ไลฟ์แฮ็ก
แนะวิธีเช็คอาการโนโมโฟเบีย
ภาพปก https://bit.ly/38FdObi
แนะวิธีเช็คอาการโนโมโฟเบีย
การติดโทรศัพท์อย่างรุนแรงเป็นสิ่งที่น่าห่วง เพราะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาหลายด้าน นอกเหนือไปจากปัญหาในเรื่องการปฏิสัมพันธ์กับผู้คน และอาการนี้ได้กลายเป็นโรคสำหรับคนยุคใหม่ ที่เรียกว่า “โนโมโฟเบีย” (Nomophobia) ซึ่ง มาจากคำว่า no mobile phone phobia ซึ่งอาการของโรคนี้จะทำให้วิตกกังวล กระสับกระส่ายเมื่อไม่มีโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือ เกรงว่าจะขาดการติดต่อ หรือรับรู้ข้อมูลต่าง ๆ จากโทรศัพท์มือถือ
ขอบคุณภาพ freepik https://bit.ly/3c0keUG
โรคที่มีสาเหตุมาจาก โมโนโฟเบีย
นอกจากความวิตกกังวล เมื่อต้องห่างจากโทรศัพท์มือถือแล้ว โรคนี้ยังทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาอีกมากโดยเฉพาะ โรคภัยไข้เจ็บที่ต้องรักษากันเป็นระยะเวลานานได้แก่
- ปัญหาสายตา เช่นจอประสาทตาเสื่อม หรือวุ้นในตาเสื่อม ซึ่งมาจากการทีใช้สายตาจ้องจอโทรศัพท์ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
- ปวดเมื่อยบ่า คอ ไหล่ จากการก้มดูโทรศัพท์ ต้องเกร็งกล้ามเนื้อคอ,บ่า ไหล่เป็นเวลานาน ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก
- นิ้วล็อก เป็นปัญหาต่อเนื่องมาจากการใช้นิ้วมือจิ้มหรือสไลด์หน้าจอโทรศัพท์มาก ๆ รวมถึงจะมีปัญหาที่กล้ามเนื้อข้อมือ หรือเอ็นข้อมือที่อาจอักเสบได้ด้วย
Advertisement
Advertisement
ขอบคุณภาพ freepik https://bit.ly/2P8u3G5
สัญญาณบ่งบอกว่ามีอาการโนโมโฟเบียหรือไม่
สิ่งเหล่านี้เป็นตัวบ่งบอกว่ากำลังมีอาการโนโมโฟเบีย ลองตรวจสอบตัวเองดูว่ามีอาการหรือพฤติกรรมดังต่อไปนี้หรือไม่
- ต้องคอยเช็คข้อมูล คอยดูโทรศัพท์ตลอดเวลาเหมือนกับคนหมกมุ่น ใส่ใจสิ่งรอบตัวน้อยลง ต้องหยิบโทรศัพท์มาคอยดูอยู่เรื่อยๆ แม้จะไม่มีเรื่องด่วนให้ต้องคอยติดตามข้อมูลก็ตาม
- หยิบมือถือเป็นสิ่งแรกหลังจากตื่นนอนและวางโทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งสุดท้ายก่อนเข้านอน
- ต้องมีโทรศัพท์ติดตัว ในขณะทำกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การเข้าห้องน้ำ, รับประทานอาหาร หรือแม้แต่ช่วงที่ออกกำลังกาย
- ไม่เคยปิดโทรศัพท์
- หากวางโทรศัพท์ไว้ผิดที่ผิดทาง จะกระวนกระวายมากและไม่มีสมาธิทำอย่างอื่น
- ใช้เวลากับผู้คนในโลกออนไลน์มากกว่าคนรอบข้าง
ขอบคุณภาพ freepik https://bit.ly/3261ZIQ
Advertisement
Advertisement
หากเช็คแล้วว่ากำลังมีปัญหาโนโมโฟเบียเกิดขึ้นกับตนเองต้องรีบแก้ไข โดยอาจใช้เทคนิควิธีการนี้ไปปรับใช้เพื่อแก้ปัญหาโนโมโฟเบีย เช่น การตั้งกฎกติกาให้กับตนเองว่าจะไม่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูในช่วง 30 นาทีหรือ 1 ชั่วโมงแล้วค่อย ๆ ขยับเวลาให้นานขึ้น หรืออาจหากิจกรรม อื่น ๆ มาทดแทน รวมถึงไม่พกโทรศัพท์เข้าไปในห้องนอน เป็นต้น และควรต้องเร่งรีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทันทีก่อนสุขภาพจะทรุดโทรมลง
ขอบคุณภาพ freepik https://bit.ly/3295PAK
ความคิดเห็น