เราตัดสินใจพาตัวเองไปในที่ที่ไม่เคยไป ไปฟังสำเนียงการพูดแปลกหู ไปใช้ภาษาที่แปลกหน้า ในแบบที่ไม่เคยได้ยินได้ฟัง และที่นี่ก็ถูกเลือกให้เป็นจุดหมายปลายทาง ถ้ำบาตู อยู่ห่างจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ไปทางเหนือ ประมาณ 14 กิโลเมตร เป็นถ้ำหินปูนประกอบด้วยสามถ้ำหลัก ซึ่งใช้เป็นวัดและศาลในศาสนาฮินดู ถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมในศาสนาฮินดู สิ่งที่น่าสนใจที่สุดของถ้ำบาตูก็คือ รูปปั้นเทพของศาสนาฮินดูขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับปากถ้ำ หากเดินขึ้นบันได 272 ขั้น จะสามารถมองเห็นวิวของเมืองได้อย่างชัดเจน การคมนาคมในเมืองกัวลาลัมเปอร์สะดวกมากค่ะ โดยจะมีสายรถไฟฟ้าที่หลากหลาย ทั้งโมโนเรล รถไฟธรรมดา รถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าใต้ดิน และบีทีเอส เป็นต้น ในวันนี้การเดินทางไปที่ถ้ำบาตู เราจึงเลือกใช้บริการ รถไฟธรรมดา สาย KTM Komuter เส้นสีแดง สุดสายที่สถานี Batu Caves หลังจากนั้นเดินตามป้ายอีก 400 เมตร ก็ถึงถ้ำเลย เมื่อเดินมาถึง แม้เราตะลึงให้กับความยิ่งใหญ่อลังการ ของรูปปั้นเทพเจ้าในศาสนาฮินดูมากแค่ไหน แต่ความหิวก็ไม่เคยรอใคร จึงเดินหาอะไรที่พอทานได้ในแถวนั้น และก็ได้เจอกับร้านนี้ หลังจากดูเมนูอยู่นาน จึงตัดสินใจสั่งชานมเป็นอันดับแรก แต่แน่นอน เราดื่มทีเดียวหมดแก้ว ไม่ทันได้ถ่ายรูป หอมกลิ่นชามาก แล้วตามด้วยโรตีกล้วยหอมจานนี้ รสชาติอร่อยมาก ให้กล้วยหอมเยอะมาก ในราคาคิดเป็นเงินไทย ไม่ถึง 20 บาทเอง สิ่งที่แตกต่างจากโรตีบ้านเราคือ เค้าไม่ใส่นม ไม่ใส่น้ำตาล ไม่เพิ่มความหวานใด ๆ นอกจากความหวานจากกล้วยล้วน ๆ เมื่อหนังท้องตึง แต่เราจะไม่ยอมให้หนังตาเราหย่อนเป็นเด็ดขาด ขาทั้ง 2 ข้าง ก้ได้พาเราก้าวมาถึงทางขึ้นของบันได จะมีหนุ่ม ๆ สาว ๆ คอยสอดส่องดูแล หากพบเจอผู้หญิงสวมกางเกงขาสั้น ก็จะให้ผ้าสำหรับคลุมให้เช่นในภาพ แต่ต้องจ่ายมัดจำ 5 ริงกิต และขาลงเมื่อเอาผ้ามาคืน จะได้เงินคืนแค่ 2 ริงกิตเท่านั้น เมื่อเดินขึ้นไปแล้วมองย้อนกลับลงมา ก็จะเห็นทิวทัศน์เป็นแบบนี้ ระหว่างทางจะมีน้องลิงเดินวิ่งไปมาเพื่อแย่งของกินหรือสิ่งของในมือนักท่องเที่ยว พยายามอย่าถืออะไรขึ้นไปนะคะเพราะน้อง ๆ จะแย่งเอาไปหมด ในรูปที่มือของน้องตัวขวาน่าจะเป็นกระเป๋าเงินจากนักท่องเที่ยว เมื่อเดินขึ้นไปถึงชั้นบนในส่วนของตัวถ้ำ จะมีน้ำจากต้นไม้ด้านบนหยดลงมาตลอดเวลา ทำให้พื้นในถ้ำค่อนข้างเปียก อาจทำให้นักท่องเที่ยวบางคนลื่นได้ ดังนั้นหากใครมีโอกาศได้มาที่นี่ ก่อนมาก็หมั่นออกกำลังกายเพื่อให้แข็งแรงด้วยนะคะ เพราะเวลาเดิน-ลงบันไดจะได้ไม่เหนื่อยมาก และแนะนำให้ใส่รองเท้าที่ใส่สบาย กระฉับกระเฉง และคล่องตัวเวลาเดินเที่ยว ที่นี่ ยังไม่มีการเรียกเก็บค่าเข้าชมใด ๆ นะคะ สามารถเข้าได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 21.00 น. รูปประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน : Prissana Choy