แสงสีฟ้าจากโทรศัพท์ อันตรายจริงหรือไหม?แสงที่ออกมาจากโทรศัพท์ แท็บเล็ต ทีวี หรือจอคอมพิวเตอร์ แสงที่เราเห็นจะเป็นแสงสีขาว โดยแสงที่เราเห็นนั้นจะแบ่งเป็นหลายโทนสีอยู่ในนั้น โดยแสงที่คนส่วนใหญ่กลัวนั้น จะเป็นแสงสีเข้ม หรือแสงสีน้ำเงิน สีฟ้า หรือสีม่วง โดยธรรมชาติแล้ว ดวงตาของเรานั้นมีการกรองแสงสีฟ้านั้นอยู่แล้ว ซึ่งในคนที่มีดวงตาสีเข้มจะสามารถกรองแสงสีฟ้าได้ดีกว่าคนที่มีดวงตาสีเทา หรือดวงตาสีน้ำข้าว เพราะฉะนั้นจะเกิดความเสี่ยง หรือโอกาสที่แสงสีฟ้านั้นจะทำลายจอประสาทตาก็จะน้อยลง แต่อย่างไรก็ตามหากดวงตาของเราสัมผัสแสงสีฟ้าอยู่ตลอดเวลา ก็จะทำให้เกิดความเสี่ยงมากขึ้นอยู่ดีแสงสีฟ้ามาจากที่ไหนบ้างแสงสีฟ้านั้นมาจาก อุปกรณ์ที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต ทีวี และคอมพิวเตอร์ แม้กระทั้งแสงหลอดไฟนั้นก็มีแสงสีฟ้า โดยเฉพาะหลอด LED จะมีแสงสีฟ้าอยู่มากถึง 30% แสงสีฟ้านั้นมีอยู่รอบตัวเราแสงสีฟ้ามีอันตรายอย่างไร1. ทำให้จอประสาทตาเกิดการเสื่อมก่อนอายุ2. ทำให้สูญเสียการมองเห็น สายตาสั้น หรือสายตายาว3. ทำให้เกิดต้อกระจก4. ทำให้ความจำมีปัญหา5. ทำให้ความสามารถในการเรียนรู้ลดลง6. ทำให้เกิดโรคซึมเศร้าได้7. ทำให้เป็นโรคอ้วน และมีโอกาสการเกิดมะเร็งสูงอุปกรณ์ป้องกันแสงสีฟ้าในปัจจุบันมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการตัดแสงสีฟ้า หรือลดแสงสีฟ้ามากมาย เช่น แว่นตากรองแสง ฟิล์มตัดแสง ซึ่งในทางทฤษฎีแล้วสามารถช่วยในการกรองแสงได้ แต่ก็ต้องตรวจสอบด้วยว่าอุปกรณ์นั้นถูกต้องตามหลักการ หรือมีคุณภาพหรือไม่ โดยแว่นส่วนใหญ่ที่ใช้ในการกรองแสงนั้น สามารถกรองได้ทุกแสง และแว่นที่สามารถกรองแสงสีฟ้า หรือสีเข้มได้เพียงอย่างเดียววิธีป้องกันสายตาของตัวเองจากแสงสีฟ้าแต่เดิมคนส่วนใหญ่จะใส่แว่นตากันแดดในการลดการรับแสงที่มากเกินไป ซึ่งแว่นตากันแดดนั้น สามารถกรองได้ทุกแสง แต่ในปัจจุบันโลกมีความพัฒนา มีเทคโนโลยีก้าวไกล ผู้คนส่วนใหญ่นิยมใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีมากขึ้น ดวงตาได้รับแสงสีฟ้ามากขึ้น เพราะฉะนั้นต้องพยายามรับแสงสีฟ้าเหล่านั้นให้น้อยที่สุด เพื่อป้องกันดวงตาของเราจากอันตรายของแสงสีฟ้านั่นเองสรุปอย่างไรก็ตามเราควรลดแสงของหน้าจอโทรศัพท์ลง และใช้โทรศัพท์ในพื้นที่ที่มีแสงสว่างที่เหมาะสมเพียงพอต่อดวงตาของเรา เพื่อป้องกันจอประสาทตาของเราให้ได้รับอันตรายจากแสงสีฟ้าให้น้อยที่สุด หรือใช้แสงสีฟ้าให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ หากไม่จำเป็นไม่ควรรับแสงสีฟ้าจนมากเกินไปขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก โดย Pexels รูปภาพประกอบที่ 1 โดย bniique / 2 โดย fancycrave1 / 3 โดย KELLEPICS / 4 โดย Free-Photos / 5 โดย Free-Photos