้าวเข้าสู่การประกวดนางงามนั้น ควรเริ่มจากการทำโครงการเพื่อเป็นอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่ใช้สื่อสารหรือบอกกล่าวถึงประชาชนให้ทราบเกี่ยวกับการรณรงค์ ไม่ว่าจะเป็นการรณรงค์ด้านสตรีที่เป็น Main หลักสำหรับการประกวดนางงามแล้วยังมีด้านอื่น ๆ ที่สามารถรณรงค์ได้เช่นด้านเด็กการศึกษาคนชราด้านเพศ / เพศทางเลือก ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับช่วงเวลาของการประกวดนางงามที่แฟน ๆ นางงามหลาย ๆ คน รอคอย... และเหล่าสาวงามบางคนที่จะลงสมัครก็เริ่มใช้ Social Media ในการประชาสัมพันธ์ตัวเองเพื่อให้เป็นที่รู้จัก อีกทั้งยังเริ่มโปรโมทโครงการเพื่อสังคมเพื่อให้แฟนนางงามเข้าไป Support กันอย่างล้นหลาม หลาย ๆ คนเกิดคำถามว่า เอ๊ะ ทำไมนางงามต้องทำโครงการเพื่อสังคม ทำไปแล้วได้คะแนนจากคณะกรรมการเพิ่มมากขึ้นหรอ ? ขอบคุณภาพจาก Pexelsจริง ๆ แล้วโครงการเพื่อสังคมมันก็มีความสำคัญพอสมควร ความสำคัญในที่นี้หมายถึงเครื่องมือในการผลักดันตัวผู้เข้าประกวดหรือการสร้างสตอรี่เพื่อให้เกิดรูปธรรมที่ชัดเจนว่าตัวผู้เข้าประกวดนั้นจะส่งเสริมผลักดันสังคมในด้านใด อีกทั้งยังทำให้แฟนนางงามที่เป็นกองเชียร์ของผู้เข้าประกวดคนนั้นรู้สึกดีและเกิดความสนใจในตัวผู้เข้าประกวดเท่านั้นเอง เพราะมีผู้เข้าประกวดทำโครงการในช่วงที่ประกวดเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปก็ไม่สานต่อโครงการ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นแบบนั้นไปซะทุกคน นางงามบางคนก็ยังคงสานต่อโครงการของตัวเองถึงแม้การประกวดจะจบลง อย่างเช่น นิโคลีน - พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ รองอันดับ 1 Miss World 2018 / Miss Thailand World 2018 ที่ยังคงสานต่อโครงการดี ๆ เพื่อสังคมด้านเด็กที่เป็น Autism ขอบคุณภาพจาก IG : Nicolene.pb ขอบคุณภาพจาก IG : Nicolene.pbโครงการของนิโคลีนมีชื่อโครงการว่า "Love For All" ที่อยากส่งเสริมให้คนในสังคมยอมรับและเข้าใจบุคคลออทิสติก พร้อมทั้งช่วยสร้างพลังความสามารถและความเชื่อมั่นของบุคคลออทิสติก (Empowerment) และคำพูดของนิโคลีนที่ทำให้รู้ว่าการเปลี่ยนชีวิตเด็กออทิสติกมีค่ามากกว่า 'มงกุฎ' ก็คือ "สิ่งที่เขาเป็นอาจจะแตกต่าง แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาด้อยกว่าใคร"และอีกคนที่ยังสานต่อโครงการได้แก่ นิ้ง - โศภิดา จิระไตรธาร TOP 10 Miss Universe 2018 / Miss Universe Thailand 2018 เจ้าของโครงการ "Unlock Unwrap" โครงการที่เกี่ยวกับการสร้างแรงบันดาลใจ และกระตุ้นให้เด็ก ๆ รู้จุดมุ่งหมายของตัวเองแบบ Empower ขอบคุณภาพจาก IG : Ningsophidaa ขอบคุณภาพจาก IG : Ningsophidaaตอนนี้เลยต้องกลับมาย้อนถามผู้เข้าประกวดหรือนางงามทุกคนว่า "ควรจะมีโครงการเป็นของตัวเองหรือไม่ ?" หรือผู้เข้าประกวดหลาย ๆ คนกำลังหลงทางในเขาวงกตว่าการประกวดนางงามคือการแสดง การเดิน การดูแลตัวเอง หรือแม้แต่การตอบคำถาม... ...แต่โดยส่วนตัวเจ้าของบทความคิดว่าการที่นางงามหรือคนซักคนหนึ่งจะทำโครงการเพื่อสังคมนั้น ควรเริ่มต้นมาจากจิตใจภายในของตัวเองว่าตัวเองมีความพร้อมหรือไม่ที่จะทำโครงการ มีความรู้เรื่องที่จะรณรงค์จริงหรือไม่ ต้องการที่จะนำเสนอโครงการเพื่อสังคมนั้นให้โลกได้รับรู้จริงหรือไม่ ทำไปเพราะเป็นสิ่งที่ตัวเองรักหรือเพื่อสร้างสตอรี่ให้แก่ตัวเอง... ตอนนี้ทางเครือ CP และ TRUE กำลังมีโครงการเพื่อสังคมนั่นคือ "โครงการบริจาคอวัยวะ" จึงเชิญชวนทุกคนมาทำความดีส่งต่อลมหายใจให้ผู้อื่น แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะ ดูรายละเอียดและแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะได้ทาง https://www.letthemseelove.com/organ หรือ โทร 1666และ สำหรับลูกค้าทรูมูฟ เอช สามารถร่วมบริจาคสนับสนุนกระบวนการบริจาคอวัยวะได้ตลอดทั้งปี ผ่าน SMS ระบบทรูมูฟ เอช โดยพิมพ์ 10 เพื่อบริจาค 10 บาท หรือพิมพ์ 100 เพื่อบริจาค 100 บาท ส่งไปที่หมายเลข 91255 หรือบริจาคผ่าน TrueYou Application ใช้ 100 ทรูพอยท์ แทนเงินบริจาค 10 บาท / หรือผ่าน TrueMoney Wallet Application จนถึง 31 ธันวาคม 2563ขอบคุณภาพจาก WeAreCPขอบคุณภาพปกจาก https://www.pexels.com/photo/woman-wearing-silver-colored-crown-2078109/สิ่งที่เขาเป็นอาจจะแตกต่าง แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาด้อยกว่าใคร